โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

"มาริษ" นำคณะทูตขึ้นภูมะเขือดูระเบิดกัมพูชา หลังไทยเก็บกู้ได้ พร้อมดูบ้านเรือน ประชาชนที่เสียหายจากอาวุธไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา

VoiceTV

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • กองบรรณาธิการวอยซ์ออนไลน์

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียน และรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา รวมถึงองค์กรระหว่งประเทศ จำนวน 33 ประเทศ ลงพื้นที่บริเวณหน่วยปฏิบัติการณ์ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยพบทุ่นระเบิดสังหารจริง เพื่อเยี่ยมชมการปฏิบัติงานเก็บกู้ และการตรวจยึดทุ่นระเบิดรวมถึงยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ที่พบในพื้นที่ โดยมีสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์ผลการเก็บกู้ และการยึดอาวุธ

เจ้าหน้าที่จากกองพลทหารช่างที่ 4 กองพลทหารราบที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 ได้รายงานสรุปผลการปฏิบัติงานว่า ที่ผ่านมาสามารถเก็บกู้ และตรวจยึดทุ่นระเบิดสังหารบุคคลได้ทั้งสิ้น 46 ทุ่น โดยในจำนวนนี้มี 16 ทุ่น และอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และยังพบทุ่นระเบิดดักรถถัง ลูกจรวด RPG และลูกระเบิดขนาด 60 และ 82 มม. ซึ่งแม้จะมีการประกาศหยุดยิง 2 ประเทศมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ทหารไทย ยังคงตรวจค้นในเขตพื้นที่ประเทศไทยและยังคงพบทุ่นระเบิดและยุทโธปกรณ์ของฝ่ายกัมพูชาเป็นระยะ

เจ้าหน้าที่ทหารฯ ยังระบุว่า ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ตรวจพบส่วนใหญ่ จะถูกฝังอยู่ไม่ลึกจากพื้นดิน และอำพรางด้วยดินและเศษใบไม้ ซึ่งอุปกรณ์ตรวจจับโลหะเป็นเครื่องมือหลักที่ใช้ในการค้นหา ส่วนความเสียหายที่เกิด จะแตกต่างกันไป และขึ้นอยู่กับชนิดของรองเท้าที่สวมใส่ พร้อมยืนยันด้วยว่า ยุทโธปกรณ์ที่ตรวจยึดได้ แม้บางส่วนจะดูเก่า แต่ไม่ใช่เป็นอาวุธรุ่นโบราณ เพียงแต่มีสภาพทรุดโทรมจากการเก็บรักษาที่ไม่ดี

คณะทูตานุทูต ส่วนหนึ่งได้สอบถามเจ้าหน้าที่ ทั้งสถานที่ที่ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อานุภาพของทุ่นระเบิด และประเทศที่ผลิตทุ่นระเบิดดังกล่าว

ช่วงท้ายของการเยี่ยมชม เจ้าหน้าที่ทหารเรือ ยังได้สาธิตวิธีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลให้คณะผู้สังเกตการณ์ได้รับชมด้วย

จากนั้น ยังได้ลงพื้นที่ เพื่อสังเกตการณ์บ้านเรือนของประชาชน ในอำเภอกันทรลักษ์ ที่ได้รับผลกระทบจากจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ที่ไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชาเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งที่จุดดังกล่าว อยู่ห่างจากพื้นที่ชายแดนประมาณ 5 กิโลเมตร โดยบริเวณตำบลเสาธงชัย เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ถูกกระสุนของฝั่งกัมพูชาหนาแน่นที่สุด มีบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก แต่สาเหตุที่ทำให้มีจำนวนผู้ได้รับผลกระทบบาดเจ็บน้อย เนื่องจาก พื้นที่ได้มีการอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยก่อน เพราะกัมพูชาได้มีการโจมตีในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ก่อน จึงสามารถรักษาชีวิตของประชาชนไว้ได้ แต่ปัจจุบันประชาชนได้กลับเข้าพักที่อาศัยของตนแล้ว แต่บ้านเรือนที่เสียหายบางหลัง ก็ยังไม่สามารถเข้าพักอาศัยได้ ซึ่งประชาชน ยังต้องไปพำนักอยู่กับญาติ

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก VoiceTV

'รัฐบาลและกองทัพเป็นเอกภาพ' ทั้งปราบยาเสพติดและรักษาอธิปไตยชายแดน รัฐบาลพร้อมสนับสนุนความแข็งแกร่งของกองทัพอย่างเต็มที่

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'พันศักดิ์' เสนอใช้ 'สันติภาพ' อาวุธทรงพลังที่สุด รักษาชีวิต-ประหยัดงบ ลดวงจรสูญเสีย แนะ เลิกแข่งกันรบ หันมาแข่งขันเชิงสร้างสรรค์

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

“ทักษิณ” มอบเงิน 1 แสนบาท เยียวยาผู้เสียชีวิตชาวลาว ที่ จ.อุบลราชธานี

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

“พลพีร์” ฟาดแรง งูเห่าภูมิใจไทย โหวตงบฯ 69 สวนพรรค เคาะชามแล้วหางกระดิก

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

‘ปิติ‘ ชี้ระเบียบโลกระส่ำ ผู้นำต้องไม่สับสน ‘ยึดผลประโยชน์ชาติ’ ยกคำ 'ปรีดี’ ไม่ตกเป็นสมุนมหาอำนาจ

MATICHON ONLINE

หมอมิ้ง ยันรัฐบาล-กองทัพ เป็นเอกภาพ ขอคนไทยสามัคคี ต่อสู้ศัตรูของชาติ

Khaosod

ล้ำไปอีกก้าว!! กัมพูชาตั้งออฟฟิศ IOT ผู้สังเกตการณ์อาเซียนในเขตพระวิหาร ชี้เป้าเก็บข้อมูลการหยุดยิง

สยามรัฐ

เลขาธิการนายกฯ เผย รัฐบาลและกองทัพเป็นเอกภาพ ทั้งปราบยาเสพติดและรักษาอธิปไตยชายแดน

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...