“การฝังมุก” ของชายชาวกรุงศรีอยุธยาเมื่อราว 600 ปีก่อน ในบันทึกของ “หม่าฮวน”
บันทึกของหม่าฮวน คือหลักฐาน “การฝังมุก” ของคนไทยในอดีต ที่แพร่หลายในหมู่คนที่ศึกษาประวัติศาสตร์ โดยบรรยายถึงวัฒนธรรมการฝังมุกของผู้ชายชาวกรุงศรีอยุธยาเมื่อ 600 กว่าปีก่อนไว้อย่างละเอียด
หม่าฮวน(馬歡) เกิดประมาณ พ.ศ. 1923 เป็นชาวเมืองเซ่าซิง ไม่ไกลจากหังโจว ปัจจุบันอยู่ในเขตมณฑลเจ้อเจียง ในงานเขียนของเขา หม่าฮวนเรียกตัวเองว่า“คนตัดฟืนบนเขา”ซึ่งอาจเป็นคำเรียกตนเองเพื่อแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน สะท้อนได้ว่าไม่ใช่คนที่มีฐานะทางสังคมสูงส่ง แต่น่าจะพอรู้หนังสืออยู่พอสมควร และคุ้นเคยกับบันทึกตำราที่เกี่ยวข้องกับดินแดนต่าง ๆ ของคนรุ่นก่อนหน้ามาบ้าง
หม่าฮวนหันมานับถือศาสนาอิสลาม ได้เรียนรู้ภาษาอาหรับหรือไม่ก็ภาษาเปอร์เซีย จึงทำให้ได้เป็นล่ามในคณะเดินทางของ “เจิ้งเหอ” แม่ทัพขันทีผู้บัญชาการกองเรือมหาสมบัติ ที่ออกเดินทางไปยังดินแดนห่างไกลแผ่นดินจีนในน่านน้ำต่าง ๆ ทั่วโลก
เขาออกเดินทางครั้งแรกกับกองเรือเจิ้งเหอเมื่อราว พ.ศ. 1956 และเมื่อกลับไปยังจีนใน พ.ศ. 1958 ก็เริ่มเขียนบันทึกถึงสิ่งที่ได้พบเห็นจากการเดินทาง เมื่อออกเดินทางครั้งใหม่ก็จะเขียนเนื้อหาเพิ่มเติมเข้าไป จนงานชิ้นนี้เสร็จสมบูรณ์เมื่อ พ.ศ. 1979 และได้จัดพิมพ์ใน พ.ศ. 1994 แต่ต้นฉบับภาษาจีนพิมพ์ครั้งแรกได้สูญหายไปแล้ว คงเหลือแต่ฉบับคัดลอกที่พิมพ์ต่อ ๆ กันมา
สันนิษฐานว่าหม่าฮวนเสียชีวิตเมื่อ พ.ศ. 2003
เอกสารของหม่าฮวนไม่ได้ระบุว่าเดินทางเข้ามากรุงศรีอยุธยาครั้งไหนบ้าง จึงไม่ทราบว่าบันทึกเรื่องการฝังมุกที่ว่าเป็นการพบเห็นในปีไหน แต่กองเรือของเจิ้งเหอเข้ามาอยุธยาหลายครั้งในช่วงคาบเกี่ยวสมัยสมเด็จพระเจ้ารามราชา, สมเด็จพระอินทราชา (เจ้านครอินทร์) และสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือเจ้าสามพระยา (ตั้งแต่ พ.ศ. 1938-1991)
หม่าฮวนบันทึกถึงการฝังมุกไว้ ดังนี้ [ปรับย่อหน้าใหม่โดยกอง บก. ศิลปวัฒนธรรม]
“พอชายมีอายุได้ยี่สิบปี พวกเขาจะดึงหนังหุ้มองคชาตออกมา แล้วใช้มีดคมบางรูปร่างอย่างใบหอมกรีดผ่าผิว และยัดลูกปัดดีบุกโหลหนึ่งเข้าไปใต้ผิวหนัง ปิดมันไว้ แล้วเยียวยาด้วยสมุนไพร รอกระทั่งแผลหายสนิทดี พวกเขาจึงเดินไปไหนมาไหน (ลูกปัดดีบุกเหล่านั้น) มอง ๆ ดูก็เหมือนอย่างกับพวงลูกองุ่น
มีคนหมู่หนึ่งที่เป็นผู้รับจ้างทําการผ่าตัดเช่นนี้ พวกนี้มีความชํานาญในการฝังและหล่อเชื่อมลูกปัดดีบุกให้กับผู้คน เขาทํากันอย่างถือเอาเป็นอาชีวะอย่างหนึ่งทีเดียว หากว่าเป็นพระมหากษัตริย์หรือขุนนางใหญ่หรือคนมั่งมี พวกเขาจะใช้ทองคําทําเป็นเม็ดกลวง ในนั้นใส่เม็ดทราย แล้วเอาฝัง ไปไหนก็ส่งเสียงกรุ๋งกริ๋ง แลถือกันว่างามนัก
ผู้ชายที่ไม่มีลูกปัดฝังคือพวกคนชั้นต่ำ นี่เป็นเรื่องที่พิลึกพิสดารเหลือหลาย…”
ทั้งนี้ยังมีเอกสารประวัติศาสตร์อีก 3 ชิ้นที่บันทึกเรื่องการฝังมุกไว้เช่นกัน เป็นบันทึกของชาวต่างชาติที่แต่ละคนก็ค่อนข้างให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ และมองว่าการฝังมุกเป็นเรื่องแปลกประหลาดพิสดารมาก ที่สำคัญคือเป็นข้อมูลที่ขยายความเข้าใจเรื่องการฝังมุกเพิ่มเติมจากสิ่งที่เรารู้จากหม่าฮวนด้วย
เอกสารเหล่านั้นบอกอะไรอีกบ้าง ร่วมเจาะลึกได้ใน “สับประวัติศาสตร์ ZAB HISTORY ‘ฝังมุก’ วัฒนธรรมความเป็นชายแห่งอุษาคเนย์”
อ่านเพิ่มเติม :
- บันทึกสุดดาร์ก เรื่องฝังมุกในอุษาคเนย์ ศตวรรษที่ 16-17
- “หม่าฮวน” ล่ามในคณะเดินทางของ “เจิ้งเหอ” บันทึกถึงกรุงศรีอยุธยาไว้อย่างไรบ้าง?
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 24 สิงหาคม 2568
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “การฝังมุก” ของชายชาวกรุงศรีอยุธยาเมื่อราว 600 ปีก่อน ในบันทึกของ “หม่าฮวน”
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com