‘ชาวบ้านเขากระโดง’ ถือโฉนดที่ดินได้มาถูกต้อง ลั่น ‘ไม่หนี-ไม่ย้าย-ไม่ออก’
เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 68 ชาวบ้านในพื้นที่ ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ นัดรวมตัวกันที่โรงเรียนบ้านเขากระโดง (ศิลาทองอุปถัมภ์) เพื่อแสดงออกถึงการคัดค้านการเพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดงกว่า 5,083 ไร่ 995 ครอบครัว ที่ได้รับผลกระทบ ภายหลังกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งเพิกถอนพื้นที่ดังกล่าว
ทั้งนี้ มีชาวบ้านนำโฉนดที่ออกโดยกรมที่ดิน มาแสดงต่อสื่อมวลชน เพื่อยืนยันว่า ที่ดินดังกล่าวได้มาโดยชอบตามกฎหมาย ซึ่งนายจันทร์ ฮาเจริญกุล ชาวบ้านในพื้นที่ อายุ 64 ปี เปิดเผยว่า ตนเองถือครองโฉนดที่ดินตั้งแต่ปี 2513 ซึ่งได้เอกสารสิทธิมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเมื่อได้ยินข่าวการเพิกถอนโฉนดที่ดินก็รู้สึกเสียใจ และอยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา และถามว่าจะเพิกถอนได้อย่างไร ในเมื่อโฉนดที่ดินดังกล่าวก็ออกโดยกรมที่ดิน พร้อมยอมรับว่า ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมาก หากรื้อถอนชาวบ้านจะไปอยู่ที่ไหน เพราะอยู่ที่นี่มานานแล้ว
ส่วนที่มีการเพิกถอนที่ดินนั้น มีเจ้าหน้าที่มาติดต่อพูดคุยบ้างหรือไม่ นายจันทร์ กล่าวว่า ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาติดต่อเลย เราก็ติดตามข่าวอยู่ และเห็นมีแต่ให้เพิกถอนโฉนดที่ดินเพียงอย่างเดียว เราก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ซึ่งหากจะเยียวยา รัฐบาลจะมีปัญญาเยียวยาให้ชาวบ้านหรือไม่ เพราะมี 900 กว่าครัวเรือน
นายจันทร์ กล่าวยืนยันว่า จะไม่ยินยอมให้เพิกถอนที่ดิน หรือให้เช่าพื้นที่กับ รฟท. เพราะเราอยู่มาก่อน ซึ่งเราจะไม่หนี ไม่ย้าย ไม่ออก หากเขามาขับไล่เราก็จะสู้ อีกทั้งมองว่า ควรจะไปแก้ไขปัญหาประชาชนหรือความขัดแย้งชายแดนให้จบก่อน
ขณะที่ น.ส.ขนิษฐา คล้ายขำ อายุ 45 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ตั้งคำถามว่า หากเพิกถอน รัฐบาลจะมีที่รองรับหรือไม่ และอยากทราบว่าเหตุใดไม่เพิกถอนตั้งแต่พื้นที่นี้ยังไม่พัฒนา แต่เมื่อชาวบ้านมีการพัฒนามีที่อยู่ที่ทำกินถึงเพิ่งจะมาเอาที่ดินในตอนนี้ จึงอยากรู้ว่ารัฐบาลต้องการอะไร และจะไม่ย้ายไปไหน แม้มีสถานที่ให้ ก็ให้รัฐบาลไปอยู่เอง ซึ่งอยากให้รัฐบาลกลับไปทบทวนเรื่องนี้ให้ดี โดยมองว่า เป็นเรื่องของเกมการเมืองที่กลั่นแกล้งกัน เพราะก่อนหน้านี้เรื่องก็เงียบไป แต่เมื่อพรรคภูมิใจไทยถอนตัวร่วมรัฐบาลเรื่องนี้ก็กลับมาอีก
ด้าน น.ส.ประทุม อุดมรัตน์ อายุ 63 ปี บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเชื่อมั่นว่านายเนวิน ชิดชอบ จะสามารถช่วยเหลือชาวบ้านได้จากเรื่องปัญหาที่ดินเขากระโดง ซึ่งก็ติดตามเห็นว่านายเนวินก็เป็นห่วงประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด และเป็นคนที่พัฒนาบุรีรัมย์มาโดยตลอด จากที่แต่ก่อนเป็นพื้นที่ไม่มีอะไรเลย แต่เมื่อในปี 55 สนามบอลสร้างเสร็จก็มีปัญหาทันที ทั้งๆ ที่แต่ก่อนก็ไม่มีปัญหา และเชื่อมั่นว่าจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน.