WHO-WMO กระตุ้นทั่วโลกปกป้อง ‘คนงาน’ จากคลื่นความร้อนสุดขั้วรุนแรงยิ่งขึ้น
× กรุณาติดต่อทีมงานเพื่อดาวน์โหลดคลิป
เจนีวา, 23 ส.ค. (ซินหัว) — รายงานฉบับสมบูรณ์และคำแนะนำทางเทคนิค ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ร่วมเผยแพร่วันศุกร์ (22 ส.ค.) ได้เรียกร้องการปฏิบัติการระดับโลกเพื่อจัดการภัยคุกคามจากคลื่นความร้อนสุดขั้วที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นต่อแรงงานทั่วโลก หลังจากปี 2024 นับเป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ด้วยอุณหภูมิตอนกลางวันสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส และบางภูมิภาคสูงถึง 50 องศาเซลเซียส ซึ่งกำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยยิ่งขึ้น
เจเรมี ฟาร์ราร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และดูแลขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่าความเครียดจากคลื่นความร้อนกำลังส่งผลเสียต่อสุขภาพและการดำรงชีวิตของคนงานหลายพันล้านคน โดยเฉพาะในชุมชนเปราะบางที่สุด ซึ่งความเสี่ยงต่อสุขภาพ อาทิ โรคลมแดด ภาวะขาดน้ำ ไตทำงานผิดปกติ และความผิดปกติทางระบบประสาท กำลังบั่นทอนสุขภาพในระยะยาวและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของคนงานทั่วโลก และประชากรโลกราวครึ่งหนึ่งประสบผลข้างเคียงจากอุณหภูมิสูงแล้ว
โค บาร์เร็ตต์ รองเลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก กล่าวว่าความเครียดจากคลื่นความร้อนอันเกิดจากการประกอบอาชีพกลายมาเป็นความท้าทายระดับโลก ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศใกล้เส้นศูนย์สูตรเท่านั้นแล้ว เห็นได้ชัดจากคลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นในยุโรปเมื่อไม่นานนี้ โดยการปกป้องคนงานจากคลื่นความร้อนสุดขั้วไม่เพียงแต่เป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งจำเป็นต่อเศรษฐกิจอีกด้วย
อนึ่ง คำแนะนำทางเทคนิคระบุแนวทางของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่ายในการบรรเทาความเสี่ยง ซึ่งประกอบด้วยการพัฒนานโยบายระดับชาติ การให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบาง ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือระหว่างรัฐบาล นายจ้าง สหภาพแรงงาน และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