โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

เกาะประเด็นการเมืองวันนี้ จับตา ‘ก่อแก้ว’ ขอเลิกพักงาน ‘นายกฯอิ๊งค์’

เดลินิวส์

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • เดลินิวส์
คงต้องรอดูว่า แนวความคิดของนายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.พรรคเพื่อไทย จะมีใครเห็นด้วยหรือไม่ หรืออาจถูกวิจารณ์เป็นการฉวยโอกาสหรือไม่ เพราะในสถานการณ์วิกฤติที่มี “นายภูมิธรรม เวชยชัย“ รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่แทนอยู่แล้ว

ถูกตั้งคำถามว่า เป็นการฉวยโอกาสหรือไม่ หลังไทยเปิดฉากการสู้รบกับ "กัมพูชา" โดยประเทศเพื่อนบ้านเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ซึ่งยังไม่รู้ว่า การปะทะกันครั้งนี้จะยุติลงได้เมื่อไหร่ แต่ที่กลายมามีประเด็นเกี่ยวข้องกับการเมือง หลัง “นายก่อแก้ว พิกุลทอง” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ในสภาวะคับขันเช่นนี้ เห็นว่า ทุกหน่วยงานของประเทศควรร่วมมือกันตอบสนองต่อสถานการณ์เพื่อให้ชาติสามารถก้าวผ่านวิกฤติไปได้อย่างมั่นคง อย่างเช่น ศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) ควรพิจารณายุติการระงับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯ เพราะในยามที่ประเทศกำลังเผชิญภาวะสงคราม ผู้นำซึ่งมีอำนาจเต็มย่อมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกประเทศ

ก่อนหน้านั้น "น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" นายกฯ และรมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์การปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด มือสั่น เสียงสั่น น้ำตาคลอ ว่า สิ่งที่รัฐบาลและกองทัพได้ทำร่วมกันมาตลอด คือการดูแลพี่น้องประชาชน และรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ ความสงบสุข เป็นจุดยืนที่รัฐบาลยืนยันมาตลอด และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยในที่สุดฝั่งกัมพูชาก็เริ่มยิงมาก่อน แต่กลับพูดว่าฝั่งไทยยิงก่อน ปัจจุบันเรามีเครื่องมือมากมาย ในสายตาของชาวโลก จะเชื่อถือกัมพูชาลดน้อยลง

สิ่งที่เกิดขึ้นในไทยชัดเจนอยู่แล้วว่า กัมพูชาเริ่มยิงมา ได้คุยกับรมช.กลาโหม (กห.) และกองทัพเพื่อเตรียมความพร้อมไว้อย่างดี ที่จะดูแลพี่น้องประชาชน เป็นห่วงสิ่งที่เกิดขึ้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกฯ ได้ประชุมรับมือเกี่ยวกับเรื่องอาวุธที่มีตามแนวชายแดน ซึ่งมีความพร้อมมาตั้งนานแล้ว ขณะที่ รมช.กลาโหมก็ได้รายงานข้อมูลว่า ปัจจุบันมีความพร้อมมากขึ้น 2-3 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2554

คงต้องรอดูว่า แนวความคิดของนายก่อแก้ว จะมีใครเห็นด้วยหรือไม่ หรืออาจถูกวิจารณ์เป็นการฉวยโอกาสหรือไม่ เพราะในสถานการณ์วิกฤติที่เกิดขึ้น ก็มี "นายภูมิธรรม เวชยชัย" รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่แทนอยู่แล้ว

