‘ไตรศุลี’ ขอความร่วมมืองดนำของบริจาคเข้าพื้นที่แนวหน้า แนะส่งผ่านจุดรวมส่วนกลาง
จากกรณีมีรายงานข่าวจากหน่วยความมั่นคงทางทหารจันทบุรี-ตราด เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน จังหวัดจันทบุรี (ฉก.นย.จันทบุรี) ได้ทำการเชิญตัว MR.OEUN KHOEM (นายคึม เอือน) อายุ 43 ปี สัญชาติกัมพูชา ที่ถือวีซ่า NON-LA เดินทางเข้ามาเมื่อ 12 MAR 2025 วันที่การอนุญาตสิ้นสุด 11 MAR 2027 มาทำการตรวจสอบที่ฝ่ายสืบสวน สภ.โป่งน้ำร้อน โดยมีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี และกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ร่วมตรวจสอบและสอบปากคำ
อีกทั้ง เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.นย.จันทบุรี ได้สืบทราบว่า นาย OEUN KHOEM ต้องสงสัยว่าเป็นสายลับทหารกัมพูชา และได้โพสต์ข้อความใน FB พร้อมภาพถ่ายว่า“THAILAND ATTACKS FIRST CAMBODIA DEFEDS” และพบชุดเครื่องแบบทหารกัมพูชาในรถยนต์ และที่บ้านพักที่นาย OEUN KHOEM อาศัยอยู่ จนกระทั่งให้การรับสารภาพว่าเป็นทหารหน่วยข่าวของกองทัพกัมพูชา ยศ ร.ท. เข้ามาสอดแนมหาข่าวความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ทหารฝั่งประเทศไทย แล้วส่งไปยังกองทัพกัมพูชา ใช้ในการสู้รบกับทหารไทย ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล" อดีตเลขานุการ รมว.มหาดไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว"ไตรศุลี ไตรสรณกุล" ถึงสถานการณ์ในพื้นที่แนวชายแดนที่มีการปะทะอย่างต่อเนื่อง และได้มีความพยายามจากฝ่ายตรงข้าม มาในรูปแบบเอาของมาบริจาคให้แนวหน้าตามหมู่บ้านแล้วมาดูพิกัดและปล่อยโดรน
โดยเจ้าของโพสต์ ระบุข้อความว่า "ตอนนี้สายลับของฝั่งตรงข้ามเรา มาในรูปแบบเอาของมาบริจาคให้แนวหน้าตามหมู่บ้านแล้วมาดูพิกัด และปล่อยโดรน ถ้ามีคนอยากเอาของมาบริจาค ให้เอาไปรวมส่วนกลางนะคะ ไม่ต้องให้ขับเข้าไปในพื้นที่ เดี๋ยวทางหมู่บ้านต่างๆ เขาจะประสานคนมารับเองค่ะ"
อย่างไรก็ตาม ข้อความดังกล่าวสะท้อนถึงความกังวลในเรื่องความปลอดภัย โดยเตือนให้ระมัดระวังการเคลื่อนไหวที่อาจถูกใช้เป็นช่องทางในการสอดแนมหรือเจาะพิกัดโดยฝ่ายตรงข้าม พร้อมย้ำว่าควรนำของบริจาคไปส่งยังจุดรวมส่วนกลางแทน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วย..
ขอบคุณข้อมูล : ไตรศุลี ไตรสรณกุล