โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

Nvidia ผู้นำแห่งยุค AI ลุ้นโตอีก 1 เท่าในปี 2028

Finnomena

เผยแพร่ 27 มิ.ย. เวลา 00.05 น. • จิรัฐิติ ขันติพะโล

การเติบโตของ Nvidia ในช่วงสามปีที่ผ่านมาเป็นตัวอย่างสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระบบเศรษฐกิจแบบดิจิทัล

จากบริษัทซึ่งเคยเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตการ์ดจอสำหรับเกมเมอร์ ได้กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกในปัจจุบัน

ปลายเดือน มิ.ย. ปี 2025 Nvidia ได้กลับขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลกอีกครั้ง ด้วยมูลค่ารวมกว่า 3.77 ล้านล้านดอลลาร์ แซงหน้า Microsoft และ Apple

การเติบโตดังกล่าวไม่ใช่แค่การเกาะกระแส แต่เป็นการผลักดันตัวเองให้กลายเป็น “ต้นน้ำ” ของระบบนิเวศด้าน AI โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล (data centers), โครงสร้างพื้นฐาน cloud และเครื่องมือพัฒนาโมเดลภาษาและ machine learning ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ลูกค้าหลักของ Nvidia ได้แก่ Microsoft, Amazon, Meta และ Alphabet ซึ่งรวมกันแล้วคิดเป็นสัดส่วนกว่า 40% ของรายได้บริษัท ต่างต้องพึ่งพาเทคโนโลยีของ Nvidia ในการผลักดันกลยุทธ์ด้าน AI ของตนเอง เมื่อบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เหล่านี้ลงทุนขยายศูนย์ข้อมูลและพัฒนาโมเดล AI ขั้นสูง ความต้องการชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูงของ Nvidia ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตตามขนาดของเศรษฐกิจดิจิทัล

ประเด็นสำคัญคือ Nvidia ไม่ได้เพียงขายสินค้า แต่เป็นผู้วางรากฐานด้านเทคโนโลยีที่ทำให้การเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรม AI เกิดขึ้นจริง

ในมุมนี้ บริษัทจึงเปรียบได้กับผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานแบบใหม่ เช่นเดียวกับที่ผู้ผลิตไฟฟ้าและเครือข่ายโทรคมนาคมเคยเป็นในยุคอุตสาหกรรมและอินเทอร์เน็ต

ขุมพลังของ Nvidia คือหัวใจของ AI

Bloomberg วิเคราะห์ว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Nvidia ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำระดับโลกไม่ใช่เพียงเรื่องขนาดหรือยอดขาย แต่คือความได้เปรียบเชิงโครงสร้าง (structural advantage) ที่ฝังลึกอยู่ในระบบเทคโนโลยีของบริษัท

Nvidia เป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่สามารถครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม CUDA ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานในการพัฒนา AI ที่ใช้ GPU การผสานรวมระหว่างผลิตภัณฑ์ชิปที่มีประสิทธิภาพสูงกับระบบพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้จริง ทำให้ลูกค้ายึดติดกับระบบนิเวศของ Nvidia และลดความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์จากคู่แข่ง

เทคโนโลยีชิป AI ของ Nvidia ไม่ได้เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่เป็นหัวใจสำคัญของการประมวลผลในงานด้านปัญญาประดิษฐ์ ตั้งแต่การเทรนโมเดลภาษาขนาดใหญ่ ไปจนถึงการใช้งานจริงในระบบผู้ช่วยอัจฉริยะและแอปพลิเคชันเชิงพาณิชย์ ความสามารถในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ด้วยความเร็วและประสิทธิภาพที่เหนือกว่าชิปทั่วไป ทำให้ Nvidia มีตำแหน่งที่ยากจะทดแทนในโครงสร้างอุตสาหกรรม AI ที่กำลังขยายตัว

หุ้น Nvidia ยังไม่แพงเกินไป?

ในด้านผลประกอบการ บริษัทยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (gross margin) ได้ในระดับสูงที่ราว 75%–77% สะท้อนถึงอำนาจในการตั้งราคา และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัดด้าน valuation หลายตัวชี้ว่า แม้ราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังไม่ได้สูงเกินไป ตัวอย่างเช่น P/E Ratio คาดการณ์ล่วงหน้าอยู่ที่ประมาณ 31.5 เท่า ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีของบริษัท อีกทั้ง PEG Ratio ยังอยู่ที่เพียง 0.9 ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีระดับเดียวกัน

สิ่งนี้ทำให้นักวิเคราะห์จำนวนมากยังคงมองว่า Nvidia เป็นหุ้นที่มีความสมดุลระหว่างอัตราการเติบโตและระดับความเสี่ยง อีกทั้งยังมีปัจจัยสนับสนุนจากระบบนิเวศทางเทคโนโลยีที่คู่แข่งตามไม่ทันในระยะใกล้

มูลค่าจะโต 1 เท่า แตะ $6 ล้านล้านในปี 2028

แม้จะเติบโตอย่างน่าประทับใจ แต่ยังไม่มีสัญญาณว่าตลาด AI ที่ Nvidia ครอบครองอยู่ จะเข้าสู่จุดอิ่มตัว ในทางตรงกันข้าม แนวโน้มการลงทุนในด้านนี้ยังขยายตัวอย่างรวดเร็ว และยังอยู่ในช่วงต้นของวัฏจักรการเติบโต

ล่าสุด บริษัทวิจัย Loop Capital ได้ประเมินว่า Nvidia อาจมีมูลค่าตลาดแตะระดับ 6 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 หรือคิดเป็นการเติบโตอีกประมาณ 100% จากราคาเมื่อเดือน พ.ค. โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือการขยายตัวของเม็ดเงินลงทุนใน AI Infrastructure ทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านล้านดอลลาร์ในอีกสามปีข้างหน้า

