โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ม็อบเขมรลี้ภัย ป่วนรั้วลวดหนาม Vs ม็อบไทยเลิก MOU43 – 44 บาน?

INN News

อัพเดต 19 สิงหาคม 2568 เวลา 0.50 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • INN News

สถานการณ์ “ศึกเขมร”ในช่วงระหว่าง “หยุดยิง”ตามข้อตกลงการเจรจาระดับทวิภาคี ผ่านการประชุมGBC ที่ “คงสภาพ”การหยุดยิงของกองกำลัง2ฝ่ายไทย-กัมพูชาไว้ที่ฐานที่มั่น ตามแนวรบที่เกิดการปะทะและใครเข้ายึดกุมสภาพได้ก่อนเที่ยงคืนวันที่ 28ก.ค.

นอกจากจะยังไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติมหลังการประชุมRBC 16ส.ค. ที่ฝ่ายเขมร ยังไม่ยอมรื้อถอน “ทุ่นระเบิดสังหารใหม่” ที่ทำให้ กำลังพลทหารไทย บาดเจ็บสาหัสขาขาดต่อเนื่องหลายนาย
จนกองทัพไทยต้องฟ้องโลกและขู่จะตอบโต้ป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ ข้อ 51 ยังถูกจับตาในการประชุม RBC ครั้งต่อไป ที่จะมีการคุยกับ “แม่ทัพภาคที่1”วันที่ 21ส.ค. และคุยกับ“แม่ทัพภาค2”วันที่ 22ส.ค.ถูกฝ่ายเขมรขอเลื่อนของของแม่ทัพภาค2ออกไป ไปวันที่ 27ส.ค.

โดยการเลื่อนประชุมดังหล่าว ถูกจับตานอกจากประเด็นที่ฝ่ายไทยจี้ให้เขมร “ถอนทุ่นระเบิด”แล้ว ฝ่ายเขมรจะมีการนำประเด็น“รั้วลวดหนาม”ที่ฝ่ายกองทัพไทยติดตั้งบริเวณเขตแดน มาหารือหรือไม่ หลังจากที่มีการเรียกร้องจาก “ทหารเขมร”ให้ฝ่ายไทยรื้อถอน และเริ่มมีสัญญานการปลุกม็อบ “ชาวเขมรที่เป็นผู้ลี้ภัย” หนีภัยสงครามเขมรแดง ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในอดีตเข้ามาฝั่งไทย

ด้านบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว มาชุมนุมร้องว่ารั้วลวดหนามส่งผลกระทบผ่ากลางชุมชน จนทำให้ กองทัพบกต้องออกมาแจง โดย “พลตรี วินธัย สุวารี” โฆษกกองทัพบก ยืนยัน เป็นพื้นที่อาณาเขตของไทย บริเวณบ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47

โดยบริเวณดังกล่าวมีประเด็นปัญหา แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1. เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ ที่ฝ่ายไทยและกัมพูชา ไม่สามารถตกลงที่ตั้งหลักเขตแดนได้ เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าตำแหน่งหลักเขตที่ปรากฏในปัจจุบัน มีการเคลื่อนย้ายเข้าไปในฝั่งประเทศของตน จึงต้องรออาศัยกลไกทวิภาคี อาทิ JBC มาแก้ไขปัญหาในระยะยาว

2. พื้นที่ดังกล่าว ในอดีตเมื่อครั้งเกิดสงครามการสู้รบภายในกัมพูชาในปี พ.ศ.2520 รัฐบาลไทย ได้ให้ชาวเขมรอพยพลี้ภัยเข้ามาชั่วคราว เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติบางส่วน ไม่ยอมเดินทางกลับประเทศ และ ยังพบว่าเขมรละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ สนับสนุนให้ชาวเขมรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวรในฝั่งไทย แม้กองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วง ร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย
ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ

จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด ปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายเขมร มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ “ประชาชน”ให้เป็นผู้ออกหน้า ในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า กับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า การกระทำดังกล่าวเหมือนมีการวางแผนมาอย่างเป็นระบบ และคอยเฝ้าดูว่า หากฝ่ายไทยดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดไป ก็จะนำเรื่องดังกล่าวไปบิดเบือน ทำลายความน่าเชื่อถือประเทศไทย เพื่อขอความเห็นใจสังคมโลกอย่างที่เป็นภาพให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน

