24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 18 สิงหาคม 2568
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 18 สิงหาคม 2568
>> ไฟไหม้โรงงานรีไซเคิล ย่านบางละมุง เสียหายวอดทั้งโกดังและรถยนต์ มูลค่ากว่า 3 ล้าน
09.00 น. รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ โรงงานรีไซเคิล ภายในซอยนาวัง 7 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง ลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำจากหลายเทศบาล ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงได้ เหลือเพียงกลุ่มควันหนาเต็มพื้นที่
ชายไทย อายุ 65 ปี เจ้าของโรงงานถึงกับร่ำไห้เมื่อเห็นทรัพย์สินถูกไฟเผาวอด ส่วนลูกชาย ระบุว่า ต้นเพลิงเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ประกายไฟตกใส่กองผ้า ก่อนลุกลามทั้งโรงงาน
ทรัพย์สินที่เสียหาย ได้แก่ รถกระบะ 5 คัน รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน โฟล์คลิฟท์ 1 คัน รวมถึงถังดับเพลิงเก่า ถังน้ำมัน และไม้พาเลท มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 3 ล้านบาท
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบภายในได้ เนื่องจากมีความร้อนสูง ต้องรอให้พื้นที่ปลอดภัยก่อนตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
>> ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ติดตามภารกิจทำลายระเบิดตกค้าง จ.สุรินทร์
11.04 น. พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมคณะ เดินทางไปยังจังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่กำลังพล ชุดเก็บกู้และทำลายระเบิดตกค้าง ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย โดยมีพันเอก สมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ให้การต้อนรับ ณ บ้านโนนมะยาง ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้รับฟังการบรรยายสรุปขั้นตอนการปฏิบัติ สังเกตการณ์การทำลายวัตถุระเบิดในพื้นที่ และตรวจเยี่ยมกำลังพล พร้อมพบปะประชาชนบ้านเกษตรสมบูรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากวัตถุระเบิด โดยได้เน้นย้ำให้ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ดำเนินภารกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความมั่นคง ลดภัยคุกคาม และคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนชายแดน
>> ตำรวจลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพิ่ม เหตุรถชนบนทางด่วน ย่านปากเกร็ด
12.00 น. ที่บริเวณจุดเก็บรักษารถของกลาง สภ.ปากเกร็ด ซอยพระแม่การุณย์ 35 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด พร้อมผู้ขับขี่รถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากการชนกันบนทางพิเศษ ลงตรวจสอบเก็บหลักฐานจากของกลางรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายทั้ง 11 คัน เพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้
ตรวจสอบภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันเกิดเหตุคันแรก ขณะขับมาถึงจุดเกิดเหตุ สามารถจับภาพได้ ขณะขับมาด้วยความเร็วในเลนขวา พบรถบีเอ็มดับบลิว สีน้ำเงิน ซึ่งขับอยู่ในเลนขวากำลังเบี่ยงซ้ายเพื่อเปลี่ยนเลนหลบรถเก๋งคันที่บันทึกภาพ จากนั้นได้มีการชนท้ายบีเอ็มดับบลิว
พบว่า เรื่องนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบปากคำผู้ขับขี่รถเก๋ง BMW ไปแล้ว 1 คัน ในส่วนที่เหลือจะทยอยเรียกมาให้ปากคำ ในส่วนเรื่องพยานหลักฐานได้ให้ทางชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ดำเนินการตรวจสอบกล้องตรวจจับความเร็วและวงจรปิดเพื่อใช้เป็นหลักฐานว่ารถแต่ละคันที่ขับมาในทางมีการใช้ความเร็วมากน้อยเพียงใด เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ และพฤติกรรมการขับขี่ของรถแต่ละขับมีลักษณะเป็นการแข่งขันกันหรือไม่ มาประกอบหลักฐานว่ามีรถคันใดเข้าข่ายกระทำผิด ซึ่งรถที่เกิดอุบัติเหตุที่ยึดไว้ตรวจสอบทั้งหมด 11 คัน ในส่วนนี้มีหลายคันที่รถมีลักษณะแต่งซิ่ง
โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบมีรถหลายคันที่เข้าข่ายการแข่งขันประลองความเร็วกันบนทาง โดยพบจุดเริ่มต้นที่มีการรวมตัวกันบริเวณปั้มน้ำมันใกล้ด่านประชาชื่น จากนั้นได้ขับออกมาตามกันมาเป็นกลุ่มบนทางพิเศษศรีรัช-อุดรรัถยา มุ่งหน้าบางปะอิน กระทั่งมาเฉี่ยวชนกันตรงจุดเกิดเหตุ ในส่วนนี้ทางตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และทยอยสอบปากคำผู้ขับขี่ทั้งหมด เพื่อหาความชัดเจน ในการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
>> เพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ ซอยกาญจนาภิเษก 8 เจ้าหน้าที่และรถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
14.20 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ภายในหมู่บ้านเศรษฐีวิลล์ ซอยกาญจนาภิเษก 008 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ประกอบกิจการทำแบบพลาสติก และพักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 3 ภายในห้องนอน เพลิงลุกไหม้พัดลมตั้งพื้น ลุกลามตู้เย็น เพดาน และฝาผนัง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 6 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่พัดลมตั้งพื้น ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางแค
>> ฝนตกลมแรง ต้นไม้ล้มทับคน มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
15.49 น. ได้รับแจ้งจาก ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 เพชรบุรี มีเหตุต้นไม้ล้มทับคนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณแยกไฟแดงตลาดนัดวัดวังบัว ในพื้นที่ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี
ที่เกิดเหตุ พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 3 ราย สาหัส 2 ราย อายุประมาณ 50-60 ปี บ้านลาดนำส่ง รพ.บ้านลาด 2 ราย และทางอาสากู้ภัยสว่างสรรเพชญนำส่ง รพ.พระจอมเกล้า 1 ราย
เบื้องต้น ต้นไม้ล้มขณะผู้บาดเจ็บเดินเลือกซื้อของอยู่ นอกจากนี้แล้วยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2-3 ราย อาการค่อนข้างที่จะหนัก ร้อยเวร สภ.บ้านลาด จะดำเนินการตรวจสอบที่เกิดเหตุต่อไป
>> ทหารพราน 2105 ตรวจยึดสาร "เมทแอมเฟตามีน" คาด่านมิตรภาพไทย–ลาว
16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย.ฉก.ทพ.2109 จัดกำลังพลร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประจำด่านความมั่นคงมิตรภาพไทย–ลาว สามารถตรวจยึดยาเสพติดสารเมทแอมเฟตามีน 7,982 กรัม
โดยการตรวจยึดในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังมีการร่วมกันตรวจค้นสัมภาระรถยนต์ ที่ผ่านเข้า - ออก ด่านพรมแดน จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นด่านความมั่นคงมิตรภาพไทย-ลาว เจ้าหน้าที่พบกล่องต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ภายในยานพาหนะ ขาเข้า เมื่อเปิดดูภายในกล่องพบเป็นผงสีส้มแดง บรรจุในถุงพลาสติก จำนวน 5 ถุง
ผลการตรวจสอบพบว่ามีสาร "เมทแอมเฟตามีน" ผสมอยู่ในผงดังกล่าว ปริมาณรวมทั้งสิ้น 7,982 กรัม ชุดปฏิบัติการร่วมจึงนำของกลางทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> รัฐบาลโต้ข่าวลือ รื้อรั้วลวดหนาม ย้ำไม่มีวันรื้อมีแต่จะสร้างเพิ่ม ในเขตอธิปไตยของไทย
16.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา (ศบ.ทก.) ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวที่อ้างว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี จะให้มีการรื้อลวดหนามตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา หลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) นั้น เป็น “ข่าวปลอม” ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด ไม่มีความคิดจะรื้อ มีแต่ทยอยวางเพิ่มในเขตอธิปไตยของไทยอย่างต่อเนื่อง
ท้้งนี้ ข่าวดังกล่าวถูกปล่อยโดยบางเพจที่จงใจปั่นกระแส เพื่อเรียกยอดไลก์และยอดผู้ติดตาม ผ่านการบิดเบือนและสร้างเรื่องราวเท็จ อ้างว่ารัฐบาลจะเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ สมช.และมีการเสนอยกเลิกรั้วลวดหนามบริเวณชายแดนทั้งหมด ซึ่ง "ไม่เป็นความจริง" เนื่องจากสถานการณ์ชายแดนยังคงยึดตามข้อตกลงหยุดยิงหลังเที่ยงคืน28 กรกฎาคม คือ “อยู่ตรงไหน ให้อยู่ตรงนั้น” และไทยยังคงต้องรักษา อธิปไตยของไทย การล้อมรั้วลวดหนามจึงเป็นมาตรการที่จำเป็นต่อการยืนยันสิทธิ์ในเขตแดน พร้อมย้ำว่ารัฐบาลไทยจะไม่หวั่นไหวต่อการปลุกปั่นหรือการกดดันจากฝ่ายใด และขอยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลจะไม่มีการรื้อรั้วลวดหนามในทุกเขตแดนที่วางไว้ตลอด7จังหวัดมีแต่ทำเพิ่ม
