ลุยเพิกถอนที่ดิน “เขากระโดง” ขณะอธิบดีกรมที่ดินชิงย้ายตัวเอง

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 68 นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงความคืบหน้า การตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน กรณีไม่เพิกถอนโฉนดที่ดินบริเวณเขากระโดง ตำบลอีสาณ และตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์

นายภูมิธรรม ระบุว่า เรื่องที่ดินเขากระโดง มีข้อค้างคา ข้อขัดแย้ง หรือพิจารณาที่แตกต่างกันมาตลอด และได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ขอให้พิจารณาวินิจฉัยว่า เขากระโดงเป็นที่ดินของรัฐ เมื่อศาลมีคำสั่งแล้ว แต่เหตุใดจึงไม่มีการจัดการให้เหมาะสมและถูกต้อง

ด้านนายเดชอิศม์ กล่าวว่า ที่ดินกว่า 5,000 ไร่อยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา และคำพิพากษาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อศาลฎีกาพิพากษาแล้วทางการรถไฟฯได้ทำหนังสือถึงกรมที่ดิน เพื่อให้ทำการเพิกถอนโฉนดที่ดิน แต่ในขณะนั้นกรมที่ดินเพิกเฉย ไม่ทำตามศาลฎีกา นายภูมิธรรมจึง ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา วันนี้สรุปได้ว่าอธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจเพิกถอนโฉนดเขากระโดงตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 61 วรรค 8 ได้เลย

โดยนายภูมิธรรม สั่งให้เพิกถอนที่ดินตั้งแต่ 2 ส.ค. 2568 เป็นต้นไป แต่ขณะนี้ นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน คนที่จะมีอำนาจในการเพิกถอนโฉนดเขากระโดง ยื่นใบขอย้ายออกจากกรมที่ดิน โดยอ้างว่าเพื่อให้สามารถพิจารณาเรื่องต่างๆ ได้ชัดเจนไม่ต้องคำนึงถึงว่าจะเป็นคนกลางที่มีส่วนได้เสีย ซึ่งนายภูมิธรรม อยู่ระหว่างสรรหา อธิบดีกรมที่ดินคนใหม่

นายภูมิธรรม ยืนยัน ไม่ใช่เกมไล่บี้ เครือข่ายพรรคภูมิใจไทยและบ้านใหญ่บุรีรัมย์ เพราะคนที่ไล่บี้ คือ ประชาชนเข้ามายื่นเรื่องให้ตรวจสอบอยู่ตลอด

ขณะที่ นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หลังนายภูมิธรรม แถลงข่าวเรื่องเขากระโดง ว่าคู่พิพาทคือการรถไฟกับกรมที่ดิน แต่ภูมิธรรมกลับตั้งเจ้าหน้าที่การรถไฟมาเป็นกรรมการสอบสวนอธิบดีกรมที่ดินผู้ใต้บังคับบัญชา แล้วยังเอาเจ้าหน้าที่การรถไฟมานั่งแถลงในมหาดไทย อัดคนมหาดไทย และเชื่อข้อมูลจากการรถไฟทั้งสิ้น เป็นการด้อยค่ามหาดไทยโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาไต่สวนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน เป็นคณะกรรมการจากฝ่ายการเมือง ไม่ได้อาศัยอำนาจใดในกฎหมายที่ดิน ในขณะที่คำสั่งอธิบดี เกิดจากคณะกรรมการตามกฎหมายที่ดิน กรรมการที่รัฐมนตรีตั้งเป็นการตั้งโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และผลการวินิจฉัยจะบังคับได้ตามกฎหมายหรือไม่.