เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องบีเอ็ม-21 วัตถุโบราณหลงยุคที่ไร้ระบบนำวิถี วันนี้ เจอดีแน่ๆ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว

ภาพไฮไลต์

อยู่ดีไม่ว่าดี ทหารเขมรซึ่งได้รับคำสั่งก็ยิงเปะปะเข้ามาในเขตอยู่อาศัยของพลเรือนไทยแต่เช้า หนึ่งในอาวุธโบราณที่กองทัพหลายแห่งในโลกเลิกใช้งานไปแล้วก็คือ เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องบีเอ็ม-21 เขมร ซึ่งผลิตในโซเวียตมาตั้งแต่ปี คศ 1963 หรือกว่า 62 ปีมาแล้ว นี่เป็นอาวุธโบรณในช่วงสงครามเย็นที่ไร้ทิศทางหรือไม่สามารถกำหนดเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เพราะไม่มีระบบนำวิถี การยิงแบบสาดมั่วของเขมร ทำให้จรวดตกใส่ร้านสะดวกซื้อ โรงเรียน โรงพยาบาล และบ้านเรือนของประชาชนที่ไม่ได้เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางทหาร ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ถือว่าทำผิดกฎบัตรธรรมนูญกรุงโรมที่เขมรได้ลงนามเอาไว้อย่างชัดเจน

จรวดหลายลำกล้อง BM-21 Grad
เข้าประจำการในกองทัพสหภาพโซเวียตตั้งแต่ปี ค.ศ.1963 และมีการพัฒนาเรื่อยมาเพื่อเป็นการทดแทนจรวดหลายลำกล้อง BM-14 ซึ่งใช้งานมาตั้งแต่ช่วงยุค 50 จรวดหลายลำกล้อง BM-21 ถูกใช้งานในสนามรบจริงครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ.1969 ระหว่างการปะทะบริเวณชายแดนระหว่างรัสเซียกับจีน หลังจากนั้นจรวดหลายลำกล้องรุ่นนี้ก็ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน มีประจำการในกองทัพประเทศต่างๆ มากกว่า 30 ประเทศ แต่บางประเทศก็ปลดประจำการไปแล้ว หรือไม่เคยนำออกมาใช้ เนื่องจากปัจจุบัน มีอาวุธปล่อยนำวิถีที่แม่นยำกว่า BM-21 หลายเท่า

จรวดหลายลำกล้อง BM-21 ใช้จรวดขนาด 122 มิลลิเมตร จำนวน 40 ท่อยิง ติดตั้งบนแคร่รถบรรทุก จรวดรุ่นเก่ามีระยะยิง 20 กิโลเมตร ต่อมามีการพัฒนาจรวดรุ่นใหม่ ทำให้ BM-21 มีระยะยิงไกล 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเตรียมการยิง 3 นาที สามารถทำการยิงจรวดทั้ง 40 ลูก ภายในเวลา 20 วินาที หลังทำการยิง สามารถเคลื่อนย้ายที่ตั้งได้ภายในเวลา 2 นาที กลับไปบรรจุจรวดใหม่ในแนวหลัง เพื่อป้องกันการยิงตอบโต้ของฝ่ายตรงข้าม การบรรจุจรวดใช้ระบบแมนนวล ใช้เวลาประมาณ 7-10 นาที จึงจะบรรจุจรวดได้ครบทุกท่อยิง BM-21 มีประสิทธิภาพในการทำลายล้าง ด้วยอัตราการยิงที่รวดเร็วและครอบคลุมเป้าหมาย พื้นที่เป็นบริเวณกว้าง จรวดหลายลำกล้อง BM-21 หนึ่งกองพันจะมี 18 ระบบ สามารถทำการยิงจรวดกว่า 720 ลูก ปูพรมถล่มพื้นที่เป้าหมายได้ในระลอกเดียว ภายในเวลาเพียง 20 วินาที อย่างไรก็ตาม การที่จรวดหลายลำกล้องรุ่นนี้ถูกออกแบบมาใช้ยิงปูพรมพื้นที่บริเวณกว้าง ก็ส่งผลให้ขาดความแม่นยำในการทำลายเป้าหมายเป็นจุดๆ ถ้าต้องการความแม่นยำในการทำลายเป้าหมายเฉพาะเป็นจุดๆ ไป ปืนใหญ่อัตตาจรระยะไกลเล็งยิงด้วยระบบดิจิตอลของไทย มีความเหมาะสมกับภารกิจทำลายเป้าหมายทางทหารมากกว่า