เรียกว่าประเด็นที่ ม็อบชาวเขมรที่“หนองจาน”ถูกวิเคราะห์ว่าจะมีโมเดลลักษณะเดียวกันอีกหลายพื้นที่ ที่เขมรใช้วิธีนี้และเกิดปัญหาไม่แต่กรณี 3 ปราสาท หรือที่ช่องอานม้า ที่มีตลาดและชุมชน
กระทั่งกลายเป็นปัญหาเวลาเกิดความขัดแย้งชายแดนระหว่างกำลัง2ฝ่าย อย่างที่เริ่มมีรายงานหลายพื้นที่ เริ่มมีการขยับของมวลชนชาวเขมรลี้ภัย ที่รุกล้ำเข้ามาตั้งชุมชนในฝั่งไทยนานแล้วในหลายพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งกองทัพตรวจสอบพบการรุกล้ำที่จะกลายเป็นปัญหาด้านความมั่นคง

โดยทั้งประเด็น ทุ่นระเบิด และ รั้วลวดหนาม ที่กระทบพื้นที่เขตแชดนอ้างสิทธิ์ ถูกจับตา ความบานปลายหลังจากนี้ ทั้งทางกายภาพ และในวงการเจรจาทวิภาคี นัดที่เหลือ ที่หากรื้อฟื้น ความไม่ชัดเจนและนำมาสู่การเคลียร์พื้นที่หลังการรุกล้ำจาก”ชาวเขมรลี้ภัย” ก็ย่อมสุ่มเสี่ยง นำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงกับชาวบ้านที่อาจมีการแทรกซึมของ“ครอบครัวทหารเขมร”

และอาจนำไปสู่การปะทะ อย่างที่เคยมี”โมเดล”กรณีชุมชนต่างๆในพื้นที่ใกล้ 3ปราสาทมาแล้ว ทั้งที่ถือเป็นการละเมิดMOU43จากฝ่ายเขมร

ขณะเดียวกัน ประเด็น MOU43 ที่มีการขยายประเด็นผลประโยชน์ทางทะเลในMOU44 ก็กำลังถูกจับตาเช่นกัน กับความเคลื่อนไหวของ “ม็อบรวมพลังแผ่นดิน”จาก ฝ่ายไทย ที่นัดชุมนุมใหญ่วันที่ 21ส.ค.ซึ่งตรงกับวันที่ “นายกอิ๊งค์” ไปชี้แจงปมคลิปเสียงฮุนเซน ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้เพื่อเรียกร้องให้ “รัฐบาลไทย”ทำการยกเลิกMOU ทั้ง 2 ฉบับนี้

เพื่อแก้ปัญหา ความพยามของ “มาสเตอร์มายด์”ที่อยู่เบื้องหลังสถานการณ์ที่บานปลาย ในการปักเขตแดนหลายพื้นที่ที่จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ผลประโยชน์ทางทะเล

อย่างที่ “สมชาย แสวงการ”อดีตสว.หนึ่งในแกนนำที่ร่วมแถลงวันนี้(18ส.ค.) ระบุว่า MOU 43 และ 44เป็นปัญหาที่นำไปสู่ความขัดแย้ง เพราะเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ ด้านพลังงานในอ่าวไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ของประเทศไทยได้.

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก INN News

ขับต่อไม่ได้ รถยางรั่ว ถนนพหลโยธิน

56 นาทีที่แล้ว

“ทริวิโก กรุ๊ป” เปิดสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ เร่งขับเคลื่อนพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับอุตสาหกรรม

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

สธ.ชู “LANTA Model” รพ.เกาะลันตา บำบัดผู้ป่วยยาเสพติด-จิตเวช อัตราคงอยู่สูงถึง 85%

สยามรัฐ

มิซูโน เดินหน้าลุยตลาดไทย เปิดแฟล็กชิปสโตร์โฉมใหม่กลางเมือง

THE STANDARD

“ทนายรณณรงค์” แจงปม “สาวบิว” รับบริจาคมีความผิด

สำนักข่าวไทย Online

สตง.ชี้แจงขั้นตอน หลังโผล่คว้าอันดับ 1 องค์กรอิสระโปร่งใสสูงสุด ปี 68

PPTV HD 36

กองทัพภาคที่ 2 เตือนข่าวปลอม ‘โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายพล’

The Bangkok Insight
วิดีโอ

ตำรวจทางหลวงสกัดจับขบวนการรับจำนำรถออนไลน์ ก่อนถูกส่งข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน

สวพ.FM91

‘หวยเกษียณ’ พลิกชีวิตคนไทยให้ ‘แก่’ แต่ไม่จน

THE STANDARD
วิดีโอ

"นพ.สุภัทร" ชี้แจง จัดซื้อ ATK ตามระเบียบ

Thai PBS

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...