ทลายคลังบุหรี่ไฟฟ้า-บุหรี่นอกรายใหญ่กลางกรุง มูลค่ากว่า 2.6 ล้าน
ตร.ไซเบอร์แถลงผลการทลายคลังบุหรี่ไฟฟ้า และบุหรี่ต่างประเทศขายออนไลน์รายใหญ่กลางกรุง ยึดของกลางกว่า 1 หมื่นชิ้น มูลค่ากว่า 2.6 ล้านบาท
วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด พ.ต.อ.คมสันต์ กันหา ผกก.4 บก.สอท.1 ร่วมกันแถลงผลการทลายคลังบุหรี่ไฟฟ้า และบุหรี่ต่างประเทศขายออนไลน์รายใหญ่กลางกรุง ยึดของกลางกว่า 1 หมื่นชิ้น มูลค่ากว่า 2.6 ล้านบาท
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่เร่งรัดสั่งการให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายคุมเข้มและปราบปรามการจำหน่ายนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน กำชับให้ทุกฝ่ายดูแลอย่างเข้มงวด พื้นที่ใกล้โรงเรียน-สถานศึกษาต้องไม่มีการขายให้เยาวชนและบุคคลทั่วไป ซึ่งพบว่ายังมีผู้ฝ่าฝืนลักลอบขายอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทางตำรวจไซเบอร์จึงได้สืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในรูปแบบร้านค้าและผ่านทางช่องทางออนไลน์
โดยตำรวจชุดสืบสวน กก.4 บก.สอท.1 ตรวจพบเว็บไซต์ชื่อ “yasoobvibes” มีการโพสต์จำหน่ายสินค้าประเภทบุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์ส่วนควบ อาทิ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า พอต และบุหรี่ต่างประเทศผ่านระบบออนไลน์ โดยผิดกฎหมาย ใช้วิธีการส่งของให้ลูกค้าผ่านช่องทางบริษัทเอกชนรับจ้างขนส่ง และส่งผ่านทางไปรษณีย์ให้กับลูกค้าต่างจังหวัด
ต่อมา พ.ต.อ.คมสันต์ กันหา ผกก.4 บก.สอท.1 พ.ต.ท.พรชัย บังด้วง รอง ผกก.4 บก.สอท.1 พ.ต.ท.ธเนศ มากสกุล สว.สส.กก.4 บก.สอท.1 ร่วมกันทำการสืบสวนหาเบาะแสจนทราบข้อมูลว่าเครือข่ายของเว็บไซต์นี้จะมีการลักลอบซื้อขายและส่งมอบบุหรี่ต่างประเทศผิดกฎหมายจำนวนมาก ที่บริเวณลานจอดรถของห้างแห่งหนึ่ง ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ จึงประสานเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ร่วมทำการตรวจสอบ
กระทั่งพบนายวิญญู มานิชย์สาร อายุ 28 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ ขับรถแวนยี่ห้อเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 6 กจ 4669 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นรถเป้าหมายขับมาจอดรถบริเวณลานจอดรถของห้างดังกล่าว จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและจับกุมตัวพร้อมของกลางบุหรี่ต่างประเทศจำนวน 760 ซองที่บรรทุกมาเพื่อเตรียมส่งให้ลูกค้า
จากนั้นตำรวจจึงควบคุมตัวพาไปค้นบ้านพัก ซอยพระราม 3/49 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ จึงเข้าจับกุมผู้เกี่ยวข้องในการกระทำผิดอีก 3 ราย ประกอบด้วย นายกฤษณะ นันกระโทก อายุ 28 ปี ชาว จ.นครราชสีมา นายบัณฑิต สมปราง อายุ 26 ปี ชาวกรุงเทพฯ และ น.ส.สุรัญญา ราวียา อายุ 37 ปี เป็นลูกจ้าง ขณะกำลังแพ็กสินค้าลงกล่องพัสดุเพื่อเตรียมส่งให้ลูกค้า
พร้อมตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย รถยนต์เชฟโรเลตที่ใช้ในการกระทำผิด บุหรี่ต่างประเทศที่ใช้กับเครื่องพอตไฟฟ้า 10,060 ซอง บุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง 343 ชิ้น พอตบุหรี่ไฟฟ้า 14 เครื่อง และหัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 1,200 ชิ้น บรรจุอยู่ในลังกระดาษขนาดใหญ่นับสิบลัง วางเรียงรายอยู่บริเวณชั้นล่าง รวมกันทั้งสิ้นจำนวน 10,400 ชิ้น รวมของกลางที่ตรวจยึดมีมูลค่ารวมกว่า 2.6 ล้านบาท
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายวิญญูให้การยอมรับว่าเป็นเจ้าของบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ต่างประเทศ โดยก่อนถูกจับกุมได้เตรียมนำบุหรี่ต่างประเทศมาส่งให้กับลูกค้าตามออเดอร์ที่นัดส่งมอบกันบริเวณลานจอดรถห้างดังกล่าว โดยแอบลักลอบขายบุหรี่ต่างประเทศ รวมทั้งบุหรี่ไฟฟ้าผ่านทางออนไลน์มานาน 7-8 เดือน สร้างรายได้ดีมีกำไรเฉลี่ย 200,000-300,000 บาทต่อเดือน
โดยตำรวจดำเนินคดีผู้กระทำผิดทั้งหมดในความผิดฐาน “ร่วมกันมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้ามิได้เสียภาษี ร่วมกันขายหรือให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าตามพ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 (แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 4 พ.ศ.2562) ประกอบคำสั่งคณะกรรมการผู้บริโภค ที่ 9/2558 และซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าราชอาณาจักร ตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 30มาตรา 31 มาตรา 52 วรรค 2” ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO