บี้กกต.ฟัน‘แม้ว-ทอน’ครอบงำ
"ศรีสุวรรณ" ชง กกต.สอบ "พรรคเพื่อไทย-ประชาชน" หลัง "ธนาธร" ยอมรับคุยกับ "ทักษิณ" ดีลโหวตหนุนนายกฯ จากเพื่อไทยตั้งรัฐบาล ชี้ขัดกฎหมายพรรคการเมืองยอมให้ครอบงำ "สนธิญา" ยื่น กกต.ติดตามดำเนินการปม "ทักษิณ-ธนาธร" ขอ ปชน.ช่วย พท.โหวตนายกฯ เสี่ยงถูกยุบพรรค ซัดเงื่อนไขแก้ รธน.หมวด 1-2 และ ม.112 ของพรรคส้ม ไม่สนปัญหาชายแดน-เศรษฐกิจ หวั่นลากยาวมี รบ.ใหม่เกิดสงครามชายแดน ทหารต้องปฏิวัติ
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วันที่ 1 กันยายน นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เดินทางมายื่นคำร้องต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองและคณะกรรมการการเลือกตั้ง เนื่องจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ออกมายอมรับเองว่าได้เจรจาพูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ร่วมโหวตเลือกนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทย (พท.) กับพรรคประชาชน (ปชน.) เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 28-29 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 หรือไม่ เพราะบุคคลทั้งสองไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด
"เนื่องจากนายธนาธรถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พ้นจากหัวหน้าพรรค และยุบพรรคอนาคตใหม่เมื่อ 21 ก.พ. 2553 สั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและห้ามมิให้ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่อีก ภายในกำหนด 10 ปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรค ส่วนนายทักษิณ ชินวัตรนั้น ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาในข้อหาทุจริต หรือใช้อำนาจขัดต่อกฎหมายรวมแล้วหลายคดี ต้องห้ามตามกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 24(2) และข้อบังคับพรรคเพื่อไทย"
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า การที่บุคคลทั้งสองเป็นผู้ซึ่งมิได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ไม่ว่าจะเป็น ปชน.หรือพท. แต่กลับดำเนินการพูดคุยเจรจากัน เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ หรือมีพรรคประชาชนเข้าร่วมสนับสนุนด้วย เป็นการกระทำเข้าข่ายฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 28 และ/หรือมาตรา 29 อันเป็นการกระทำการอันใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมือง ในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความเป็นอิสระ ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำความมาชี้เบาะแสให้นายทะเบียนพรรคการเมืองและ กกต.ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ในการไต่สวนสอบสวนและเสนอศาลลงโทษตามบทบัญญัติของกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ได้ยื่นหนังสือต่อ กกต.เพื่อขอให้ติดตาม ตรวจสอบ ดำเนินการ ดำเนินคดีกับพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน ที่ยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคและเป็นนักโทษ รวมถึงเป็นผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ชี้นำครอบงำการจัดตั้งรัฐบาล เข้าข่ายขัดมาตรา 28 และ 29 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 และเป็นเหตุให้สามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคตามมาตรา 92 (3) ของกฎหมายเดียวกันได้
