Tesla “แพง” เกินไปหรือไม่? วิธีประเมินมูลค่าหุ้น Tesla
การประเมินมูลค่าของ Tesla เป็นเรื่องที่ท้าทาย และกลายเป็นประเด็นถกเถียงในหมู่นักลงทุนมาโดยตลอด บางคนมองว่ามูลค่าตลาดระดับล้านล้านดอลลาร์ของบริษัทนั้นสมเหตุผล เมื่อพิจารณาถึงศักยภาพในอนาคต ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าราคาหุ้นสูงเกินจริง เป็นราคาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังในอนาคต
จุดที่ทำให้ Tesla แตกต่างจากบริษัทอื่นคือ มูลค่าหุ้นไม่ได้สะท้อนแค่รายได้จากธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นแกนหลักในปัจจุบัน แต่สะท้อนความเชื่อในอนาคตที่ Elon Musk พยายามผลักดัน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไร้คนขับ (robotaxi), ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (FSD) หรือแม้แต่หุ่นยนต์สองขาอย่าง Optimus ซึ่งยังอยู่ในช่วงพัฒนา
แม้ปัจจุบัน รายได้ส่วนใหญ่ของ Tesla จะมาจากการขายรถยนต์ แต่ราคาหุ้นกลับขึ้นอยู่กับสิ่งที่ “ยังไม่เกิดขึ้น” อย่างชัดเจน นั่นทำให้การประเมินมูลค่าของ Tesla กลายเป็นเรื่องของ “ความเชื่อ” มากพอๆ กับ “ตัวเลขทางบัญชี”
Tesla กำลังสูญเสียความได้เปรียบ?
แม้ Tesla จะเป็นผู้นำระดับโลก ด้านยอดขายรถยนต์ไฟฟ้านอกประเทศจีน โดยมียอดขายรถคิดเป็นสัดส่วนรายได้กว่า 80% ในปีที่ผ่านมา และมีรายได้ส่วนอื่นมาจากธุรกิจบริการ เช่น สถานีชาร์จพลังงาน รวมถึงผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์ แต่เมื่อพิจารณาปัจจัยเชิงโครงสร้าง ธุรกิจหลักของ Tesla กำลังเผชิญแรงกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ
ตั้งแต่ยอดขายที่เริ่มชะลอตัว และอัตรากำไรของธุรกิจยานยนต์ที่ลดลงมาอยู่ที่ระดับราว 17% ซึ่งเข้าใกล้ผู้ผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิมอย่าง General Motors (GM) และ Ford มากขึ้น ต่างจากช่วงก่อนหน้าที่ Tesla เคยมี margin สูงอย่างโดดเด่น
นอกจากนี้ คู่แข่งจากจีนอย่าง BYD เริ่มกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการแข่งขัน โดยเฉพาะเมื่อยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า BYD สามารถแซงหน้า Tesla ได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 และยังขยายตลาดในยุโรปได้อย่างรวดเร็ว
ขณะที่ในฝั่งสหรัฐฯ และยุโรป Tesla ยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากประเด็นทางการเมืองและภาพลักษณ์ของ Elon Musk ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อยอดขาย พร้อมกับการหยุดโรงงานเพื่อปรับปรุงไลน์การผลิต Model Y ก็ยิ่งซ้ำเติมยอดขายให้ต่ำลง
นักวิเคราะห์เสนอประเมินมูลค่าแบบแยกส่วน
เมื่อรวมปัจจัยต่างๆ เข้าด้วยกัน นักวิเคราะห์หลายรายจึงได้แยกการประเมินมูลค่าระหว่าง “ธุรกิจรถยนต์ในปัจจุบัน” และ “ธุรกิจเทคโนโลยีในอนาคต” ออกจากกันอย่างชัดเจน
เช่น Colin Langan จาก Wells Fargo ให้มูลค่าธุรกิจรถยนต์ของ Tesla ที่ราว 65 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่วน Morgan Stanley ประเมินไว้ที่ 75 ดอลลาร์ ขณะที่ข้อมูลจาก Bloomberg สะท้อนว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ให้น้ำหนักมูลค่าธุรกิจรถยนต์ของ Tesla อยู่ในช่วง 50–100 ดอลลาร์ต่อหุ้น
Robotaxi ความฝันหรือความจริง?
