รู้จัก “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รักษาการนายกรัฐมนตรี ในวันที่ "แพทองธาร" หยุดทำหน้าที่
รู้จัก “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รักษาการนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย
หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ แพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราว กรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ล่าสุด นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี มีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดินในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญนี้
ประวัติ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เกิดเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2497 ที่กรุงเทพมหานคร สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ต่อมาเรียนแพทยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ก่อนจะเปลี่ยนสายมาศึกษาด้านวิศวกรรมอุตสาหการที่ University of California, Berkeley ประเทศสหรัฐอเมริกา จบการศึกษาในปี พ.ศ. 2521 และต่อมาเข้ารับการอบรมหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นปี 2538
เส้นทางการเมือง
- เริ่มเข้าสู่การเมืองในปี 2541 ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาลชวน หลีกภัย สมัยที่ 2
- ปี 2544 เข้าร่วมพรรคไทยรักไทย ได้รับเลือกเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ และได้รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคในปีถัดมา
- เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงคมนาคม, กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- ผลงานเด่น เช่น การจัดตั้งธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และการแปรรูปการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
ตำแหน่งล่าสุด (อัปเดต 1 กรกฎาคม 2568)
- ดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร
- วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 รับคำร้องและสั่งให้ น.ส.แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับผู้นำต่างประเทศ
- นายสุริยะ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รักษาการนายกรัฐมนตรี โดยมีอำนาจเต็มในการบริหารงาน เสนอมติ ครม. และแต่งตั้งบุคลากร
บทบาทสำคัญในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี
นายสุริยะจะเป็นผู้นำรัฐบาลในช่วงเปลี่ยนผ่าน และทำหน้าที่สำคัญ อาทิ นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณในวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 รวมถึงมีอำนาจบริหารงบประมาณ แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ และกำหนดนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในช่วงที่นายกรัฐมนตรีตัวจริงหยุดปฏิบัติหน้าที่
สรุป
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นนักการเมืองอาวุโสที่มีบทบาทสำคัญในหลายยุครัฐบาล ปัจจุบันได้รับความไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นแกนหลักในการบริหารประเทศในช่วงวิกฤติการเมืองปี 2568 ด้วยประสบการณ์ทางการเมืองที่ยาวนานและครอบคลุมหลายด้าน