นายสนธิญากล่าวว่า การที่นายทักษิณและนายธนาธร ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ใช่เป็นพรรคการเมือง รวมถึงถูกตัดสิทธิทางการเมือง นัดพูดคุยเจรจาเพื่อให้ ปชน.เข้าร่วมรัฐบาล และสนับสนุนนายกฯ ที่มาจาก พท. ซึ่งคนทั้งประเทศทราบดีว่าทั้งสองคนเป็นบุคคลที่ชี้เป็นชี้ตายของ พท.และปชน. จึงเข้าข่ายพรรคการเมืองยอมให้บุคคลซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคชี้นำครอบงำการดำเนินกิจการของพรรค ผิดพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เป็นเหตุให้ถูกยุบพรรค ถ้ามีการตัดสินใจเช่นนี้จริงในสัปดาห์หน้า ตนก็จะมายื่นต่อ กกต.เพื่อให้พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบทั้ง 2 พรรคการเมือง แต่ถ้าหาก ปชน.ไม่อยากมีความผิด ต้องไปตอบรับข้อเสนอในการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เลย เนื่องจาก ภท.ได้ส่งหัวหน้าพรรคซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเข้ามาติดต่อพูดคุย
นอกจากนี้ นายสนธิญายังเห็นว่า 3 เงื่อนไขที่ ปชน.ได้เสนอเพื่อจะร่วมโหวตนายกฯ ให้กับฝ่ายใดนั้น โดยมีเงื่อนไขของการจัดทำประชามติและแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แล้วให้มีการยุบสภาภายใน 4 เดือนนับตั้งแต่รัฐบาลใหม่ แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น ปชน.มีเจตนาที่จะแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยใช่หรือไม่ รวมทั้งการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ตนได้ยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ดำเนินการกับ 44 สส.ของอดีตพรรคก้าวไกล ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัย ว่าการให้เสนอแก้ไขกฎหมายดังกล่าวในสภาเข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครอง ซึ่ง ปชน.มีเจตนาที่จะต้องการให้มีการนิรโทษกรรมบุคคลที่กระทำผิดเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ด้วยใช่หรือไม่
"วันนี้กัมพูชาส่งทหาร 20,000 คนไปประชิดชายแดน รวมถึงนำอาวุธยุทโธปกรณ์มาเตรียมไว้ครบ พร้อมที่จะเปิดฉากรบกับไทย ทำไม ปชน.จึงไม่มองสถานการณ์ตรงนี้ แต่กลับไปเสนอเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถามว่ามันเร่งด่วนมากกว่าปัญหาชายแดนหรือไม่ รวมถึงทำไมไม่เสนอเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องภาษีทรัมป์ เพราะวันนี้เศรษฐกิจบ้านเมืองมีปัญหา จึงเป็นการเสนอที่ไม่ใช่ทางออกของประเทศ แต่เพื่อให้ตัวเองได้รับผลประโยชน์และนำไปสู่การเลือกตั้ง แต่ประชาชนกลับไม่ได้อะไรในเรื่องนี้ เป็นการเล่นเกมเพื่อประโยชน์ของตัวเองมากกว่าประโยชน์ของประเทศ แล้วทำร้ายประเทศชาติ คิดว่าทั้งนายทักษิณและนายธนาธรคงชินชากับการยุบพรรคไปแล้ว เพราะทั้งสองคนเคยถูกยุบพรรคทั้ง 2 ครั้งมาแล้ว" นายสนธิญากล่าว
นายสนธิญากล่าวด้วยว่า การทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องผ่าน สส.ถึง 3 วาระ และผ่านวุฒิสภา ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30-45 วัน หลังจากนั้นก็ประกาศใช้ ก็จะยุบสภา กว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลไม่ต่ำกว่า 3-4 เดือน เมื่อรวมประเด็นให้มีการยุบสภาภายใน 4 เดือน ขอถามว่าไม่ว่า พท.-ภท.จะต้องใช้เวลาต่อจากนี้จนถึงกลางปีหน้า ประมาณ 6-10 เดือนกว่าจะได้รัฐบาลใหม่ หรืออาจไม่ได้รัฐบาลชุดใหม่
"ถามว่าถ้าในช่วงนั้นมีปัญหาขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและประเทศไทย มีการยิงกัน มีการสงครามกัน จะให้ทหารเป็นผู้ควบคุมใช่ไหม ถ้าเป็นอย่างนั้นต้องให้ทหารปฏิวัติยึดอำนาจ แล้วจัดการระบบใหม่ เพราะผมยืนยันว่าจะไม่ได้รัฐบาลจนถึงกลางปีหน้า ตามไทม์ไลน์ที่ผมพูดมาข้างต้น ถ้าสมมุติเลือกตั้งแล้วได้บุคคลเดิมๆ พรรคการเมืองเดิม แล้วมาทำแบบเดิม ประชาชนจะยอมรับไหม วิธีการที่ดีที่สุดขณะนี้คือยุบสภาเลือกตั้งใหม่" นายสนธิญากล่าว.