ในที่สุดตำแหน่งรองประธานสภา คนที่ 2 ตกเป็นของพรรค พท. ก่อนหน้านั้นมีข่าวพรรคร่วมรัฐบาลมีความต้องการเก้าอี้นี้เช่นเดียวกัน แต่ในที่สุดในที่ประชุมสภามีการเสนอชื่อ “นายฉลาด ขามช่วง” สส.ร้อยเอ็ด พรรค พท.เพียงรายชื่อเดียว ซึ่งตามข้อบังคับการประชุมทำให้ไม่ต้องมีการลงมติและถือว่านายฉลาดได้รับเลือก และให้แสดงวิสัยทัศน์ต่อการทำหน้าที่ จากนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดี เมื่อได้รองประธานสภา ชื่อฉลาดแล้ว หวังว่า “จะฉลาดทั้งสภา” ซึ่งต้องรอดูจะช่วยยุติกระแสความไม่พอใจของ สส.อีสาน ซึ่งมีข่าวว่าไม่พอใจการจัดตำแหน่งฝ่ายบริหารพรรคถึงขั้น “นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ” สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ตำแหน่งดังกล่าวถือเป็นโควตาของพรรคพท. ไม่ได้ยกให้พรรคการเมืองอื่นและในพรรคได้พิจารณาแล้วว่า สส.ภาคอีสานมีจำนวนมากที่สุด

จึงควรเป็นตัวแทนจากภาคอีสานที่จะได้รับตำแหน่งนี้ ไม่เช่นนั้นก็อยู่ลำบาก ซึ่งการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ล่าสุด สส.อีสาน พรรค พท.ก็ไม่ได้อานิสงส์ ท่ามกลางกระแสพรรคที่ตกต่ำ ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า สส.ภาคอีสาน อาจย้ายไปอยู่พรรคการเมืองอื่นเพราะกระแสความนิยมพรรค พท. ไม่ดีเหมือนเดิม และมีแนวโน้มที่จะพ่ายแพ้พรรคประชาชน (ปชน.) สูง นอกจากนี้ยังต้องเผชิญคู่แข่งสำคัญอย่าง “ภูมิใจไทย (ภท.)” ที่เคยเป็นมิตรร่วมรักกันมาก่อน ดังนั้นหนทางที่จะรักษา สส.ไว้ให้อยู่กับพรรคมากที่สุด จึงมีความจำเป็น

นอกจาก เก้าอี้รองประธานสภา คนที่ 2 ที่ให้โควตากลุ่ม สส.ภาคอีสานแล้ว เร็วๆ นี้ มีข่าวจะมีการปรับเก้าอี้โควตา “ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ” เริ่มจากประธาน กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ที่ “นายฉลาด” นั่งทำหน้าที่ เมื่อขยับไปเป็นรองประมุขฝ่ายนิติบัญญัติแล้ว จึงเป็นโอกาสที่ “กมธ.คณะอื่นๆ” จะขยับตาม ซึ่ง “นายวิสุทธิ์” บอกว่าการปรับโควตาประธาน กมธ.นั้น ไม่มีอะไร เพราะเป็นปกติที่พรรคจะปรับทุกๆ 2 ปี สำหรับโควตาประธาน กมธ. ที่เป็นสัดส่วนของ “พรรค พท.” ปัจจุบันมี 10 คณะ โดยพบว่า มี สส.อีสาน ที่นั่งตำแหน่งประธาน กมธ. จำนวน 8 คณะ และเป็นโควตา สส.ภาคเหนือ 2 คณะซึ่งทั้งหมดทำหน้าที่มาครบ 2 ปี

ต้องรอดูการจัดสรรตำแหน่งทางการเมืองให้กับ สส.อีสาน และการเกลี่ยตำแหน่งประธาน กมธ.ในสภา จะทำให้ พรรค พท. ลดแรงกระเพื่อมหรือไม่ ท่ามกลางวิกฤติศรัทธาที่มีต่อพรรคแกนนำรัฐบาล

ส่วนความเคลื่อนไหวในการตรวจสอบปัญหาที่ดินเขากระโดง ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้มากบารมีของพรรค ภท. ที่กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม “พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม” ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ประชุมนัดแรก สืบสวนคดีที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ก่อนรับเป็นคดีพิเศษ พร้อมกำหนดแนวทางสอบปากคำพยาน การรวบรวมพยานหลักฐาน และประสานเอกสารหน่วยงานเกี่ยวข้อง ภายหลังจากที่นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. ได้ร้องดำเนินคดีกลุ่มคณะบุคคล ทั้งนี้ การดำเนินการอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนเบื้องต้น เพื่อพิจารณาความชอบธรรมของการครอบครองที่ดิน และประเมินว่าเข้าลักษณะคดีพิเศษตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือไม่ โดยคณะพนักงานสอบสวนจะดำเนินการโดยยึดหลักนิติธรรม ความโปร่งใส และความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายโดยจะไม่กล่าวหาหรือพาดพิงบุคคลใดจนกว่าข้อเท็จจริงจะปรากฏชัดเจน และหากพยานหลักฐานมีน้ำหนักเพียงพอ และคดีเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ คณะพนักงานสืบสวนจะเสนอให้อธิบดีดีเอสไอพิจารณารับเป็นคดีพิเศษโดยเร็ว