Tesla แตกต่างจากผู้ผลิตรถยนต์ทั่วไป เพราะถูกมองว่าเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่อาจปฏิวัติอุตสาหกรรมด้วยบริการไร้คนขับหรือ robotaxi ซึ่งถูกคาดหวังว่าจะมาแทนบริการแบบ Uber หรือ Lyft ในอนาคต
ในเดือนมิถุนายน 2025 Tesla เริ่มให้บริการ robotaxi ที่ออสติน แม้จะยังต้องมีคนขับนั่งอยู่ในรถ แต่หุ้นก็พุ่งขึ้นกว่า 8% ในวันเดียว สะท้อนว่าตลาดให้ราคากับ “ความคาดหวังในอนาคต” มากกว่าผลลัพธ์ที่จับต้องได้ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ระบบ Full Self-Driving (FSD) ของ Tesla ยังไม่ได้รับการอนุมัติให้เป็นระบบไร้คนขับอย่างสมบูรณ์ และอยู่ระหว่างการสอบสวนโดย NHTSA จากอุบัติเหตุที่อาจเกี่ยวข้องกับระบบ
แต่ Waymo ของ Alphabet กลับสามารถให้บริการได้จริง โดยมี robotaxi วิ่งในหลายเมือง และมียอดให้บริการแล้วกว่า 250,000 ครั้งต่อสัปดาห์ แม้ยังไม่สามารถสร้างรายได้เทียบเท่า Tesla แต่ความเสถียรของเทคโนโลยีอาจทำให้นักลงทุนมองศักยภาพของ Tesla ในธุรกิจนี้อย่างระมัดระวังมากขึ้น
บริการ robotaxi ของ Tesla จึงเป็นบททดสอบสำคัญ ว่าบริษัทจะเปลี่ยนวิสัยทัศน์ให้กลายเป็นรายได้จริงได้หรือไม่ ท่ามกลางการแข่งขันที่กำลังร้อนแรง
Tesla ควรมีมูลค่าเท่าไร?
ปัจจุบัน ราคาหุ้น Tesla ซื้อขายที่ P/E ล่วงหน้ากว่า 130 เท่า สะท้อนความคาดหวังในอนาคต มากกว่าผลประกอบการจริงในปัจจุบัน ซึ่งต่างจาก GM, Ford หรือแม้แต่ Microsoft ที่อยู่ในระดับไม่เกิน 10–32 เท่า
Nicholas Colas จาก DataTrek ประเมินว่า มูลค่าหุ้น Tesla ปัจจุบันสะท้อนรายได้จริงเพียง 5% ส่วนที่เหลืออีก 95% คือความเชื่อว่า Tesla จะสร้างธุรกิจใหม่ในอนาคตได้สำเร็จ
แม้การประเมินเช่นนี้จะคล้ายแนวทางของ Venture Capital แต่ก็มีความเสี่ยงสูง เพราะสมมุติฐานเพียงเล็กน้อยที่เปลี่ยนไป อาจกระทบมูลค่าหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ
Adam Jonas จาก Morgan Stanley ยังมองเห็นศักยภาพในบริการ ride-sharing และระบบชาร์จไฟ แต่ก็ยังไม่ให้มูลค่ากับโครงการ Optimus ที่ยังไม่มีผลิตภัณฑ์จริงในตลาด
Elon Musk สินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงของ Tesla
Tesla ไม่ได้ถูกประเมินมูลค่าจากตัวธุรกิจหรือรายได้เท่านั้น แต่รวมถึงบทบาทของ Elon Musk ที่เป็นผู้สะท้อนภาพลักษณ์และวิสัยทัศน์ของบริษัท ความสามารถของเขาในการกำหนดทิศทาง สร้างนวัตกรรม และดึงดูดความสนใจจากตลาด ทำให้หุ้น Tesla สะท้อน “มูลค่าของตัวบุคคล” ไม่น้อยไปกว่าตัวธุรกิจ
Musk เคยกล่าวว่า หากไม่สามารถพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติได้ Tesla อาจไม่มีมูลค่าเลย คำพูดนี้สะท้อนระดับความคาดหวังที่นักลงทุนจำนวนมากมีต่อเขา ไม่ใช่แค่ในฐานะผู้บริหาร แต่ในฐานะผู้ผลักดันอนาคต
ในด้านหนึ่ง เขาคือบุคคลที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไปข้างหน้า แต่ในอีกด้าน พฤติกรรมที่คาดเดาไม่ได้ก็มักสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อตลาด ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไม short interest ของ Tesla ลดลงจาก 36% ในปี 2019 เหลือเพียง 3% ในปี 2025 เมื่อนักลงทุนจำนวนมากเริ่มเข้าใจว่า การวิเคราะห์บริษัทนี้ด้วยกรอบเดิมอาจไม่เพียงพออีกต่อไป
ดังนั้น ราคาของ Tesla ในปัจจุบัน จึงไม่ได้สะท้อนแค่ผลประกอบการในวันนี้ แต่มูลค่าหุ้นส่วนใหญ่ถูกขับเคลื่อนด้วยความเชื่อในศักยภาพที่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ความเชื่อนั้นผูกโยงกับ Elon Musk และวิสัยทัศน์ที่ทะเยอทะยาน ตั้งแต่ robotaxi ไปจนถึงหุ่นยนต์ใช้งานเชิงพาณิชย์
หากนักลงทุนเชื่อว่า Tesla จะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมในอนาคต หุ้นนี้อาจยัง “ไม่แพง” แต่หากให้น้ำหนักกับความเสี่ยงและข้อจำกัดในปัจจุบัน มูลค่าที่ตลาดให้ไว้อาจ “แพง” เกินกว่าที่ควรเป็น
คำถามจึงไม่ใช่แค่ Tesla คุ้มค่าหรือไม่ในวันนี้ แต่คือ นักลงทุนเชื่อมากพอจะลงทุนในอนาคตที่ยังมาไม่ถึงหรือไม่?