“ทักษิณ” โบกมือทักทายสื่อ-มวลชนเสื้อแดง หลังเสร็จสิ้นนัดสืบพยานคดี ม.112
ศาลอาญา 16 ก.ค. – “ทักษิณ” อารมณ์ดีโบกมือผ่านกระจกรถ ทักทายสื่อ-มวลชนเสื้อแดง หลังเสร็จสิ้นนัดสืบพยานจำเลยคดี ม.112 ด้าน “ทนายวิญญัติ” เผยไม่มีสืบพยานต่อแล้ว ศาลอนุญาตให้แถลงปิดคดี และนัดฟังคำพิพากษา ศุกร์ที่ 22 ส.ค.นี้
เป็นเวลากว่า 3 ชม. ที่มีการสืบพยานฝ่ายจำเลยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พอสืบพยานเสร็จสิ้น นายทักษิณก็เดินออกมาพร้อมกับนางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาวคนกลาง พร้อมด้วยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี น้องเขยของนายทักษิณ และนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว
โดยบรรยากาศขณะที่นายทักษิณนั่งรถส่วนตัวออกจากบริเวณศาลอาญา สื่อมวลชนสังเกตเห็นว่า นายทักษิณโบกมือจากในรถทักทายสื่อมวลชนที่มาติดตามข่าว พอรถนายทักษิณเคลื่อนออกไปบนถนนรัชดาภิเษก หน้าศาลอาญา มี่มีมวลชนคนเสื้อแดง รอติดตามและให้กำลังใจ พบว่ารถส่วนตัวของนายทักษิณ ขับชิดเลนซ้าย ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงวันการสืบพยาน นายทักษิณจะขับชิดเลนขวาตลอด การทักทายของนายทักษิณ ทำให้ด้านฝั่งมวลชนคนเสื้อแดงกลุ่มใหญ่ที่มารอติดตามและให้กำลังใจ ร้องเฮด้วยความดีใจ
ขณะเดียวกัน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของนายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้เตรียมพยานไว้ทั้งหมด 14 ปาก วันนี้มีการสืบพยานทั้งหมด 3 ปาก ปากแรกคือ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี, ปากที่ 2 ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง จันทรางศุ คณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรีและอดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และปากที่ 3 คือนายทักษิณ ชินวัตร
หลังจากเบิกความเสร็จสิ้น ก็ได้มีการปรึกษานายทักษิณแล้วว่าไม่ขอสืบพยานที่เหลืออีก ทางเราได้ประเมินรูปคดีแล้ว และคุยกันว่าจะมีการสืบพยานเพียงเท่าที่จำเป็น และเห็นว่าควรจะยุติการสืบพยานเท่านี้เพราะไม่มีประเด็นแล้ว โดยจะขอส่งคำแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษรปิดคดีให้ศาลภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันนี้ ศาลได้อนุญาต และนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทนายมั่นใจหรือไม่ในคดีนี้ ทนายบอกว่า ขอไม่ตอบว่ามั่นใจหรือไม่ เชื่อว่าการพิจารณาคดีนี้จะได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากพยานหลักฐานโจทย์ที่ผ่านมามีหลายส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์ และเป็นพยานความเห็นทั้งสิ้น เราก็พยายามหักล้างว่าพยานเหล่านั้นเป็นพยานที่มีอคติ และเป็นพยานที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามจำเลยแทบทั้งสิ้น ซึ่งฝ่ายโจทก์ไม่มีหลักฐานประจักษ์พยานที่สามารถพิสูจน์ได้
การสืบพยานหลังจากนี้ไปคงจะพอแล้ว ศาลจะพิจารณาจากโจทย์เป็นหลักว่ามีหลักฐานเพียงพอหรือไม่ สามารถพิสูจน์ทราบการกระทำความผิดของฝ่ายจำเลยได้แค่ไหน
ส่วนพยาน 2 ปากแรก เกี่ยวข้องกับช่วงเวลาที่นายทักษิณ ถูกกล่าวหา เป็นช่วงที่จำเลยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ด้านภาษา ซึ่งรับรู้ถึงการกระทำว่าจำเลยจงรักภักดีอย่างไร เป็นเรื่องที่ศาลต้องชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน ตนขอไม่ก้าวล่วง
เมื่อถามว่าหลังจากนี้นายทักษิณจะต้องมาที่ศาลอีกไหม ทนายบอกว่า ในคดีนี้มาศาลอีกทีในวันรายงานตัวต้นเดือน ส.ค. ก่อนฟังคำพิพากษา
เมื่อถามว่าวันนี้นายทักษิณมีท่าทีอย่างไร ทนายบอกว่า ท่านดูอารมณ์ดี เมื่อเช้าได้เรียนนายทักษิณไปว่ามีมวลชนมาให้กำลังใจ ท่านรับทราบและขอขอบคุณมวลชนทุกคนมากๆ.-420-สำนักข่าวไทย