ก่อนหน้านั้น "นายเดชอิศม์ ขาวทอง" รมช.มหาดไทย เซ็นคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน กรณีไม่เพิกถอนโฉนดที่ดินบริเวณเขากระโดง ตำบลอิสาณ และตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมี "นายเชษฐา โมสิกรัตน์" รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ

คณะกรรมการมีอำนาจพิจารณาเสนอความเห็นเกี่ยวกับผลการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน กรณีไม่เพิกถอนโฉนดที่ดินบริเวณเขากระโดง ต.อิสานและต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวงที่เกี่ยวข้อง รับฟังพยานบุคคล ตรวจสอบเอกสาร วัสดุ หรือสถานที่ เชิญบุคคลหรือผู้แทนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อมูลและข้อเท็จจริง ตลอดจนขอให้จัดส่งเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณาตามความจำเป็น รวมทั้งดำเนินการอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ในเรื่องดังกล่าว จนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ และส่งสรุปผลการตรวจสอบพร้อมเสนอความเห็นต่อผู้แต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป

ต้องยอมรับว่า กระบวนการตรวจสอบที่ดินเขากระโดงเป็นประเด็นร้อน ซึ่งถูกมองว่า ต้องการนำมาเช็กบิลฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ซึ่งบทสรุปในเรื่องนี้ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้

"ทีมข่าวการเมือง"

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

ด่วน! กองทัพเรือเปิดปฏิบัติการเเล้ว หลัง‘กัมพูชา’ เปิดฉากยิงทหารไทย บ้านชำราก จ.ตราด

30 นาทีที่แล้ว

แซ่บสะท้านทะเล! ‘พิม พิมประภา’ อวดหุ่นสุดเป๊ะในชุดว่ายน้ำริมชายหาด ทำไอจีไฟลุก

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่…ช่วยเสริมภูมิต้านทาน สร้างผิวสวย จริงไหม?

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เตือน 7 จังหวัด ‘เหนือ-อีสาน’ ระวังฝนตกหนัก ‘กทม.’ ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ประชาชนกับทหารในดวงเมือง

ไทยโพสต์

ไต่สวนคดี ‘ทักษิณ’ ชั้น 14 พบข้อมูลสำคัญ ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล

เดลินิวส์

กลาโหมกัมพูชา แถลงโต้ไทย ละเมิดอธิปไตย-ถล่มพลเรือน ร้อง UN-อาเซียนประณาม!

ไทยโพสต์

ด่วน!เปิดยุทธการ 'ตราดพิฆาตไพรี1' กัมพูชาเปิดฉากยิงขยายพื้นที่บ้านชำราก

กรุงเทพธุรกิจ

ปะทะสนั่นตราด! ยิงกันเช้ามืดที่ชำราก อพยพ 3 อำเภอหนีตาย-ยึดมือถือเขมร

ไทยโพสต์

ด่วน! เวลา 05.20 น. วันนี้ 26 ก.ค. นาวิกโยธิน ปะทะ ทหารกัมพูชา บริเวณบ้านชำราก จ.ตราด

News In Thailand

ข่าวและบทความยอดนิยม

ชื่นชม ‘ก้อง ห้วยไร่’ มอบเงิน 1 ล้าน ผนึกกำลัง ‘ไทบ้าน’ ทำโรงทานช่วยผู้อพยพชายแดนอีสานใต้

เดลินิวส์

กองทัพไทย เปิดบันทึกเหตุปะทะชายแดน กัมพูชาเปิดฉาก บินล้ำ ยิงถล่มฐานไทย

เดลินิวส์

คดี‘น้องเมย’เพื่อไทยทำอะไร?

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม