ททท.-KTC ปลุกคนเที่ยวอีสานหน้าฝนกับ "Isan Greencation" รับส่วนลดสูงสุด 50%
ททท. x KTC เปิดแคมเปญ Isan Greencation รับส่วนลดสูงสุด 50% หนุนคนเที่ยวอีสานเชิงวัฒนธรรมรับหน้าฝน
ภาคอีสานที่ติดลุ่มน้ำโขง เป็นดินแดนที่ขึ้นชื่อเรื่องตำนานพญานาค เส้นทางแห่งความศรัทธา ซึ่งต้องบอกว่าภาคอีสานที่ติดลุ่มน้ำโขงไม่ได้โดดเด่นเฉพาะเรื่องพญานาคเท่านั้น แต่มีมนต์เสน่ห์ที่รอให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสอีกมากมาย โดย น.ส.กนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี ดูแล 3 จังหวัด อุดรธานี, หนองคาย และบึงกาฬ ได้เล่าถึงเสน่ห์ทั้ง 3 จังหวัดว่ามีความแข็งแรงในเส้นทางแห่งศรัทธา โดยจังหวัดอุดรธานี มีคำชะโนด เป็นดินแดนแห่งความศรัทธาตามรอยพญานาค, หนองคาย เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในคืนวันออกพรรษา (15 ค่ำ เดือน 11) คือ บั้งไฟพญานาค และบึงกาฬ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น หิน 3 วาฬ, ถ้ำนาคา, น้ำตกถ้ำพระ, น้ำตกกินรี ที่มีหินปลาโลมา ถือเป็นการเปลี่ยนภาพจำให้กับนักท่องเที่ยวว่า สามารถมาท่องเที่ยวได้ทุกฤดู
ผอ.ททท.อุดรธานี กล่าวว่า ปัจจุบันได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ได้แก่ กิจกรรมรำบูชาหลวงพ่อพระใส ณ วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย โดยเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวร่วมรำบูชาได้ตลอดทั้งปี ไม่จำกัดแค่วันที่ 12 เม.ย. เท่านั้น อีกทั้งทางวัดยังเตรียมครูสอนรำ และชุดรำ ไว้คอยรองรับทุกเพศทุกวัยอีกด้วย
กิจกรรม 9 เดือน 9 ไหว้ 4 พระธาตุ ณ จังหวัดหนองคาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ไหว้พระธาตุสำคัญ 4 องค์ในเขตอำเภอมืองภายใน 1 วัน อาทิ พระธาตุพลจิรัง, พระธาตุหล้าหนอง, พระธาตุพระอรหันต์ และพระธาตุบังพวน
กิจกรรมสามล้อเรืองแสง โดยนำรถสามล้อมาประดับไฟให้สวยงาม โดยมีจำนวนทั้งหมด 14 คัน พานักท่องเที่ยวชอมแลนด์มาร์คยามค่ำคืน เช่น พญานาคคู่ วัดโพธิ์ชัย เป็นต้น ปัจจุบันบริหารโดยสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว
กิจกรรมงานจุ้ม จุ้ม บ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี จัดขึ้นโดยคนรุ่นใหม่ เป็นการรวมตัวกันของคนในพื้นที่เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และนำศิลปะบ้านเชียงมานำเสนอในมุมสร้างสรรค์ และร่วมสมัย
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมชวนเข้าสังคม ที่อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย โดยจะมอบโปรโมชั่นส่วนลด 300 บาท ให้กับผู้ที่จองที่พักในอำเภอสังคม เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่มีจุดเด่นด้านธรรมชาติ เช่น Skywalk วัดผาตากเสื้อ และกิจกรรมพายซัพบอร์ด ที่มีโรงแรม-ร้านกาแฟริมแม่น้ำโขง