>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถตู้ มีผู้บาดเจ็บสาหัส จนท.เร่งทำ CPR แต่ไม่เป็นผล
17.20 น. มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ (ขุนรัตนาวุธ) จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถตู้ชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนภายในหมู่บ้าน บริเวณใกล้เคียงวัดหนองจอก ม.4 ต.รางหวาย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีเขียว-เทา ลักษณะชนกับรถตู้ โตโยต้า คอมมิวเตอร์ สีขาว ใกล้กันพบร่างของผู้บาดเจ็บ เป็นผู้หญิง 2 ราย โดย 1 รายทางญาติได้ดำเนินการนำส่งโรงพยาบาลเอง ส่วนอีก 1 รายนั้นมีอาการสาหัส ทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพ - กู้ภัยเร่งช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 18 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมทวน
>> สมเด็จพระสังฆราชเสด็จไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช
17.28 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เรื่อง สมเด็จพระสังฆราชเสด็จไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช
ด้วย เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงล้มขณะทรงพระดำเนินในตำหนักอรุณ เมื่อวันอาทิตย์ ที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๘
คณะแพทย์ผู้รักษาได้กราบทูลอาราธนาให้เสด็จไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อตรวจพระอาการโดยละเอียดแล้ว ผลปรากฏว่า มีพระโศผะ (บวม) ภายนอกเพียงเล็กน้อยที่พระเศียร ไม่มีพระอาการอันเป็นที่น่าวิตกแต่ประการใด พระอนามัยโดยรวมเป็นปกติ และขอประทานอาราธนาให้ประทับแรม ณ โรงพยาบาลศิริราช โดยมีกำหนดเสด็จกลับวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในวันอังคาร ที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๘
อนึ่ง ได้นำความกราบทูลทราบฝ่าพระบาทแล้ว เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช มีรับสั่งทรงอนุโมทนาในความห่วงใยที่สาธุชนมีต่อพระองค์ และโปรดประทานพรสนองไมตรีจิตมา ณ โอกาสนี้
>> รถจักรยานยนต์เสียหลักชนเสาไฟข้างทาง ริมถนนสายมโนรมย์-หนองโพ และมีผู้เสียชีวิต จ.ชัยนาท
20.21 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู จ.ชัยนาท มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนเส้นทาง มโนรมย์-หนองโพ ในพื้นที่ ม.2 ต.หางน้ำสาคร อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ ป้ายทะเบียน อุดรธานี ลักษณะชนกับเสาไฟข้างทาง ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 27 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มโนรมย์
>> รถกระบะพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
21.30 น. รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำ และมีผู้เสียชีวิต บนถนน ทล.4009 เส้นทางน้ำขุ่น - หนองเจ็กสร้อย ในพื้นที่ อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า ป้ายทะเบียน จันทบุรี ลักษณะพลิกคว่ำ สภาพรถพังเสียหาย ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต ชาย 2 ราย ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งหางแมว
>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ หนุ่มวัย 33 ปีเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือปั๊มหัวใจแต่ไม่เป็นผล จ.สมุทรปราการ
22.53 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บนถนน ทล.1006 บริเวณใกล้เคียงคลองลาดหวาย ต.บางเพรียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ ยามาฮ๋า สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน กทม. ใกล้กันพบร่างของผู้บาดเจ็บ 1 รายมีอาการสาหัส ทางอาสาสมัครเร่งช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 33 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองด่าน
>> แผ่นดินไหว ประเทศเมียนมา
23.28 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.0 ความลึก 2 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 72 กม. ไม่มีรายงาoผลกระทบต่อประเทศไทย
>> แผ่นดินไหว ที่เมืองแม่ฮ่องสอน
04.20 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 1.8 ความลึก 1 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน ไม่มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน