หญิงวัย 63 เผยครอบครัวถูกบังคับเป็นทหารกัมพูชา เชื่อเสียชีวิตหมด-หวั่นโพสต์ตามหาถูกจับ
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก หญิง อายุ 63 ปี ชาวบ้านภูสะลอง ว่าขณะนี้ตนอยู่ในภาวะเสียขวัญและเป็นกังวลอย่างหนัก หลังจากลูกสาวโทรศัพท์มาบอกว่า ญาติพี่น้องซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชาและถูกบังคับให้เป็นทหาร ได้เสียชีวิตหมดแล้วจากสถานการณ์ชายแดน
หญิงคนดังกล่าว ระบุว่า ครอบครัวของตนมีเชื้อสายกัมพูชา อพยพเข้ามาอยู่ฝั่งไทยตั้งแต่หลายสิบปีก่อน โดยยังมีเครือญาติอยู่ในฝั่งกัมพูชาจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่ต้องเข้ารับราชการทหารทั้งที่ไม่ได้สมัครใจ เพราะหากขัดขืนจะถูกลงโทษ ยึดที่ดินทำกิน และอาจถูกถอดถอนสัญชาติ
“หลายคนที่มาทำงานที่เมืองไทย กลับไปบ้านก็ต้องใส่เครื่องแบบทหารทันที เพราะกลัวจะโดนยึดที่ คนที่เป็นทหารตอนนี้ติดต่อไม่ได้เลย ลูกสาวโทรมาบอกว่าตายหมดแล้ว… คงไม่มีใครได้เก็บศพด้วยซ้ำ” เธอ กล่าวเสียงสั่น
เธอยังเปิดเผยอีกว่า บรรยากาศที่กัมพูชาตอนนี้เต็มไปด้วยความกลัว เพราะหากมีใครโพสต์เฟซบุ๊กตามหาญาติ หรือแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลกัมพูชา จะถูกดำเนินคดีทันที ไม่เพียงผู้โพสต์เท่านั้น แต่ครอบครัวของผู้โพสต์ก็อาจถูกจับกุมไปด้วย
“ตอนนี้ยังติดต่อกับลูกสาวไม่ได้เลย ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ห่วงญาติที่เหลืออยู่มาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะแค่ถามข่าวคราวก็เสี่ยงโดนจับทั้งครอบครัวแล้ว”
สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนภาพความตึงเครียดและความทุกข์ใจของผู้ที่มีสายเลือดกัมพูชาซึ่งอาศัยในฝั่งไทย และยังมีครอบครัวตกอยู่ในความไม่แน่นอนของสงครามที่อีกฟากหนึ่งของชายแดน.
ที่มา เรื่องเล่าเช้านี้