ราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังพุ่งแรงในรอบสัปดาห์ จับตาทรัมป์-ปูติน

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บลูมเบิร์ก/รอยเตอร์ รายงานราคาน้ำมันทรงตัวในวันศุกร์ (15 ส.ค. 68) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ และรัสเซียในวันนี้ โดยโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่ามีโอกาสสูงที่การประชุมจะประสบความสำเร็จ ซึ่งอาจนำไปสู่การเจรจากับยูเครน

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ซื้อขายใกล้ระดับ 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้น 1.8% ในการซื้อขายก่อนหน้า ชดเชยการร่วงลงในช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ซื้อขายเบาบางอยู่ที่ประมาณ 64 ดอลลาร์

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าในวันพฤหัสบดี (14 ส.ค. 68) เพิ่มขึ้น 1.21 ดอลลาร์ หรือ 1.84% ปิดที่ 66.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบสัปดาห์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ หรือ 2.09% ปิดที่ 63.96 ดอลลาร์

วลาดิมีร์ ปูติน ยกระดับการรุกทางการทูตของเขาก่อนการประชุม โดยยกย่องความพยายามของทรัมป์ในการเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยเพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ทรัมป์กล่าวกับวิทยุฟอกซ์นิวส์ ว่าผลลัพธ์เชิงบวกจากการประชุมสุดยอดครั้งนี้จะนำไปสู่การพบกันระหว่างปูตินและประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน โดยระบุว่ามีโอกาส 25% ที่การประชุมครั้งนี้จะไม่ประสบความสำเร็จ

ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในสัปดาห์นี้ หลังจากที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพียงเล็กน้อยก่อนการประชุมสุดยอด ตลอดสัปดาห์ ทรัมป์เคยพยายามลดความคาดหวังเกี่ยวกับการประชุมลง ก่อนที่จะเตือนว่าเขาจะออกมาตรการตอบโต้รุนแรง หากปูตินไม่ตกลงหยุดยิง

“การหยุดยิงโดยตรงนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่อาจมีผลลัพธ์ที่ดีสำหรับความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย และกรอบการเจรจาติดตามผล ซึ่งถือเป็นปัจจัยลบต่อราคาน้ำมัน” โจว มี่ นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยในเครือ Chaos Ternary Futures กล่าว

สัญญาณใดๆ ก็ตามของการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรพลังงานรัสเซียของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลงอีก ซึ่งราคาน้ำมันดิบลดลงประมาณ 10% ในปีนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่ออุปสงค์จากนโยบายการค้าของทรัมป์ และการกลับมาอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมันดิบในกลุ่มโอเปกพลัส การคาดการณ์ภาวะน้ำมันล้นตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2569 กำลังส่งผลกระทบต่อตลาด

ตัวชี้วัดตลาดบางตัวชี้ให้เห็นถึงความอ่อนตัว โดยส่วนต่างราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งเป็นส่วนต่างระหว่างสัญญาสองสัญญาที่ใกล้หมดอายุมากที่สุดนั้น แคบลงจากเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ดัชนียังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นโดยราคาปัจจุบันสูงกว่าราคาในอนาคต

ขณะเดียวกัน โดรนของยูเครนได้โจมตีโรงกลั่นน้ำมันหลักของ Lukoil PJSC ในเมืองโวลโกกราดในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดี ขณะที่เคียฟได้เพิ่มการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซียในเดือนนี้