การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศใน ‘แอนตาร์กติกา’ จะส่งผลร้ายแรงทั่วโลก
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ว่าแอนตาร์กติกากำลังแสดงสัญญาณที่น่ากังวลของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั่วทั้งน้ำแข็ง มหาสมุทร และระบบนิเวศ และการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันบางส่วนยากที่จะหยุดยั้ง ซึ่งทั้งหมดล้วนทวีความรุนแรงซึ่งกันและกัน และเร่งให้ภาวะโลกร้อนทั่วโลกรุนแรงขึ้น
การศึกษาพิจารณาหลักฐานของการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน หรือที่เรียกว่า “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างกะทันหัน” (regime shift) ในน้ำแข็งในทะเล กระแสน้ำในมหาสมุทรในภูมิภาค แผ่นน้ำแข็งและหิ้งน้ำแข็งของทวีป และสิ่งมีชีวิตในทะเล
ตั้งแต่ปี 2557 น้ำแข็งในทะเลได้ลดลงโดยเฉลี่ย 120 กิโลเมตรจากชายฝั่งของขั้วโลกใต้ การหดตัวดังกล่าวเกิดขึ้นเร็วกว่าการลดลงของน้ำแข็งในทะเลอาร์กติกถึง 3 เท่าในรอบ 10 ปี ซึ่งอาจทำให้ฤดูร้อนของแอนตาร์กติกาไร้ซึ่งน้ำแข็งเร็วกว่าขั้วโลกเหนือ โดยการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะเร่งความอุ่นของภูมิภาคนี้ และในพื้นที่อื่น ๆ รวมถึงทำให้สัตว์ทะเลบางชนิดสูญพันธุ์
วิกฤติการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เมื่อลูกเพนกวินจักรพรรดิตายลงในจุดเพาะพันธุ์หลายแห่ง ทั้งจากการจมน้ำตายหรือแข็งตัวตาย เนื่องจากน้ำแข็งในทะเลยุบตัวลงเร็วกว่าปกติ ขณะที่การติดตามพื้นที่ 5 แห่งในทะเลเบลลิงส์เฮาเซนเมื่อปี 2565 พบว่า พื้นที่เกือบทั้งหมดสูญเสียลูกนกไปแล้ว 100%
ความเสียหายอีกประการหนึ่งคือ การพังทลายของวงจรกระแสน้ำวนแอนตาร์กติก ซึ่งถือเป็นระบบกระแสน้ำในมหาสมุทรที่กระจายความร้อน และสารอาหารแก่ภูมิภาคและทั่วโลก โดยการชะลอตัวของกระแสน้ำได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจนำไปสู่ผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อสภาพภูมิอากาศ และระบบนิเวศ ไปจนถึงภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้น และความสามารถที่ลดลงในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของมหาสมุทร.
เครดิตภาพ : AFP