โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

หมาแมวก็เจอสังคมสูงอายุ มี ‘Longevity’ เหมือนคน แก่ 20 ปีก็อยู่ได้ เจอป่วยอัลไซเมอร์เยอะสุด

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กระแส “Pet Parent” หรือเลี้ยงหมาแมวแทนการมีลูกถูกพูดถึงมาพักใหญ่แล้ว ไม่ใช่แค่ในบ้านเราเท่านั้นที่ได้รับความนิยม แต่เทรนด์ดังกล่าวยังเติบโตในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งฝั่งยุโรป สหรัฐ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน อินเดีย ฯลฯ ข้อมูลจาก “Euromonitor International” บริษัทสำรวจข้อมูลทางการตลาดระดับโลก ระบุว่า อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง ทั่วโลกมีอัตราการเติบโตราว 4% และจะยืนระยะเช่นนี้ไปจนถึงปี 2573

“สัตวแพทย์หญิงกฤติกา ชัยสุพัฒนกุล” ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เล่าให้ฟังว่า ถ้าเทียบในฝั่งเอเชีย “จีน” ถือเป็นตลาดที่โตเร็วมาก มีขนาดตลาดใหญ่ที่สุด ล้อไปกับเทรนด์คนจีนรุ่นใหม่ไม่อยากมีลูก ส่วนภาพในอนาคตหากเทียบกับไทยพบว่า บ้านเรามีแนวโน้มเติบโตสูงกว่าราว 7-8% ส่วนจีนมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 3%

ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนหมาแมวรวมกันทั้งหมด “21 ล้านตัว” แบ่งเป็นหมา 14 ล้านตัว และแมว 7 ล้านตัว ตลาดรวมมีมูลค่า 71,000 ล้านบาท คาดการณ์ว่า ปีหน้าจะเติบโตทะลุไปถึง 80,000 ล้านบาท สำหรับอาหารการกินและเทคโนโลยีการรักษาในปัจจุบันของหมาแมว คุณหมอกฤติกาบอกว่า ไม่ได้แตกต่างจากการดูแลผู้ป่วยที่เป็นคนมากนัก พ่อแม่หมาแมวอยากให้ลูกๆ สุขภาพดี อยู่ด้วยกันไปนานๆ แต่ก่อนหมาแมวอายุสัก 8 ปีก็ถือว่าแก่มากแล้ว แต่ปัจจุบันพบว่า 15 ปียังเป็นค่าเฉลี่ยปกติ แม้วัยนี้จะเริ่มมีปัญหาสุขภาพตามวัย อาทิ ต้อกระจก เป็นต้น

กระแส “Longevity” ขยายไปถึงการแพทย์สัตว์เลี้ยง อายุราว 18-20 ปีก็ยังอยู่ได้ แก่แล้วแต่ยังมีสุขภาพที่ดี พ่อแม่หมาแมวที่ใส่ใจกับปัจจัยแวดล้อมเหล่านี้ คือกลุ่ม “Smart Customer” เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกๆ อยู่เสมอ ซึ่งนอกจากการดูแลในทางตรง ส่วนอื่นๆ ที่เป็นไลฟ์สไตล์ก็ส่งผลให้อุตสาหกรรมต้องปรับตัวไปพร้อมกันไม่อย่างนั้นก็อาจจะเสียโอกาสไปได้ คอนโดมิเนียมหลายแห่งชูเรื่อง “Pet Friendly” ร้านอาหารอนุญาตให้พาหมาแมวเข้าไปได้ ห้างสรรพสินค้ามีโซนสำหรับพาสัตว์เลี้ยงเข้าห้าง แม้กระทั่งสนามบินก็เริ่มเห็นภาพจูงหมาแมวให้เห็นกันแล้ว

สัตวแพทย์หญิงกฤติกา บอกว่า เทียบความแตกต่างระหว่างหมากับแมว อย่างไรค่าใช้จ่ายสำหรับน้องหมาก็ยังมีแนวโน้มสูงกว่า หมาต้องพาไปอาบน้ำทุกสัปดาห์ กินเยอะกว่า ขณะที่น้องแมวอาบน้ำนานๆ ครั้ง ของเล่นไม่เยอะเท่าหมา ยารักษาโรคเมื่อเจ็บป่วยก็มีสัดส่วนต่างกันมาก สมมติแมวใช้ยา 1 กิโลกรัมในการรักษา หมาอาจต้องใช้มาก 7-9 กิโลกรัม ทั้งยังต้องพาไปทำกิจกรรมอย่างการพาไปวิ่งหรือว่ายน้ำด้วย

ปัจจัยเรื่องค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูมีส่วนทำให้หลายบ้านตัดสินใจเลี้ยงแมว สำหรับที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อก็พบว่า จำนวนน้องแมวเริ่มกินส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่แบ่งสัดส่วนสัตว์เลี้ยงเป็นหมา 80% และแมว 20% ตอนนี้หมาลดลงอยู่ที่ 65-70% และแมว 30-35% สัดส่วนการซื้ออาหารแมวก็โตแซงอาหารหมาไปเรียบร้อยแล้ว

-สัตวแพทย์หญิงกฤติกา ชัยสุพัฒนกุล ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ-