ด้าน น.ส.วริษฐา พัฒนรัชต์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต เคทีซี กล่าวเสริมว่า เคทีซี ร่วมกับ ททท. ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดทำแคมเปญ “Isan Greencation” อีสานเย็นดี Green Season นี้มีดีล เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วง Green Season ระหว่างวันที่ 23 มิ.ย. 68–15 ก.ย. 68 เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีทุกประเภทกับพันธมิตรจากโรงแรมและร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการกว่า 110 ราย อาทิ ห้องพักราคาเริ่มต้นที่ 990 บาทต่อคืน ส่วนลดร้านอาหารสูงสุด 10% และ E-coupon ส่วนลดน้ำมัน PT มูลค่า 100 บาท สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า มาสเตอร์การ์ด และยูเนี่ยนเพย์ เมื่อมียอดใช้จ่ายครบ 1,000 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป ณ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ (จำกัด 2,000 สิทธิ์ตลอดรายการ) และส่วนลด 20% ทุกเส้นทางในประเทศ จากสายการบินไทยเวียตเจ็ท
เปิดประสบการณ์เยือนภาคอีสานกับ KTC ในแคมเปญ “Isan Greencation”
เรียกว่าลบภาพจำเกี่ยวกับความแห้งแล้งของภาคอีสานไปได้เลย เมื่อ Sanook Money ได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนภาคอีสานกับ KTC ในแคมเปญ “Isan Greencation” ซึ่งมีพื้นที่อยู่ติดกับลุ่มแม่น้ำโขง ดินแดนที่เต็มไปด้วยตำนานพญานาค ไม่ว่าจะเป็นถ้ำนาคา เมืองลับแล บั้งไฟพญานาค ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่เขียวชอุ่ม อุดมไปด้วยพืชไม้นานาพรรณที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นหมุดหมายที่หลายคนตั้งใจที่จะต้องเดินทางมาให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต
โดยทริปนี้เดินทางไปสนามบินอุดรธานีด้วยสายการบิน thaivietjet จากนั้นนั่งรถตู้ต่อไปยังจังหวัดบึงกาฬเพื่อไปชมหินสามวาฬ ตั้งอยู่บนภูสิงห์ อำเภอบึงโขงหลง บริเวณของ หินสามวาฬ จะเป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง แยกตัวเป็น 3 ก้อนใหญ่เรียงต่อกัน มีอายุราว 75 ล้านปี หากใช้โดรนถ่ายภาพจากมุมสูงจะพบว่าหิน 3 ก้อนนี้ คล้ายกับฝูงครอบครัววาฬ มีพ่อวาฬ แม่วาฬ และลูกวาฬ นั่นเอง และยังเป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวจะนิยมมาถ่ายภาพผลักหัววาฬ
จากนั้นเดินทางต่อไปยังประตูสิงห์ เป็นบริเวณที่มีหินขนาดใหญ่สองก้อนตั้งอยู่ริมหน้าผา คล้ายกับช่องลม สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องหน้าได้อย่างชัดเจน โดยภูสิงห์นี้จะอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ของเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู
ก่อนจะปิดท้ายวันแรกด้วยการเข้าที่พักอนันตระปุระ รีสอร์ท บึงโขงหลง อยู่ใกล้กับถ้ำนาคาที่สุด เหมาะกับการพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวขึ้นถ้ำนาคาในวันถัดไป จุดเด่นของที่นี่เป็นวิลล่าส่วนตัว ระเบียงหน้าห้องมองเห็นสวนน้ำพุพญาอนันตนาคราช
