'แม่ทัพภาคที่2' แสดงความเสียใจ 'พลทหารพิทยุตม์' เสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลทหารพิทยุตม์ โสดา หรือ น้อย หรือ ที่ชาวโซเชียลรู้จักกันในชื่อ น้องยักษ์ สังกัด ร.23 พัน 4 ประจำการอยู่ที่ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพลทหารที่เคยปรากฏเป็นข่าวโต้เถียงกับหญิงชาวกัมพูชาที่ชื่อโมนิก้า ที่ปราสาทตาเมือนธมก่อนเหตุการณ์การสู้รบไม่นานนักได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (23 ส.ค.68) ภายในห้องน้ำบริเวณฐานปฏิบัติการปราสาทตาเมือนธม ด้วยอาการวูบจากโรคประจำตัว
โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว ของพลทหารพิทยุตม์ ซึ่งตนได้รับรายงานจากผู้บังคับบัญชาโดยตรงจากพื้นที่แล้ว ทราบว่าการเสียชีวิตของพลทหารพิทยุตม์ เกิดจากอาการเจ็บป่วยที่สะสมมาจากการทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยชายแดยไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม แต่ยังไม่มีการปะทะกันจนกระทั่งถึงปัจจุบันพลทหารพิทยุตม์ ก็ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างดีทั้งนี้สิทธิกำลังพลจะดำเนินการให้อย่างเต็มที่ เพราะถือว่าอยู่ระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ชายแดน
ขณะที่ พ.ต.หญิง จุฑาพัชร เปรมบัญญัติ ผู้ช่วยโฆษก กองทัพบก กล่าวในกรณีดังกล่าวด้วยว่า กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหารพิทยุตท์ ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา
"กองทัพบกขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ พลทหาร พิทยุตท์ และขอเชิดชูในความเสียสละของผู้ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศชาติในพื้นที่ชายแดนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งนี้ กองทัพบกดำเนินการแจ้งให้ญาติทราบแล้ว และจะให้การดูแลช่วยเหลือครอบครัวของกำลังพลอย่างครบถ้วนเต็มที่ตามสิทธิและระเบียบที่ราชการกำหนด" พ.ต.หญิง จุฑาพัชร กล่าว
พ.ต.หญิง จุฑาพัชร กล่าวด้วยว่าสำหรับพลทหาร พิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด ไม่พบบาดแผล และไม่พบการทะเลาะวิวาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด โดยรอผลชันสูตรพลิกศพจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่
ทั้งนี้ พลทหารพิทยุตม์มีโรคประจำตัวและเคยอาเจียนออกมาเป็นเลือดก่อนหน้านี้ ก่อนจะถูกนำตัวไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลและรับยามารับประทานทาน และต้นสังกัดให้พักรักษาตัวจนกว่าอาการจะทุเลา แต่พลทหารพิทยุตม์ไม่ยอม บอกเป็นห่วงเพื่อนทหารเพราะสถานการณ์ยังตรึงเครียดจึงขอมาปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามเกิดอาการวูบเสียชีวิตดังกล่าว สร้างความเศร้าเสียใจต่อเพื่อนๆทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันที่ชายแดน รวมถึงชาวโซเชียลที่ทราบข่าวต่างโพสต์แสดงอาลัยกันเป็นอย่างมาก