Xiaomi ท้าชน Tesla รุกคืบสู่สมรภูมิ EV เต็มตัว
การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า SUV รุ่นใหม่ YU7 ของ Xiaomi Corp. เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2025 ได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งสำคัญในตลาดยานยนต์จีน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับคู่แข่งหลักอย่าง Tesla Model Y ราคาตั้งต้นของ YU7 ถูกกำหนดไว้ที่ 253,500 หยวน หรือประมาณ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าราคาเริ่มต้นของ Model Y ราว 10,000 หยวน ส่งผลให้ Xiaomi สามารถสร้างยอดจองสูงถึง 289,000 คัน ภายในชั่วโมงแรกหลังการเปิดตัว กระแสตอบรับที่ร้อนแรงนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาด EV ที่เริ่มมีการแข่งขันสูงขึ้น และยังส่งผลให้ราคาหุ้นของ Xiaomi ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8% ทำสถิติสูงสุดใหม่ของบริษัท
เป้าหมายเพื่อแข่งขันกับ Tesla
กลยุทธ์การเปิดตัว YU7 ไม่ใช่แค่การแข่งขันด้านราคาเท่านั้น แต่ Xiaomi ยังวางกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน โดยตัวรถสามารถขับเคลื่อนได้ไกลสูงสุด 760 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง พร้อมแพลตฟอร์ม 800 โวลต์ที่รองรับการชาร์จเร็ว และฟีเจอร์เทคโนโลยีช่วยขับขี่ที่ติดตั้งระบบ lidar ขั้นสูง สิ่งนี้แสดงถึงการวางหมากเชิงลึกของ Xiaomi ที่พยายามตอบโจทย์ผู้บริโภคจีนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีขั้นสูงในราคาที่สมเหตุสมผล
Lei Jun ผู้ก่อตั้ง Xiaomi เน้นย้ำในงานเปิดตัวว่า บริษัทมีเป้าหมายในการแข่งขันโดยตรงกับ Tesla เช่นเดียวกับที่ Xiaomi เคยท้าชนกับ Apple ในตลาดสมาร์ทโฟนมาแล้ว แนวทางการตลาดนี้ส่งสัญญาณว่าบริษัทมีความมั่นใจอย่างสูงในผลิตภัณฑ์ของตน และพร้อมที่จะทุ่มงบลงทุน 200,000 ล้านหยวนในช่วง 5 ปีข้างหน้า เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอุปกรณ์อัจฉริยะระดับโลก
ความท้าทายคือการกำกับดูแลของจีน
แม้การเปิดตัว YU7 จะประสบความสำเร็จในด้านยอดจอง แต่ Xiaomi ยังต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน โดยเฉพาะความเข้มงวดจากหน่วยงานกำกับดูแลของจีนที่ให้ความสำคัญกับปัญหาการแข่งขันด้านราคาที่อาจทำลายสมดุลตลาด อีกทั้งยังมีข้อกังวลจากเหตุการณ์อุบัติเหตุของรถรุ่น SU7 ที่ทำให้ Xiaomi ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น และจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในระยะยาว
นอกจากนี้ การแข่งขันที่เข้มข้นในตลาด EV จากคู่แข่งสำคัญอย่าง BYD และ Tesla รวมถึงแบรนด์อื่นๆ ที่มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว อาจส่งผลต่อการเติบโตและการรักษาระดับกำไรของ Xiaomi ในระยะยาวได้เช่นกัน
บริษัทที่สามารถทำกำไรจากธุรกิจ EV ได้เร็วที่สุด
Lei Jun ได้คาดการณ์ว่าธุรกิจ EV ของ Xiaomi จะเริ่มทำกำไรได้ภายในครึ่งหลังของปี 2025 ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง Xiaomi จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่สามารถทำกำไรจากธุรกิจ EV ได้เร็วที่สุดในตลาดนี้ อย่างไรก็ตาม การบรรลุเป้าหมายนี้ขึ้นอยู่กับการบริหารต้นทุนการผลิต การรักษายอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และการขยายกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
ในด้านการเงิน Goldman Sachs ประเมินว่า YU7 จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ Xiaomi ขยายฐานลูกค้าและทำยอดขาย EV ปี 2025 ได้สูงกว่าที่บริษัทตั้งเป้าไว้ โดยคาดว่ายอดขาย YU7 อาจสูงถึง 41% ของยอดขายรถ EV ของ Xiaomi ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2025
Xiaomi กับอนาคตผู้นำตลาด EV โลก
การเปิดตัว YU7 เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของ Xiaomi ในการกำหนดบทบาทใหม่ในอุตสาหกรรม EV และเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทจะสามารถยืนหยัดและก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดได้อย่างแท้จริง ยังมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาอีกหลายด้าน เช่น ความสามารถในการบริหารจัดการ supply chain การตอบสนองต่อกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของรัฐบาลจีน และที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างความไว้วางใจและความภักดีของลูกค้าในระยะยาว
สำหรับนักลงทุน คำถามสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ Xiaomi จะสามารถก้าวข้ามความท้าทายเหล่านี้ และรักษาโมเมนตัมการเติบโตในตลาด EV ที่แข่งขันสูงนี้ได้ในระยะยาวหรือไม่ และหากบริษัทสามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในเชิงกลยุทธ์ได้อย่างชัดเจน Xiaomi อาจไม่ได้เป็นแค่ผู้ท้าชิง แต่จะกลายเป็นผู้นำที่สำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลกในอนาคตอันใกล้