วันแม่ ต้องเซฟแม่ เปิด 3 เรื่องที่ลูกควรเตือน ไม่ให้แม่หลงกลมิจฉาชีพ
วันแม่ ปีนี้ ชวนลูกๆ ช่วยกันปกป้องคุณแม่จากเหล่ามิจฉาชีพ โดยเตือนคุณแม่ 3 เรื่องที่มิจฉาชีพมักใช้หลอก เพื่อไม่ให้คุณแม่ตกเป็นเหยื่อ
- ไม่หลงเชื่อง่ายเกินไป เพราะมิจฉาชีพมักใช้มุกหลอกว่าได้รางวัลใหญ่ หลอกให้ตกใจ หรือขู่ให้กลัว
- ไม่มองโลกในแง่ดีเกินไป เพราะมิจฉาชีพมักใช้มุกหลอกลงทุนโดยให้ผลตอบแทนสูง
- ไม่ให้คนอื่นให้แอปฯ ธนาคาร (Mobile Banking) โดยลูกหลานต้องคอยเป็นหูเป็นตาให้
สำหรับคุณแม่เอง หากไม่ได้อยู่บ้านกับลูกๆ สามารถรับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ง่ายๆ ถ้าไม่มั่นใจขอเบอร์โทรไว้หรือตัดสาย แล้วให้ลูกหลานโทรกลับ หรือสามารถตรวจสอบหรือสอบถามให้แน่ใจได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน โทร 1213
นอกจาก 3 มุกที่มิจฉาชีพมักใช้แล้ว ยังมีภัยออนไลน์อีกหลายรูปแบบที่มิจฉาชีพใช้หลอกวัยเกษียณ เพราะปัจจุบันมิจฉาชีพมักมุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มผู้สูงอายุ เนื่องจากเป็นวัยที่มีทรัพย์สินและเงินออมจำนวนมาก ทั้งยังขาดการป้องกันตนเอง และขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี ซึ่งรูปแบบภัยออนไลน์ที่มิจฉาชีพใช้ในหลอกลวง เช่น
- การหลอกลวงซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยหลอกให้ซื้อขายสินค้าแต่ไม่มีเจตนาที่จะส่งสินค้าให้จริง
- การหลอกให้รัก โดยหลอกเข้ามาตีสนิท สร้างความสัมพันธ์ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อหวังเอาทรัพย์สิน
- การหลอกขายยาและอาหารเสริม โดยหลอกขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือยา อ้างว่าสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ ซึ่งอาจไม่ได้ผลจริงและเป็นอันตราย
- การหลอกขายประกันสุขภาพ โดยอ้างว่าเป็นตัวแทนจากบริษัทประกันสุขภาพ เพื่อขอข้อมูลส่วนตัวหรือขายประกันที่ไม่เป็นความจริง
- การหลอกรับสวัสดิการผู้สูงอายุ โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการที่ดูแลเรื่องบำนาญหรือสวัสดิการผู้สูงอายุ และขอข้อมูลส่วนตัวหรือขอให้โอนเงินเพื่อดำเนินการ
ดังนั้น คุณแม่หรือผู้สูงอายุจึงควรระวังไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ขณะที่ลูกหลานคอยสอดส่องดูแลผู้สูงอายุหรือบุคคลในครอบครัวเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกมิจฉาชีพหลอก
ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย, กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์