“เมฆินทร์ เพ็ชรพลาย”เข้าวินจ่อนั่งเก้าอี้ ซีอีโอ”บวท.” รอบอร์ดอนุมัติรับภารกิจ Aviation Hub
ผลสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่บวท.คนใหม่เผย“เมฆินทร์เพ็ชรพลาย”คะแนนสูงสุดจ่อนั่งเก้าอี้หลังแสดงวิสัยทัศน์รอขั้นตอนเสนอบอร์ดอนุมัติ
รายงานข่าวแจ้งว่าจากที่บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทยจำกัด(บวท.)ได้เปิดสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บวท.คนใหม่แทนนายณพศิษฏ์จักรพิทักษ์ที่ครบวาระไปเมื่อวันที่30มีนาคม2568โดยให้ยื่นสมัครได้ตั้งแต่วันที่19กุมภาพันธ์ถึงวันที่7มีนาคม2568ซึ่งมีผู้ยื่นสมัคร3ราย โดยคณะกรรมการสรรหาฯซึ่งมีนายดนัยเรืองสอนเป็นประธานฯได้พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นที่มีสิทธิเข้ารับการสัมภาษณ์และนำเสนอวิสัยทัศน์จำนวนทั้งสิ้น2คนประกอบด้วย
1.นายเมฆินทร์เพ็ชรพลายอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทวอยซ์ทีวีจำกัด
2.นายมนตรีสุคนธมานรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บวท.
โดยให้ผู้มีรายชื่อดังกล่าวเข้ารับการสัมภาษณ์และนำเสนอวิสัยทัศน์ในวันที่1สิงหาคม2568ที่ผ่านมาปรากฎว่านายเมฆินทร์เพ็ชรพลายเป็นผู้ได้รับคะแนนสูงสุดโดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเสนอคณะกรรมการ(บอร์ด)บวท.อนุมัติผลสรรหาฯ
สำหรับนายเมฆินทร์เพ็ชรพลายเคยเป็นอดีตผู้บริหารบริษัทไทยคมฯก่อนจะก้าวมาเป็นผู้อำนวยการใหญ่ทอท.ช่วงปลาย2556-2557ซึ่งเป็นช่วงปลายของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีและมีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)โดยได้ลาออกจากทอท.วันที่16ก.ย.2557ท่ามกลางกระแสมีใบสั่งทางการเมืองแล้วจึงไปเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทวอยซ์ทีวีจำกัด
ก่อนหน้านี้นายเมฆินทร์เคยลงสมัครสรรหาผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)แต่ได้มีการถอนตัวกลางครันว่ากันว่ามีการผิดคิวภายในของพรรคเพื่อไทยโดยผลคือนายวีริศอัมระปาลได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ว่าฯรฟท.แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่านายเมฆินทร์ยังคงได้รับการสนับสนุนจากคนในตระกูลชินวัตรและยังถือเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการบริหารองค์กรเนื่องจากเคยผ่านการบริหารทอท.มาแล้ว
สำหรับการดำเนินการสรรหาฯผู้อำนวยการใหญ่บวท.นั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การบริหารงานของวิทยุการบินฯมีประสิทธิภาพที่ดีอย่างต่อเนื่องและภารกิจสำคัญคือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเดินอากาศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการการจราจรทางอากาศมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการบิน(Aviation Hub)
การสรรหาฯเป็นไปตามข้อกำหนดว่าด้วยการสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่โดยมีรายละเอียดคุณสมบัติของผู้สมัครเบื้องต้นจะต้องเป็นผู้ที่มีอายุไม่เกิน58ปีบริบูรณ์มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดในมาตรา8ตรีแห่งพ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจพ.ศ. 2518และที่แก้ไขเพิ่มเติมรวมทั้งมีความรอบรู้ความชำนาญและประสบการณ์ในการบริหารองค์กรดังนี้
-ในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารองค์กรภาคเอกชนต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานนั้นและต้องมีความรอบรู้และประสบการณ์ในการบริหารองค์กรรายได้ไม่น้อยกว่า5,000ล้านบาทต่อปีหรือสินทรัพย์ขององค์กรไม่น้อยกว่า10,000ล้านบาทในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง
-ในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารส่วนราชการต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอธิบดีรองเจ้ากรมหรือรองหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่ารองอธิบดี
-ในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารรัฐวิสาหกิจต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจนั้นซึ่งในการดำรงตำแหน่งดังกล่าวข้างต้นจะต้องมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งและปฏิบัติงานในตำแหน่งนั้นมาแล้วไม่น้อยกว่า1ปีนับถึงวันที่ยื่นใบสมัครหรือวันที่พ้นจากตำแหน่ง
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO