โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ตลาด"Content Creator" โตพุ่ง คนชอบดูโฆษณาจากอินฟลูฯ เม็ดเงินสื่อเก่าวูบ

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา
อินฟลูฯเนื้อหอมแย่งตลาดโฆษณา ยุคแห่ง Content Creator

ยุคทอง "Content Creator"

ยุคนี้ยุคที่ใครๆก็ทำคอนเทนต์ได้ จะสื่อหลัก สื่อรอง จะเป็นชาวบ้านหรือดารา และไอดอล ทุกคนต่างเรียกตัวเองว่าอินฟลูเอนเซอร์ (Influencers) กลายเป็นทั้งอาชีพหลักและงานอดิเรกที่มาแรงไม่หยุด กล่าวได้ว่าเป็นงานแห่งปัจจุบันและอนาคต และมีคนคาดการณ์เอาไว้ว่าภายในอีก 6 ปีข้างนี้จะมี "Content Creators" ทั่วโลกทะลุไปถึง 696 ล้านคน

"Content Creator" รวมไปถึง "Influencers" ดูเหมือนจะเป็นอาชีพในฝัน งานที่คนรุ่นใหม่อยากทำมากที่สุดหลายคนทำเป็นงานหลัก บางคนทำเล่นๆ แต่ก็มีหลายคนที่สร้างรายได้มหาศาลและมีชื่อเสียงขึ้นมาในชั่วข้ามคืน แม้กระทั่งคนที่ดังๆอยู่แล้ว ยังต้องพยายามรักษาแฟนคลับผ่านโซเชียลมีเดีย และค่ายต่างๆก็ต้องพยายามปั้นเนื้อหาเพื่อโฆษณาและขายงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจ การสร้างเนื้อหาลงบนโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และห้ามทำพลาดเด็ดขาด เพราะชาวเน็ตได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนสังคม และเศรษฐกิจไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม Content Creators กับ Influencers นั้นมีความต่างกันอยู่เล็กน้อย โดย "Content Creators" (ผู้สร้างเนื้อหา) หมายถึง ผู้ที่ผลิตเนื้อหาเรื่องราวต่างๆ (คอนเทนต์)เพื่อลงโซเชียลมีเดียเป็นประจำ และสามารถสร้างรายได้จากการผลิตเนื้อหาได้ เช่น การโปรโมทสินค้าแบรนด์ต่างๆ ขณะที่ "Influencers" (ผู้มีอิทธิพล) หมายถึง ผู้ที่ลงคอนเทนต์ในโซเชียลมีเดียเป็นประจำ แต่ส่วนใหญ่มักเป็นความเคลื่อนไหวของตนเอง และเน้นสร้างรายได้จาก “ชื่อเสียง” ช่วยโปรโมทสินค้าแบรนด์ต่างๆ ดังนั้นในเมืองไทยมักใช้คำนี้เรียกรวมกันหรือถูกใช้แทนกันในหลายครั้ง

ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในแวดวงสื่อและโฆษณา ในปีนี้ 2025 คาดการณ์ว่าเม็ดเงินจากโฆษณาจะไหลเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ มากขึ้นและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแพลตฟอร์มยอดนิยม ตั้งแต่ YouTube, TikTok และ Instagram ขึ้นแซงหน้าสื่อเก่าอย่างโทรทัศน์หรือหนังสือพิมพ์ เป็นการตอกย้ำชัดว่า โลกของธุรกิจโฆษณา ได้ออกจากที่มั่นเดิม จากสื่อเดิมๆ เข้าไปสู่การเล่นหรือแข่งขันในโลกของดิจิทัลอย่างเต็มตัว

ข้อมูลจาก WPP Media บริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่สัญชาติอังกฤษ ประเมินว่าปีนี้รายได้ของคอนเทนต์ครีเอเตอร์จากการขายโฆษณากับแบรนด์ต่างๆ จะเพิ่มขึ้นถึง 20% และคาดว่าจะพุ่งสูงถึง 376,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ13.75 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2030

