เริ่มแล้ว สืบพยานโจทก์นัดแรก คดี ม.112 ทักษิณ แอบขึ้นลิฟท์ข้างศาล
1 ก.ค. ที่ห้องพิจารณา 902 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกคดีดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.1860/2566 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม112 ความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ กรณีเมื่อปี 2558 นายทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อทีวีของเกาหลีใต้พาดพิง ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยจำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว
โดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี น้องเขยของนายทักษิณ เดินทางมาถึงศาล พร้อมกล่าวสั้นๆว่า วันนี้เดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณ ในฐานะประชาชนคนหนึ่งเท่านั้น
เมื่อถามว่า ทนายความของนายทักษิณ จะเสนอชื่อตนเป็น พยานจำเลยด้วยหรือไม่นั้น นายสมชาย ตอบว่า ทนายความนายทักษิณ ไม่ได้เสนอชื่อเป็นพยานจำเลยในคดีนี้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของทนายความที่จะเสนอชื่อพยานจำเลยต่อไป
กระทั่งเวลา 09.18 น. นายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลด้วยรถยนต์เบนซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ธษ 267 กรุงเทพมหานคร โดยไม่ได้ขึ้นบันไดศาลด้านหน้า แต่ได้ขึ้นลิฟท์ด้านข้างศาลแทน เพื่อหลบหลีกสื่อมวลชนและช่างภาพที่รอรายงานข่าวจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ศาลอาญาได้พิจารณาคดีลับ ห้ามมิให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และสื่อมวลชนเข้าห้องพิจารณา
ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ของอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 ที่เป็นโจทก์ฟ้องนายทักษิณในข้อหาความผิดมาตรา 112 ทางโจทก์จะนำพยานประมาณ 3 ปากที่เบิกไว้ จากทั้งหมด 10 ปาก โดยใช้เวลาสืบพยาน 3 วัน และตนในฐานะทนายฝ่ายจำเลยก็จะมีหน้าที่ถามค้าน
เมื่อถามว่านายทักษิณจำเป็นต้องมาฟังการสืบพยานทุกนัดหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นหน้าที่ของนายทักษิณที่จำเป็นมา เนื่องจากคดีนี้จำเลยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวอยู่แล้ว จึงจำเป็นต้องเข้ามาปรากฎตัวต่อศาล ก็ต้องดูอีกว่าทางศาลอาญาจะมีข้อกำหนดในการพิจารณาคดีหรือไม่
เมื่อถามว่าฝ่ายจำเลยจะมีการยื่นคำร้องขอพิจารณาลับหลังหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ตามประมวลกฎหมายพิจารณาความอาญานั้น อัตราโทษจะต้องไม่เกิน 10 ปี แต่คดีนี้อัตราโทษสูงกว่า 10 ปี อาจจะไม่เข้าข้อยกเว้น แต่หากมีเหตุจำเป็น ถ้าจำเลยมีทนายความอยู่แล้ว ก็อาจจะขอพิจารณาลับหลังได้ แต่ในเบื้องต้นนายทักษิณ ประสงค์ที่จะเข้าฟังการพิจารณาด้วยตนเอง และกระบวนการทั้งหมดของคดีนี้มีทั้งหมด 7 นัด เป็นพยานฝ่ายจำเลย 14 ปาก สืบพยานจำเลยวันแรก 15 ก.ค. 4 นัด และพยานโจทก์ 10 ปาก 3 นัด วันที่ 1-3 ก.ค. การสืบพยานจะครบทั้งหมด 7 นัดหรือเสร็จสิ้นกระบวนการก่อน 7 นัดก็ได้อยู่ที่กระบวนการ โดยจะนัดสืบพยานครั้งสุดท้ายในวันที่ 23 ก.ค.
เมื่อถามว่าในส่วนจำเลยยังติดใจส่วนของคลิปวิดีโอที่นายทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ในส่วนนี้ฝ่ายจำเลยติดใจแน่นอน และในวันนี้ก็จะมีการพิสูจน์ในประเด็นนี้ด้วย จะทำให้เห็นว่าคลิปดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ มีการเก็บหลักฐานมาอย่างไร