จับตาสนามเล็กพัทลุง แต่ศึกสามเส้าใหญ่หลวงนัก
สนามเลือกตั้งไม่ใหญ่มากของพัทลุง แค่ 3 เขตเลือกตั้ง แต่ถือเป็นจังหวัดยุทธศาสตร์ของหลายพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปัตย์เจ้าถิ่นเดิม ภูมิใจไทยผู้เข้ามาแทรกซึมยึดพื้นที่ หรือแม้แต่รวมไทยสร้างชาติที่เข้ามาในการเลือกตั้งครั้งแรกก็คว้าไป 1 ที่นั่ง
โดยภาพรวมถ้าดูจากโครงสร้างสนามการเมืองพัทลุงตอนนี้ 3 กลุ่มใหญ่ที่ว่ามีฐานเสียงและจุดแข็งต่างกัน แต่ก็มีพื้นที่ทับซ้อนกันพอสมควร ทำให้ศึกครั้งหน้ามีแนวโน้ม “ดุเดือดกว่าครั้งก่อน”
ประชาธิปัตย์ – สุพัชรี ธรรมเพชร เป็นสายตระกูล “ธรรมเพชร” ที่อยู่กับการเมืองพัทลุงมานาน ฐานเสียงชัดใน อ.กงหรา บางส่วนของ อ.ตะโหมด–เขาชัยสน มี “เสถียร ธรรมเพชร” เป็นหัวเรือใหญ่ ที่คุมฐานเสียงการเมืองท้องถิ่น
แม้ประชาธิปัตย์เสียที่นั่งไปหลายจังหวัดภาคใต้ แต่พัทลุงยังพอรักษาโครงสร้างท้องถิ่นและฐานญาติพี่น้องนักการเมืองท้องถิ่นไว้ได้ เลือกตั้งปี 66 ยังยึดไว้ได้ 2 เก้าอี้ “สุพัชรี ธรรมเพชร-หวาย-ร่มธรรม ขำนุรักษ์”
จุดท้าทายสำหรับประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นงานยากงานหินในสถานการณ์ขาลงคือการรักษาฐานเสียงเดิมในสภาพที่คนรุ่นใหม่อาจเริ่มมองหาตัวเลือกอื่นแทน
ภูมิใจไทย – ดร.นาที กับ พิพัฒน์ รัชกิจประการ หัวเรือใหญ่ของภูมิใจไทย ดร.นาที ถือว่าเป็น “แม่บ้านการเมือง” ของพัทลุงที่มีบารมีและเครือข่ายกว้าง ทั้งจากการเมืองระดับชาติและท้องถิ่น แต่การนำทีมเดินพลาดในคดีเสียบบัตรแทนกันและแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ติดคุกไป 9 เดือนเสียเครดิตไปพอสมควร ทีมอีก สส. ก็ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปหมด
พิพัฒน์ รัชกิจประการ (อดีตรมว.ท่องเที่ยวฯ และรัฐมนตรีแรงงาน) มีสายสัมพันธ์ธุรกิจ–การเมืองภาคใต้ โดยเฉพาะเชื่อมโยงกับพัทลุงทางงานท่องเที่ยวและโครงการพัฒนา
เมื่อครั้งภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลจะเน้นยุทธศาสตร์ “งบลงพื้นที่–โครงการรูปธรรม” ตามสโลแกน “พูดแล้วทำ” และดูดอดีตแกนนำท้องถิ่นที่เคยอยู่พรรคอื่นมาเสริมทัพให้แข็งแกร่งต่อเนื่อง พร้อมกระสุนดินดำที่สะสมมาจากธุรกิจน้ำมัน
การเดินสายจัดทัพ เสริมทีมจึงมีให้เห็นต่อเนื่องอย่างล่าสุดเพิ่งไปอวยพรวันเกิดย้อนหลังให้ “นิพนธ์ บุญญามณี” ก็เป็นฉากทัศน์ทางการเมือง “เนวิน ชิดชอบ” ก็บุกบ้านใหญ่เมืองตรัง “โกหน่อ-สมชาย โล่สถาพรพิพิธ” ก็เป็นบริบทเข้ามาเสริม ”พิพัฒน์-นาที“
รวมไทยสร้างชาติ – สายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร แม้ “ธรรมเพชร” เหมือนกับสุพัชรี แต่ถือเป็นสายการเมืองแยกขั้วกันแล้ว การใช้แบรนด์รวมไทยสร้างชาติของสายวิสุทธิ์ทำให้ได้แรงหนุนจากกระแสนายกฯประยุทธ์ในกลุ่มอนุรักษ์นิยมและข้าราชการเกษียณ
จุดแข็งของสายนี้คือความใกล้ชิดกับเครือข่ายราชการและผู้ใหญ่บ้าน–กำนันบางส่วนที่ยังนิยมรัฐบาลเดิม
แนวโน้มการสู้กันพื้นที่พัทลุงมีเขตเลือกตั้งเพียง 3 เขต แต่ทั้งสามกลุ่มนี้มีฐานเสียง “ซ้อน” กันในหลายอำเภอ และให้จับตาการเข้ามาสร้างฐานของพรรคกล้าธรรม ส่ง ”ปวิช พรหมทอง“ เด็กป่าพยอม ลุยพื้นที่ฝุ่นตลบแล้ว