ส่วนเรื่องความเจ็บป่วยเทคโนโลยีการรักษาตอนนี้ทำให้หมาแมวมีอายุยืนกว่าแต่ก่อน ภาพที่เห็นในโรงพยาบาลสัตว์ทุกวันนี้ไม่แตกต่างจากโรงพยาบาลรักษาคนที่เต็มไปด้วยคุณตาคุณยายนั่งรถเข็นหมาแมวก็เป็นเช่นนั้น สัตวแพทย์หญิงกฤติกาบอกว่า ที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อต้องเพิ่มพื้นที่ให้กับคลินิกเฉพาะทางของหมาแมวซีเนียร์มากขึ้น หมอเองก็ต้องเรียนรู้การรักษาให้เท่าทันกับโรคในปัจจุบันด้วย

ไม่ว่าจะเป็น “เบาหวาน” หรือโรคที่เกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ ส่วน “ต้อกระจก” แก่มาแล้วเป็นเหมือนกันหมดเพียงแต่เป็นเร็วหรือช้าเท่านั้น โดยโรคที่พบได้บ่อยที่สุด 3 อันดับแรกของหมาสูงวัย ได้แก่ 1. โรคกระดูกเสื่อม ถ้าลามไปถึงกระดูกสันหลังก็จะมีอาการเดินไม่ได้ตามมาเพราะเกี่ยวข้องกับระบบประสาท 2. โรคอัลไซเมอร์ และ 3. โรคหัวใจ อื่นๆ เป็นโรคชราที่ทุกอย่างเสื่อมตามวัย

คุณหมอบอกว่า ตอนนี้วอร์ดผู้ป่วยหมาแมวแก่ หรือ “วอร์ดซีเนียร์” ใหญ่ขึ้นกว่าปีที่แล้ว มีการปรับปรุงวอร์ดชั้น 4 ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สัตวแพทย์และพยาบาลดูแลหมาแมวได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญวอร์ดนี้จะไม่ได้ใช้วิธีการขังสัตว์ไว้ในกรง เพราะหมาแมวสูงอายุเคลื่อนไหวตัวลำบาก กั้นเป็นคอกให้อยู่จะสะดวกมากกว่า พอตกเย็นก็พานั่งรถเข็นออกไปเดินเล่นที่สนามหญ้าด้านหลังโรงพยาบาล ให้หมาแมวได้ใช้กล้ามเนื้อ ได้ออกแรง รวมถึงการขับถ่ายที่หลายตัวถูกฝึกฝนให้ทำธุระนอกกรง

ด้านภาพธุรกิจของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อตอนนี้มีทั้งหมด 21 สาขา แบ่งเป็นในไทย 1 สาขา และเวียดนาม 1 สาขา แผนในปีนี้ไม่เน้นการเปิดใหม่แต่โฟกัสไปที่ปรับปรุงสาขาเดิมให้ใหญ่ขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น เช่น สาขาปิ่นเกล้ามีซื้อที่ดินเพิ่มใกล้ๆ กับตั้งฮั่วเส็ง พร้อมเปิดให้บริการเดือนสิงหาคม 2569 โดยแต่ละสาขาที่มีตอนนี้จะเป็นจุดยุทธศาสตร์ของหัวมุมเมือง ยกตัวอย่างเช่น ฝั่งกรุงเทพใต้อยู่ที่สาขาพระราม 2 ฝั่งตะวันตกเป็นปิ่นเกล้า

นอกจากแผนรีโนเวทสาขาเดิม “โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ” ยังดำเนินธุรกิจด้วยรูปแบบ “JV” (Joint Venture) กับโรงพยาบาลและคลินิกอีกหลายแห่ง ใช้จุดแข็งเรื่องระบบหลังบ้านที่แข็งแรงเข้าไปทำงานร่วมกับโรงพยาบาลและคลินิกสัตว์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัจจุบันระบบของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อเชื่อมต่อเข้าด้วยกันทั้งหมด เคยมีประวัติการรักษาที่กรุงเทพฯ อย่างไร ก็รักษาที่เชียงใหม่ต่อเนื่องได้เลย

ตอนนี้ทำงานด้วยรูปแบบ JV อยู่ 7 แห่ง วางแผนเพิ่มเติมปีละ 1-2 แห่ง ล้อไปกับเป้าหมายที่อยากเติบโตทั้งเครือธุรกิจอีกสองเท่า ตั้งเป้าตัวเลขรายได้ปีนี้ไว้ที่ 1,400 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาปิดผลประกอบการที่ 1,312 ล้านบาท

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

เปิดเงื่อนไข ‘ฮิลลารี คลินตัน’ เสนอชื่อทรัมป์ชิงโนเบลสันติภาพ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘บุ๋น-เปรม’ นำทีม ดูซีรีส์ตอนแรกกับแฟนคลับ ใน ‘REVAMP THE UNDEAD STORY First Premiere’

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'เศรษฐา' โพสต์ภาพร่วมเฟรม'แพทองธาร-สามี' ชวนดื่มกาแฟยอดนิยม

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘มาริษ’เตรียมบินเจนีวาหารือคณะกรรมการ'อนุสัญญาออตตาวา’

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...