เมื่อพิจารณาข้อมูลประกอบ เช่น ส่วนแบ่งตลาดของ Nvidia ในกลุ่มชิป AI สำหรับศูนย์ข้อมูลที่มีมากกว่า 80% ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างรายได้ของบริษัทกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจากลูกค้ารายใหญ่ คำคาดการณ์นี้จึงอาจไม่ใช่การมองโลกในแง่ดีเกินไป

อีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนคือ การถือครองหุ้น Nvidia ของนักลงทุนสถาบันที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าคู่แข่งในกลุ่ม Big Tech ตามข้อมูลจาก Bank of America นักลงทุนแบบ long-only ถือครองหุ้น Nvidia เพียง 74% ของพอร์ต เทียบกับ Microsoft ที่อยู่ในระดับ 91% ซึ่งหมายความว่า Nvidia ยังมีพื้นที่ให้เงินทุนไหลเข้าได้อีกมาก หากมีความชัดเจนด้านแนวโน้มกำไรและเสถียรภาพทางธุรกิจเพิ่มเติม

อะไรคือความเสี่ยงของ Nvidia?

ด้านความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อเสถียรภาพในอนาคต หนึ่งในประเด็นสำคัญคือ ความต่อเนื่องของการลงทุนจากลูกค้าหลัก หากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เริ่มชะลอการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านต้นทุนหรือสภาวะเศรษฐกิจมหภาค อัตราการเติบโตของ Nvidia อาจชะลอลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากฐานรายได้หลักมีความกระจุกตัวสูง

นอกจากนี้ ข้อจำกัดด้านนโยบายต่างประเทศ เช่น การห้ามส่งออกชิปขั้นสูงไปยังจีน ก็เป็นปัจจัยภายนอกที่อาจกระทบต่อรายได้ แม้ Nvidia จะมีการพัฒนาชิปทางเลือกเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการควบคุม แต่ความไม่แน่นอนด้านนโยบายยังคงเป็นตัวแปรที่ควรจับตาอย่างใกล้ชิด

ในระยะยาว ยังต้องพิจารณาความเป็นไปได้ที่บริษัทคู่แข่ง ทั้งรายเก่าที่มีศักยภาพอย่าง AMD และ Intel หรือรายใหม่ที่ได้รับเงินทุนจากตลาดเอกชน อาจเริ่มพัฒนาเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงหรือสามารถทดแทนชิปของ Nvidia ได้ในระดับใดระดับหนึ่ง แม้จะยังไม่มีสัญญาณว่าช่องว่างด้านเทคโนโลยีจะถูกปิดในระยะสั้น แต่ในโลกเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็ว โอกาสพลิกเกมไม่ควรถูกมองข้าม

คำถามเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญในเวลานี้จึงไม่ใช่แค่เรื่อง valuation แต่คือการประเมินว่า Nvidia จะสามารถรักษาบทบาทในฐานะ “โครงสร้างพื้นฐานของยุค AI” ได้ยาวนานแค่ไหน และมีความสามารถในการปรับตัวต่อคลื่นเทคโนโลยีลูกถัดไปได้มากเพียงใด

ในช่วงเวลาที่ AI กำลังมีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรม Nvidia ไม่ใช่เพียงผู้ตามกระแส แต่จะเป็นผู้วางแนวทางของอุตสาหกรรม AI

นี่จึงเป็นเหตุผลที่นักลงทุนจำนวนมากยังคงให้ความสำคัญกับบริษัทนี้ และอาจทำให้บริษัทมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่า จนแตะระดับ $6 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2028

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Finnomena

Xiaomi ท้าชน Tesla รุกคืบสู่สมรภูมิ EV เต็มตัว

11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Tesla “แพง” เกินไปหรือไม่? วิธีประเมินมูลค่าหุ้น Tesla

1 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

ดาโอ สแกนหุ้นรับผลกระทบ หากสหรัฐเก็บภาษีสูงเกิน 10% มีหุ้นไหนบ้าง

ทันหุ้น

PSP ทุ่ม 220.5 ลบ. ซื้อหุ้น RE เพิ่ม เป็น 100% เสริมธุรกิจสีเขียว

ทันหุ้น

KGI คัด 2 หุ้นเด่น แนะเก็งกำไร ตามปัจจัยพื้นฐาน

ทันหุ้น

“ประยงค์ วนิชสุวรรณ” ช้อนซื้อ COCOCO เข้าพอร์ตเพิ่ม 1.29 ล้านหุ้น ดันถือ 5%

ข่าวหุ้นธุรกิจ

อย่าให้ประเทศไทยล่มสลายเพราะคอร์รัปชัน | เศรษฐศาสตร์บัณฑิต

กรุงเทพธุรกิจ

‘พิชัย’ นำทีมไทยแลนด์เดินทางคืนนี้ เจรจาภาษีสหรัฐ ยึดประโยชน์ร่วม 2 ประเทศ

กรุงเทพธุรกิจ

AOT กสิกรไทย มองหลังขยายเวลาชำระเงินให้ "คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี"

ทันหุ้น

แนวโน้ม SET “ไซด์เวย์” การเมืองกดดัน-ขาย DELTA ถ่วงดัชนี รับเกณฑ์ใหม่ SET50

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ลงทุนหุ้น Nvidia ผู้นำเทคโนโลยีแห่งยุค AI บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก

Finnomena

รีวิวกองทุน TEMxCH หนีภาษี (นำเข้า) คว้าโอกาสในตลาดเกิดใหม่

Finnomena

คัมภีร์ลงทุนแบบ ดร.นิเวศน์ ประจำปี 2025

Finnomena
ดูเพิ่ม
Loading...