ช่วงเช้าวันนี้ (25 ก.ค.) เพจ Army Military Force สำรองเปิดเผยว่า กองทัพไทยได้ดำเนินการใช้ปืนใหญ่อัตตาจรล้อยาง M758 ATMG ขนาดลำกล้อง 155 มม. 52 คาลิเบอร์ เพื่อยิงทำลายระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 (MLRS) ของกัมพูชา ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอจอมกระสานต์

.“มีรายงานล่าสุด : ปืนใหญ่อัตตาจรล้อยาง M758 ATMG ขนาดลำกล้อง 155 มม. 52 คาลิเบอร์ ได้เข้าพื้นที่เพื่อยิงสนับสนุน กำหนดเป้าหมายและทำลายระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 (MLRS) ของกัมพูชา ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอจอมกระสานต์ ประเทศกัมพูชา

.”อนึ่ง ปืนใหญ่อัตตาจรล้อยาง M758 ATMG 155 mm. มีระยะยิงไกลสุด มากกว่า 40 กิโลเมตร อัตราการยิง 6 นัดต่อนาที ผลิตในประเทศไทย โดยศูนย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร (ศอพท.) กระทรวงกลาโหม ร่วมกับบริษัท Elbit Systems ของอิสราเอล ได้ดำเนินการผลิตปืนใหญ่อัตตาจรล้อยาง M758 ATMG

.“โดยมีการบูรณาการระบบปืนใหญ่อัตตาจร ATMOS ของ Elbit เข้ากับรถยนต์บรรทุก Tatra 6x6 ขนาด 10 ตันจากสาธารณรัฐเช็ก การผลิตดังกล่าวถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญของกองทัพไทยในด้านการพึ่งพาตนเองด้านยุทโธปกรณ์จากการขยายสายการผลิตอย่างต่อเนื่อง” Army Military Force ระบุ

1-การยิงเป้าหมายพลเรือน โรงพยาบาล ในการขัดกันทางอาวุธระหว่างประเทศเป็นอาชญากรรมสงคราม (war crimes) ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ความผิดอาญาร้ายแรงสูงสุดตามธรรมนูญกรุงโรม

2-การใช้อาวุธโจมตีดินแดนรัฐอื่น ที่ไม่ใช่การป้องกันตนเอง หรือตามมติของสหประชาชาติ เป็นอาชญากรรมรุกราน (aggression) ซึ่งเป็น 1ใน 4 ความผิดร้ายแรงสูงสุดตามธรรมนูญกรุงโรมเช่นกัน เป็นอาชญากรรมรุกรานได้แม้จะไม่มีทหารบุกรุกเข้ามา

3-กัมพูชาเป็นรัฐภาคีธรรมนูญกรุงโรม ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) จึงมีเขตอำนาจดำเนินคดีกับการกระทำเกิดขึ้นในดินแดนรัฐภาคี หรือกระทำโดยบุคคลสัญชาติของรัฐภาคี

4-ไทยไม่ใช่ภาคีของธรรมนูญกรุงโรม แต่อาจแสดงเจตนายอมรับอำนาจศาล ICC เฉพาะเรื่องตามข้อ12(3) ได้ (ad hoc acceptance) ซึ่งการยอมรับดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นรัฐภาคีธรรมนูญกรุงโรม เพียงแต่ให้ศาลอาญาระหว่างประเทศมีอำนาจดำเนินคดีกับการกระทำเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศได้

ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) มีอำนาจดำเนินคดี รวมทั้งออกหมายจับกับบุคคลธรรมดาผู้กระทำความผิดอาญาร้ายแรงสูงสุด4 ฐาน หากเข้าเงื่อนไขที่กำหนด หากมีการออกหมายจับแล้ว อย่างน้อย125 ประเทศภาคีจะให้ความร่วมมือ…

อาคม รวมสุวรรณ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องบีเอ็ม-21 วัตถุโบราณหลงยุคที่ไร้ระบบนำวิถี วันนี้ เจอดีแน่ๆ