ตำนานถ้ำนาคา
ถ้ำนาคาเป็นดินแดนที่ถูกกล่าวขานว่าเกิดจากการล่มเมืองของพญานาค ซึ่งเดิมทีบริเวณแห่งนี้เป็นเมืองชื่อรัตพานคร มีพระอือลือราชา เป็นผู้ครองนคร มีมเหสีชื่อนางแก้วกัลยา มีพระธิดาชื่อพระนางเขียวคำต่อมาได้อภิเษกสมรสกับพระเจ้าสามพันตา มีพระโอรสชื่อเจ้าชายฟ้ารุ่ง มีรูปงาม เฉลียวฉลาด ต่อมาได้อภิเษกสมรสกับ นาครินทรานี ซึ่งเป็นพระธิดาของพญานาคราชแห่งเมืองบาดาลที่แปลงกายเป็นมนุษย์
ทั้งสองอยู่กินกันมาเป็นเวลา 3 ปี ก็ไม่สามารถจะมีผู้สืบสายสกุลได้ (ธาตุมนุษย์กับนาคต่างกัน) เจ้าหญิงนาครินทรานี เกิดความเศร้าโศกเสียใจจนล้มป่วยลง ทำให้ร่างกายของนางที่เป็นมนุษย์กลายเป็นนาคตามเดิม แม้จะร่ายมนตร์กลับเป็นมนุษย์ พระอือลือราชาก็ไม่พอใจ ขับไล่สู่เมืองบาดาลดังเดิม
พญานาคราช ขอเครื่องกกุธภัณฑ์ของตระกูลคืน แต่พระเจ้าอือลือราชาคืนให้ไม่ได้ เพราะแปรสภาพเป็นอย่างอื่น ทำให้พญานาคราชกริ้วมากทำลายเมืองจนกลายเป็นบึงโขงหลง เหลือไว้ 3 วัด คือ วัดดอนแก้ว (วัดแก้วฟ้า), วัดดอนโพธิ์ (วัดโพธิสัตว์) และวัดดอนสวรรค์ (วัดแดนสวรรค์) ส่วนพระอือลือราชาถูกสาปให้กลายเป็นนาค เฝ้าอยู่ในภูลังกา หรือบึงโขงหลง จนกว่าจะมีเมืองเกิดใหม่ในดินแดนแห่งนี้ ถึงจะพ้นคำสาปของพญานาคราชได้ ต่อมาปี 2554 ได้ประกาศจังหวัดบึงกาฬ แยกออกจากจังหวัดหนองคาย ทำให้ทุกคนได้เห็นถ้ำนาคาสร้างความศรัทธานำไปสู่การตั้งศาลปู่อือลือใหม่
ภูลังกา ดินแดนสมุนไพร ตำนานรามเกียรติ์
ในรามเกียรติ์ตอนหนึ่ง พระลักษณ์ต้องหอกโมกขศักดิ์ หนุมานต้องเหาะไปที่เขาสรรพยา หรือภูลังกาในปัจจุบัน เพื่อนำยาสังกรณีตรีชวาไปรักษาพระลักษณ์ ด้วยการเนรมิตให้หางยาวใหญ่โอบรัดเอาภูลังกาเพื่อไปรักษาพระลักษณ์ เมื่อหนุมานดึงเอาภูลังกาออกไปจึงเกิดเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่เป็น บึงโขงหลง หลังจากได้ยารักษาพระลักษณ์แล้ว หนุมานจึงได้นำเอาภูลังกากลับมาคืนแต่ไม่ตรงที่เดิมจึงเกิดเป็นภูลังกาในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ใกล้กับบึงโขงหลง
เมืองลับแลของชาวบังบด
ในตำนานเล่าว่า เมืองลับแลมีคนอาศัยอยู่ และคาดว่าเป็นผู้ที่จัดสร้างเจดีย์บนยอดเขา และถวายอาหารให้กับพระธุดงค์ในอดีตอีกด้วย
การขึ้นถ้ำนาคาจะต้องจองออนไลน์ล่วงหน้า และต้องมีจิตอาสาพาขึ้นถ้ำนาคาด้วยทุกครั้ง กำหนดเวลา 2 รอบ คือ รอบ 06.00 น. และรอบ 13.00 น. ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย สำหรับระยะทางของถ้ำนาคามีความยาว 1,240 เมตร โดยมีจุดพักทั้งหมด 12 จุด คือ A-L โดยในช่วงแรกนั้นจะมีความกดอากาศต่ำอาจทำให้บางคนมีอากาศเหนื่อยล้า หน้ามืดได้ และในบางจุดบันไดจะมีความชันขึ้นเกือบ 90 องศา
