ตลาดหุ้นสหรัฐปิดผสม หลังคาดการลดดอกเบี้ยยังไม่แน่นอน
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนกรกฎาคมปรับเพิ่มมากที่สุดในรอบ 3 ปี จากการปรับขึ้นของราคาสินค้าและบริการ ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มเงินเฟ้อที่อาจขยายตัวต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนปรับลดคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของ Fed ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เหลือราว 56.7 จุดพื้นฐาน (bps) จากเดิมประมาณ 63 bps ก่อนรายงานดังกล่าว อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงคาดการณ์เต็มที่ว่าจะมีการลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนกันยายน
รายงานแยกอีกฉบับระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐฯ ลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 11.01 จุด หรือ 0.02% ที่ 44,911.26 จุด
ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.96 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 6,468.54 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดใหม่
และดัชนีแนสแด็กลดลง 2.47 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 21,710.67 จุด
ราคาน้ำมันปรับขึ้นราว 2% แตะระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์
ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นในวันพฤหัสบดี หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนถึง “ผลลัพธ์ร้ายแรง” หากการเจรจากับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย เรื่องยูเครน ไม่ประสบผลสำเร็จ อีกทั้งตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่าการลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในเดือนหน้าจะช่วยกระตุ้นความต้องการใช้น้ำมัน
น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบล่วงหน้าปรับขึ้น 1.21 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 66.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 63.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำลดลงจากแรงกดดันของเงินดอลลาร์แข็งค่า
ราคาทองคำในตลาดโลกลดลง เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่สูงกว่าคาดและการลดลงของผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ทำให้เงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้โอกาสการลดดอกเบี้ยขนาดใหญ่ในเดือนกันยายนลดลง
ทองสปอตลดลง 0.5% ปิดที่ 3,337.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าเดือนธันวาคมลดลง 0.7% ปิดที่ 3,383.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์