ด่วน! ศาล รธน.นัดชี้ชะตา “นายกฯ อิ๊งค์” ปมคลิปเสียงฮุน เซน 29 ส.ค.นี้
วันที่ 13 ส.ค. 68 ศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมปรึกษาคดีที่ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่
กรณีคลิปเสียงสมาชิกวุฒิสภา รวม 36 คน เข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา ระบุว่า คลิปเสียงการสนทนาระหว่าง นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธาน วุฒิสภาแห่งกัมพูชา เผยแพร่ทางสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.68 ซึ่งนายกฯแถลงข่าวยอมรับว่า เป็นเสียงการสนทนาจริง แม้นายกฯจะแถลงข่าว่าเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์แบบส่วนตัว โดยมีเจตนาที่จะเจรจาต่อรองอย่างนุ่มนวลเพื่อรักษาไว้ ซึ่งความสงบสุขและอธิปไตยของไทยก็ตาม
แต่ผู้ร้อง (สว.36คน) เห็นว่า นายกฯ แสดงออกถึงความนิ่งเฉยและไม่ปฏิบัติหน้าที่โต้ตอบหรือกำหนดมาตรการ รวมถึงการเจรจาระหว่างประเทศด้วยตนเองให้เป็นที่ประจักษ์ตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่บุคคลผู้อยู่ในสภาวะวิสัย และพฤติการณ์แห่งความเป็นนายกรัฐมนตรีพึงกระทำ เพราะเหตุแห่งความสัมพันธ์ส่วนตัวในลักษณะ เป็นฝั่งเดียวกันกับกัมพูชา พร้อมที่จะทำหรือจัดการตามที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการมาโดยตลอด
ส่วนแม่ทัพภาคที่ 2 นายกฯ เห็นว่าเป็นฝ่ายตรงกันข้าม นายกฯไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม มาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนจนกว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา กำหนดนัดไต่สวนพยานบุคคลจำนวน 2 ปาก คือ นายกฯ ผู้ถูกร้องและเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในวันที่ 21 ส.ค. 68 เวลา 10.30 น. พยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียก หากไม่มาตามกำหนดนัดถือว่า ไม่ติดใจเป็นพยานบุคคล และให้ผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องที่ประสงค์จะแถลงการณ์ปิดคดี ให้ยื่นเป็นหนังสือต่อศาลภายในวันที่ 27 ส.ค. 68 หากไม่ยื่นภายในกำหนดถือว่าไม่ติดใจยื่น
โดยศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ในวันที่ 29 ส.ค.นี้ เวลา 09.30 น. จากนั้นศาลจะนัดฟังคำวินิจฉัย ในเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3
ทั้งนี้ ศาลจะอนุญาตให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนและฟังคำวินิจฉัยเป็นรายบุคคล