ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน การกิน “น้ำมะพร้าว” ดีต่อลำไส้จริงหรือ?

“น้ำมะพร้าว” ดีต่อลำไส้จริงไหม? บอกประโยชน์ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

น้ำมะพร้าวกลายเป็นเครื่องดื่มสุขภาพที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะทั้งสดชื่น มีรสหวานธรรมชาติ และยังเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ จนถูกยกให้เป็น “ซูเปอร์ดริงก์” จากธรรมชาติ

คุณค่าทางโภชนาการ

น้ำมะพร้าวได้จากลูกมะพร้าวอ่อนอายุราว 6–7 เดือน มีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 94% และไขมันเพียงเล็กน้อย ในน้ำมะพร้าว 240 มิลลิลิตร ประกอบด้วย:

- คาร์โบไฮเดรต 15 กรัม

- น้ำตาล 8 กรัม

- แคลเซียม 4% ของความต้องการต่อวัน

- แมกนีเซียม 4%

- ฟอสฟอรัส 2%

- โพแทสเซียม 15%

- พลังงานประมาณ 60 แคลอรี

น้ำมะพร้าวกับสุขภาพลำไส้

ดร. Saurabh Sethi แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทางเดินอาหารจากสหรัฐฯ ยืนยันว่า น้ำมะพร้าวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น กระตุ้นการทำงานของลำไส้ และเกลือแร่สำคัญ เช่น โพแทสเซียมและแมกนีเซียม มีบทบาทในการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อเรียบในลำไส้ จึงช่วยบรรเทาอาการท้องผูกเล็กน้อย รวมทั้งช่วยลดความระคายเคืองในผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อนระดับอ่อน ๆ ได้ด้วย

ความเชื่อเรื่องลดน้ำหนัก?

แม้น้ำมะพร้าวจะเป็นที่นิยมในกลุ่มคนคุมน้ำหนัก แต่ ดร. Sethi ระบุว่า ไม่ใช่ “สูตรลับ” สำหรับการลดน้ำหนัก เพียงแต่เป็นเครื่องดื่มแคลอรีต่ำเมื่อเทียบกับน้ำอัดลมและเครื่องดื่มหวานอื่น ๆ จึงเหมาะกับผู้ที่อยากเลือกดื่มเพื่อสุขภาพมากกว่า

ประโยชน์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

- สำหรับผู้มีความดันโลหิตสูง น้ำมะพร้าวอาจช่วยได้ เพราะมีโพแทสเซียมสูง

- งานวิจัยขนาดเล็กบางชิ้นบ่งชี้ว่า อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไต

- เป็นเครื่องดื่มที่ดีสำหรับนักกีฬาและผู้เสียเหงื่อมาก เพราะมีโพแทสเซียมสูงกว่าเครื่องดื่มเกลือแร่ และน้ำตาลน้อยกว่า

ข้อควรระวังและปริมาณที่เหมาะสม

แม้น้ำมะพร้าวจะดีต่อสุขภาพ แต่ควรดื่มอย่างพอเหมาะ ปริมาณที่แนะนำคือ 1 ถ้วย (240 มล.) ต่อวัน หรือประมาณ 45–60 แคลอรี ซึ่งปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่สุขภาพดีทั่วไป หากมีโรคประจำตัว เช่น ไต หัวใจ หรือเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

สรุป

น้ำมะพร้าวไม่ใช่เครื่องดื่มวิเศษที่รักษาโรคได้ แต่เป็น แหล่งเกลือแร่และความชุ่มชื้นที่ดีต่อร่างกาย โดยเฉพาะการเสริมการทำงานของลำไส้และการขับถ่าย ใครที่อยากสดชื่นและได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ “น้ำมะพร้าว” ถือเป็นทางเลือกธรรมชาติที่ไม่ควรมองข้าม

แหล่งที่มาอ้างอิง

1.Sanook Health – น้ำมะพร้าว ดีต่อลำไส้จริงไหม

2.Harvard Health Publishing – Coconut water: Is it good for you?

3.Sethi, Saurabh, MD – Gastroenterology Specialist (USA)