ที่น่าสนใจ คือ ปีนี้ ปี 2025 เกิดปรากฎการณ์ ที่ยอดขายโฆษณามาจากแพลตฟอร์มออนไลน์แซงหน้าสื่อมืออาชีพแบบเก่า โดยเฉพาะเนื้อหาที่ผู้ใช้งานสร้างขึ้นเอง (User-Generated Material) โดย WPP Media วิเคราะห์เพิ่มเติมว่า User-Generated Material ทั้งวิดีโอ พอดแคสต์ หรือโพสต์ต่างๆ ที่ครีเอเตอร์สร้างขึ้น ได้สร้างรายได้จากโฆษณาแซงหน้าเนื้อหาที่ออกมาจากสื่อมืออาชีพผลิต เพราะคนในยุคนี้เปลี่ยนไป คอนเทนต์ออนไลน์กลายเป็นสื่อหลัก คนดูออนไลน์กันมากขึ้น ดังนั้นคนจึงเห็นหรือได้ดูโฆษณาที่มาจากคอนเทนต์ครีเอเตอร์ มากกว่า และรายได้ก็เพิ่มขึ้นตามอย่างมหาศาล

เติบโตและทรงพลังตามทิศทางของ"สื่อดิจิทัล"

ใครบ้างจะไม่ใช้ มือถือสมาร์ทโฟน ขนาดเด็กเล็ก เด็กวัยรุ่น ไปถึงผู้สูงวัย เรายังได้เห็นพ่อแม่ส่งไลน์สวัสดีตอนเช้ากันแทบทุกวัน แม้กระทั่งเนื้อหาต่างๆ ก็หลากหลาย เราได้เห็นตั้งแต่ชีวิตของลูกดารา คนเกาหลีพาเที่ยวเมืองไทย เด็กวัยรุ่นแข่งกันเต้น ไปจนถึงการนั่งดูไลฟ์สดชีวิตแมว พลังของแพลตฟอร์มดิจิทัลเติบโตขึ้นและเม็ดเงินก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ วงการสื่อทั่วโลกเปลี่ยนไปแล้ว งานของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ออกมา แม้จะไม่ใช่มืออาชีพในการผลิตวิดิโอ หรือโปรดักชั่นขั้นสูง แต่กลับมีพลัง มีอิทธิพลหรือขายได้มากกว่า คนดูมากกว่า เพราะว่ามาจากมุมมองจากครีเอเตอร์คนๆนั้น ที่เหล่าผู้ติดตามชื่นชอบ มีการเล่า หรือการนำเสนอในมุมมองส่วนตัว และมาพร้อมเอกลักษณ์ หรือ ลายเซ็นเฉพาะตัว หรือบางคนเองก็มีจุดขายหรือจุดยืนที่แตกต่างกันไปแต่ชัดเจนมากๆ เช่น คอนเทนต์สัตว์เลี้ยง แต่งหน้า พาเที่ยว พากิน คนในยุคนี้จึงสามารถการเลือกเสพสื่อได้อย่างตรงใจเฉพาะเจาะจง และแน่นอนว่าเป็นผลดีกับธุรกิจที่ต้องการเลือกฐานคนดูให้ตรงกับสินค้าของตนเอง

ยุคดิจิทัล "ผู้บริโภค"ซื้อสินค้าที่สะท้อนตัวตน

รายงานจาก WPP Media ยังระบุอีกด้วยว่า คนในยุคปัจจุบันจะตัดสินใจซื้อสินค้าที่สะท้อนถึงความเชื่อ และมุมมองของเค้าเอง ซึ่งถือว่าแตกต่างจากสมัยก่อนๆ ที่ข้อความจากแบรนด์มักจะเน้นการขายเป็นหลัก และไม่ได้รับความคิดเห็นใดๆจากลูกค้า ซึ่งสมัยนี้เราจะเห็นได้ชัดเจนมากว่าสินค้าหลายอย่างเกิดจากลูกค้าด้วยซ้ำ เช่น เพจของร้านไก่ทอดชื่อดังขายหนังไก่ทอดเพราะลูกค้าเรียกร้อง ร้านสุกี้ให้คนเอาน้ำจิ้มพกมากินเองได้ หรือโปรบุฟเฟ่ต์ 1 แถม 1 ต่างๆอีกมากมาย แม้กระทั่้งดราม่าต่างๆที่อาจจะขึ้น ก็สามารถใช้โซเชียลใช้เป็นช่องทางในการแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงทีด้วย

สื่อใหม่มาแรง สื่อเก่าทำอย่างไร ความท้าทายเกิดขึ้น การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ ทำให้สื่อแบบเดิมที่เคยสบายและมีรายได้จากโฆษณาเป็นหลัก ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อประหยัดต้นทุน และรักษาสภาพคล่องทางการเงิน และแน่นอนว่า ก็ต้องปรับตัวให้ทัน โดยเฉพาะปรับรูปแบบคอนเทนต์ หันมาผลิตเพื่อลงแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น และอาจจะนำไปสู่การลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ เช่น หลายครั้งที่เราได้เห็นว่าสื่อทีวีทั่วโลก ไม่ว่าจะดังหรือใหญ่แค่ไหน ก็มีการปลด เลิกจ้าง หรือลดจำนวนพนักงาน หรือหันไปทำคอนเทนต์ลง TikTok และ YouTube เพื่อดึงดูดผู้ชมกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้นอีกด้วย

ดังนั้น จึงไม่แปลกใจหากเราได้เห็นว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโลกออนไลน์เหล่านี้ ต่างก็เติบโตอย่างสดใส เป็นยุคทองหรือขาขึ้น ของกลุ่มบริษัทแพลตฟอร์มอย่าง Google, Meta, ByteDance (เจ้าของ TikTok), Amazon และ Alibaba ทั้งหมดนี้เป็น 5 บริษัทใหญ่ ที่ครองส่วนแบ่งรายได้มากถึง 54% ของรายได้ทั้งหมดในวงการโฆษณาเมื่อปีที่แล้ว ตอกย้ำความแข็งแกร่งที่ชัดเจนของสื่อดิจิทัล

ตลาดกำลังโต ส่วนแบ่งก็มากมาย ดังนั้นตัวละครสำคัญ อีกตัว ก็คือ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ ที่มีการเติบโตพุ่งแรงเช่นกัน มีคนกระโดดเข้าไปเป็นครีเอเตอร์กันมากขึ้น ตั้งแต่ยูทูปเบอร์ ดาวติ้กต้อก หรือทำเพจทาง Facebook โดยเฉพาะสื่อใหญ่ที่มาลงทำสื่อเหล่านี้ด้วยตนเอง ทำให้ตลาดคอนเทนต์ครีเอเตอร์ (Creator Economy)เติบโตอย่างน่าสนใจ แม้กระทั่งแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิง เช่น Netflix เราจะได้เห็นว่ามีค่ายหนังค่ายละคร จากช่องทีวีใหญ่ๆ เอาละครเอาเนื้อหามาลงกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะยุคนี้สมาร์ตทีวีราคาถูกลง ราคาจับต้องได้ ทำให้การรับชมคอนเทนต์ออนไลน์ผ่านจอใหญ่หรือดูผ่านทีวีเองทำได้ง่ายขึ้น

และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้มีการคาดการณ์ว่า ในอนาคต อีก 6 ปีข้างนี้ เมื่อถึงปี 2031 มูลค่าตลาด Creator Economy จะเพิ่มเป็น 64,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.1 ล้านล้านบาท) และ Content Creator ทั่วโลกจะมีมากถึง 696 ล้านคน

"ประเทศไทย" ตลาดคอนเทนต์ครีเอเตอร์โตต่อเนื่อง

กลับมามองที่บ้านเรากันบ้าง ประเทศไทยตอนนี้ ก็มีคอนเทนต์ครีเอเตอร์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเป็นตลาดที่เติบถึงสองหลักในทุกปี ข้อมูลน่าสนใจจากคุณขจร เจียรนัยพานิชย์ บรรณาธิการบริหาร RAiNMaker และผู้จัดงาน iCreator Conference เปิดเผย ในงาน Creative Talk Conference 2025 (CTC 2025) เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ระบุว่า "ครีเอเตอร์ไทย" ในปัจจุบันมีความหลากหลายและกระจายตัว เพราะประเทศไท ยเรายังไม่มีแพลตฟอร์มไหนที่ครองตลาดแบบรวบตึงเบ็ดเสร็จ เช่น เฟซบุ๊ก (Facebook) เป็นอันดับหนึ่งด้านจำนวนผู้ใช้งาน แต่สัดส่วนก็ไม่ได้ทิ้งห่างจากติ๊กต๊อก (TikTok) ที่ตามมาเป็นอันดับสองมากนัก ตามด้วยอินสตาแกรม (Instagram) และยูทูบ (YouTube) สิ่งสำคัญคือ เราจะต้องเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับประเภทของคอนเทนต์ สำหรับหมวดหมู่คอนเทนต์ที่ยังได้รับความนิยม ได้แก่ ไลฟ์สไตล์ ความงาม และความบันเทิง หมวดดาวรุ่งมาแรง ได้แก่ แม่และเด็ก สัตว์เลี้ยง นักข่าว รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุและครอบครัว

ในส่วนของรูปแบบคอนเทนต์ วิดีโอสั้นยังคงครองความนิยมสูงสุด ส่วนไลฟ์สตรีมมิ่ง (Live Streaming) ก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากช่วยสร้างรายได้โดยตรงจากผู้ติดตามได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้ครีเอเตอร์มีรายได้จากหลากหลายช่องทางมากขึ้น ทั้งรายได้จากแพลตฟอร์มโดยตรง การโดเนต ค่าสมาชิก โปรแกรม Affiliate การขายสินค้า (Merchandise) หรือการจัดกิจกรรมของตัวเองขึ้นมา

นอกจากนี้ยังต้องจับตา AI โอกาสที่มาพร้อมกับความเสี่ยง AI ทำให้ครีเอเตอร์ผลิตงานได้มากขึ้น ใช้เวลาน้อยลง แต่ก็เตือนให้ใช้อย่างระมัดระวัง เพราะการกำกับดูแลและกฎระเบียบยังตามไม่ทัน และทำให้การแข่งขันสูงขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

เปิดข้อควรระวังก่อนกินคอลลาเจน กินเกินขนาดระวัง ตับ-ไต พัง

12 นาทีที่แล้ว

อินเดียสั่งตรวจสอบ "สวิตซ์เชื้อเพลิง" บนเครื่องโบอิงทุกลำ หลังเหตุแอร์อินเดียตก

16 นาทีที่แล้ว

ทำไม 'ยาทรามาดอล' ถึงถูกจัดเป็นยาควบคุมพิเศษ?

32 นาทีที่แล้ว

ยุโรปร้อนระอุ! สวรรค์ฤดูร้อนพังทลาย

33 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

DMT เปิดตัวโครงการนำร่อง “ทำนาลดคาร์บอน” ยกระดับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต

WeR NEWS

ลุ้นกันต่อ ครม.ยังไม่เคาะ “ผู้ว่าธปท.” คนใหม่

การเงินธนาคาร

Nvidia จ่อรีเทิร์นตลาดจีน หลังสหรัฐฯ ไฟเขียวส่งออกชิป H20 อีกครั้ง

Amarin TV

ยังไงแน่! แต่งตั้ง ผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่ ยังไม่เข้าครม. อ้างเอกสารไม่ครบ

เดลินิวส์

TACC มอบเครื่องกรองน้ำและสินค้าคาแรคเตอร์ให้โรงเรียนวัดหนองกาน้ำ จ.ชลบุรี

Manager Online

ริสโซกาโล จับมือ ยูโรฟู้ด ชูศักยภาพเชฟรุ่นใหม่ ในการแข่งขัน Young Risotto Chef ครั้งแรกในประเทศไทย

Manager Online

ครม.วุุ่น !เลื่อนเคาะชื่อ วิทัย นั่งผู้ว่าธปท. หลังถูกติง เสนอชื่อเข้าเป็นวาระจร

MATICHON ONLINE

TDO เปิดหลักสูตร Digital Asset for Operators

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

มาตรการภาษีของสหรัฐฯ! ธปท. มองไม่รุนแรงเท่าช่วงโควิด แต่ลากยาว

TNN ช่อง16

"ทรัมป์"ประกาศจ่อขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มอีก ทองแดง +50% ยาและชิป +200%

TNN ช่อง16

รัฐบาลไทยพร้อมรับมือ“ภาษีทรัมป์” สำรอง 5 หมื่นล้าน ดูแลผู้ประกอบการ กระตุ้นเศรษฐกิจ

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...