เมื่อเดินทางมาถึงจุดสูงสุดเป็น ลานผู้พิชิตถ้ำนาคา ก็จะต้องเดินลงไปบริเวณท้องของพญานาค ภายในมีจุดครอบเศียรปู่เป็นโพรงธรรมชาติ สามารถอธิษฐานขอพรการเงิน-การเงินได้ ถัดจากนั้นจะมีหัวใจนาคา สามารถขอพรเรื่องสุขภาพได้ และมีพระพุทธรูปปางนาคปรก ที่จะเปลี่ยนสีตามฤดูกาล บ้างก็เป็นสีรุ้ง เมื่อขอพรจากบริเวณท้องพญานาคแล้ว เราก็จะเดินทางไปเจดีย์ 3 องค์ เจดีย์หลวงปู่เสาร์, เจดีย์หลวงปู่วัง และเจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ โดยทั้ง 3 เจดีย์อยู่คนละที่กัน และจุดที่ไปขอพรเปิดทรัพย์คือ ถ้ำหลวงปู่วัง โดยนำโทรศัพท์ และกระเป๋าตังค์วางไว้บนถาด กล่าวขอเปิดทรัพย์จากเมืองบาดาล จากนั้นเวียน 3 รอบ แล้วกวาดมือดึงทรัพย์เข้าตัว
และจุดที่คนนิยมถ่ายรูปคือ เศียรที่ 1 อยู่บริเวณทางลงเขา และเศียรที่ 3 ที่หลายคนจะไปไหว้ขอพร เรียกได้ว่าถ้ำพญานาคเป็นพลังธรรมชาติและเป็นเส้นทางที่น่าผจญภัยอย่างมากเลยทีเดียว
จากบึงกาฬมุ่งหน้าสู่อุดรธานี มาอีสานทั้งทีถ้าไม่ไปคำชะโนดก็เหมือนมาไม่ถึงที่ "คำชะโนด" มีตำนานกล่าวขานว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และเส้นทางเชื่อมภาพที่พญานาคสามารถขึ้นมาบนโลกมนุษย์ได้ หรือลงไปบาดาลได้ ภายในคำชะโนดมีศาลมีพ่อปู่ศรีสุทโธ และแม่ย่าศรีปทุมมา ให้ประชาชนได้เข้ามากราบสักการะขอพรเรื่องโชคลาภ และผู้ที่ต้องการถวายเครื่องบูชา จะต้องทำพิธีด้านหน้าก่อนเข้าสู่ภายในก่อนทุกครั้ง หลังจากไหว้ขอพรแล้วก็เข้าพักที่ MOCO Hotel สไตล์โคโลเนียลใจกลางเมืองจังหวัดอุดรธานี การออกแบบโดยรวมของอาคาร จะเน้นความโค้งมน ในการดีไซน์ เพื่อให้ภาพรวมของอาคารมีความสมูท และร่วมสมัย
บ้านเชียง แหล่งโบราณคดีมรดกโลก
จุดเริ่มต้นของ แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง มาจาก สตีเฟน ยัง นักศึกษาโบราณคดีที่พบเศษภาชนะดินเผาจนนำไปสู่การขุดค้นครั้งสำคัญที่ทำให้ทราบว่ามีภาชนะดินเผาอายุมากกว่าหลายพันปีเลยทีเดียว ซึ่งในแต่ละยุคก็มีลวดลายที่แตกต่างกัน
บ้างเชียง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในปี 2535 เป็นแหล่งโบราณคดีแห่งแรกของประเทศไทย เพราะมีหลักฐานการตั้งถื่นฐานของชุมชนยุคก่อนประวัติศาสตร์ พบร่องรอย และโบราณวัตถุประเภทเครื่องมือ เครื่องใช้มากมาย จากนั้นก็เดินทางไปศูนย์การเรียนรู้ กลุ่มปั้นหม้อเขียนสี ตำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ที่นี่เป็นศูนย์รวมด้านหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาที่สือทอดจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งการปั้น การเขียนลวดลาย โดยดินที่นำมาใช้ปั้นเป็นที่เดียวกับที่ใช้ในหลุมขุดค้นเมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว
ปิดท้ายทริปเสริมความสิริมงคลด้วยการกราบสักการะศาลหลักเมือง องค์ปู่ท้าวเวสสุวรรณ และศาลพระพิฆเนศที่มีชื่อว่า องค์ศรีสุขคเณศ พระพิฆเนศที่มีเศียรเป็นนาคปรก 9 เศียร และ มีพระหัตถ์ 8 กร แนวคิดมาจากความเชื่อและศรัทธาในพ่อปู่ศรีสุทโธ