ความดุเดือดจะเกิดในเขตที่ฐานเสียงประชาธิปัตย์ดั้งเดิมกับภูมิใจไทยชนกันตรงๆ โดยเฉพาะเขต 1 อ.เมืองเขาชัยสน เป็นเขตที่สายวิสุทธิ์บุกแย่งฐานตระกูลเดียวกันกับสุพัชรี จึงมีโอกาสสูงที่จะเห็น คะแนนแตก 3 ฝ่ายแบบสูสี ในบางเขต ซึ่งทำให้ชนะได้แม้มีคะแนนไม่ถึง 40% หากภูมิใจไทยดึงอดีตหัวคะแนนประชาธิปัตย์เพิ่มได้ อาจปิดเกมในบางเขตได้ตั้งแต่โค้งแรกๆ แต่ถ้าประชาธิปัตย์รักษาโครงสร้างองค์กรในพื้นที่ได้ก็ยังมีโอกาสกลับมาชนะได้ แต่สถานการณ์นี้ไม่ง่ายเลย เพียงแต่รวมไทยสร้างชาติขาดลุงตู่ก็อาจจะแผ่วไปบ้าง
ศึกนี้จะไม่ใช่แค่ “พรรคชนพรรค” แต่เป็น ตระกูลชนตระกูล – หัวคะแนนชนหัวคะแนน จึงน่าจะหนักตั้งแต่ก่อนประกาศเลือกตั้งอย่างน้อย 6 เดือน จากการเลือกตั้งปี 2566 ในจังหวัดพัทลุง เขตเลือกตั้ง พัทลุง 3 เขตและแนวโน้มการแข่งขัน
เขตเลือกตั้งที่ 1 เมืองพัทลุง – เขาชัยสน น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร (ประชาธิปัตย์) ชนะ น.ส.ภุชงค์ (ภูมิใจไทย) ทำให้ภูมิใจไทยต้องเปลี่ยนตัวสู้ กำลังทำงานในพื้นที่อยู่ ซึ่งเป็นคนเขาชัยสน
แนวโน้มเลือกตั้งครั้งหน้ายังเป็นการปะทะหลักระหว่างประชาธิปัตย์กับ ภูมิใจไทย โดยประชาธิปัตย์มีความได้เปรียบจากฐานเสียงท้องถิ่นและตระกูลธรรมเพชร
เขตเลือกตั้งที่ 2 ศรีนครินทร์ – ควนขนุน – ศรีบรรพต – ป่าพะยอม – กงหรา (ต.สมหวัง ชะรัด) นิติศักดิ์ ธรรมเพชร (รวมไทยสร้างชาติ) ชนะวรธ เทอดวีระพงศ์ (ภูมิใจไทย)
แนวโน้มครั้งหน้าการแข่งขันหลักอยู่ระหว่าง รวมไทยสร้างชาติ และภูมิใจไทย ซึ่งรวมไทยสร้างชาติเพิ่งก้าวขึ้นมาชนะในเขตนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่ให้จับตา ”ปวิช พรหมทอง“ จากพรรคกล้าธรรมว่า รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะให้ราคาแค่ไหน เพราะเขาสายตรงธรรมนัส แต่เป็นคนที่ ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว ไม่เอา
เขตเลือกตั้งที่ 3 กงหรา (ยกเว้น ต.สมหวัง ชะรัด) – ตะโหมด – บางแก้ว – ป่าบอน – ปากพะยูน สส.คนรุ่นใหม่ มีความรู้ความสามารถสูง ประสบการณ์ไกล “หวาย-ร่มธรรม ขำนุรักษ์” (ประชาธิปัตย์) ชนะ ประเทือง มนตรี (ภูมิใจไทย) โดยคะแนนชัดเจน 46,559 ต่อ 30,146 มนตรีเป็นสายตรง ดร.นาทีด้วย
เลข 3 แนวโน้มสนามหน้าเป็นศึกระหว่างประชาธิปัตย์ และ ภูมิใจไทย อีกครั้ง โดยประชาธิปัตย์ดูแข็งแกร่งในพื้นที่นี้จากฐานท้องถิ่นและตระกูลขำนุรักษ์ ที่ยังมี “นริศ ขำนุรักษ์” ผู้เป็นพ่อ ยังกุมหัวคะแนนอยู่ไม่น้อย
ประชาธิปัตย์ (สุพัชรี–ร่มธรรม) มีแนวโน้มคุมพื้นที่ในเขตที่มีฐานเสียงแน่น (เขต 1 และ 3)
รวมไทยสร้างชาติ (นิติศักดิ์) เป็นผู้เล่นใหม่ที่กำลังท้าทายภูมิใจไทยในเขต 2 และอาจกลายเป็นตัวแปรสำคัญในสนามหน้า
ภูมิใจไทย ต้องหาวิธีฟื้นฐานเสียงในทุกเขต ถ้าไม่รีบปรับยุทธศาสตร์ อาจพลาดที่นั่งอีก การเมืองวันนี้ยังไม่ใช่วันเลือกตั้งอะไรก็เปลี่ยนได้ ที่เดินอยู่ในพื้นที่อาจจะไม่ใช่ตัวจริงก็ได้ กับภาพสาโรจน์ สามารถ พาพิพัฒน์เข้าอวยพรวันเกิดอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็มีบริบททางการเมืองอยู่นะฃ
สู้กันแน่นอนครับ สนามนี้ตระกูลชนตระกูล-พรรคชนกันเดือดแน่! พัทลุง อดีตตำรวจก็เดินสายทุกงาน รอการประเมินผลอยู่
#นายหัวไทร
#การเมืองพัทลุง
#พรรคชนพรรค
#ตระกูลชนตระกูล