โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

สะพานรถไฟประวัติศาสตร์ในเมียนมาถูกทำลาย ทหาร-ฝ่ายต่อต้านสาดโคลนกัน

เดลินิวส์

อัพเดต 25 สิงหาคม 2568 เวลา 17.10 น. • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
“สะพานก๊กเต๊ก” ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ของเมียนมา เสียหายอย่างหนักด้วยแรงระเบิด ขณะที่รัฐบาลทหารและกองกำลังฝ่ายต่อต้านโยนความผิดกันไปมา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ว่า กระทรวงข่าวสารเมียนมาออกแถลงการณ์ ว่ากองทัพปลดปล่อยแห่งชาติท่าอ่าง (ทีเอ็นแอลเอ) และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (พีดีเอฟ) ร่วมกันระเบิดทำลายสะพานก๊กเต๊ก ซึ่งเป็นสะพานทางรถไฟยุคอาณานิคม ที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นสะพานรถไฟแบบโครงตอม่อซึ่งสูงที่สุดในโลก

ทั้งนี้ สะพานแห่งดังกล่าวซึ่งมีความสูง 102 เมตร เป็นสะพานรถไฟที่ข้ามช่องเขาก๊กเต๊ก เหนือแม่น้ำมยิแง ทางตะวันตกของรัฐฉาน ได้รับการก่อสร้างเมื่อปี 2444 ซึ่งเป็นสมัยที่เมียนมายังอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักร และสะพานแห่งนี้ยังเป็นเส้นทางสัญจรสำคัญ ระหว่างรัฐฉานกับภูมิภาคมัณฑะเลย์

ด้านทีเอ็นแอลเอออกแถลงการณ์ปฏิเสธ และกล่าวว่า รัฐบาลทหารเมียนมาเป็นผู้ระเบิดทำลายสะพานแห่งนี้เอง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของทุกฝ่ายทั้งในและต่างประเทศ ให้ออกจากสถานการณ์สู้รบ

อนึ่ง เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลทหารเมียนมาอยู่ระหว่างเตรียมจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ โดย เดอะ โกลบอล นิว ไลต์ ออฟ เมียนมา ซึ่งเป็นสื่อกระบอกเสียงของภาครัฐ รายงานว่า การเลือกตั้งช่วงแรกจะเกิดขึ้นในวันที่ 28 ธ.ค. นี้ ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะจัดการลงคะแนนใน 102 จากทั้งหมด 330 เขตการปกครอง

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า พื้นที่ซึ่งยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของกองกำลังฝ่ายต่อต้าน หรือกองกำลังชาติพันธุ์ จะจัดการเลือกตั้งได้อย่างยากลำบาก เช่น รัฐยะไข่ ที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศ และพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้อิทธิพลของกองทัพอาระกัน (เอเอ) จะสามารถจัดการเลือกตั้งได้เพียง 3 เขต จาก 17 เขต ในการเลือกตั้งระยะที่หนึ่ง

ขณะที่ภูมิภาคสะกาย ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือและเป็นฐานที่มั่นของกองกำลังต่อต้านรัฐบาลทหารหลายกลุ่ม จะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ราว 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมด.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

กต.แจงยิบ MOU43 เอื้อไทยได้เปรียบ มัดกัมพูชาต้องกู้ทุ่นระเบิด

16 นาทีที่แล้ว

‘แม่ทัพภาค2’ ไฟเขียวยิงตอบโต้ ‘เขมร’ ทันที หากรุกอธิปไตย-วางทุ่นระเบิด

20 นาทีที่แล้ว

ด่วน! ศาลสั่งจำคุก ‘มารี เบิร์นเนอร์’ เมาขับ 2 เดือน – ‘ไฮโซบอส’ ดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ 1 เดือน

20 นาทีที่แล้ว

‘ไอคอนสยาม’ชิงรางวัลสุดยอดโครงการค้าปลีกของโลกในรอบ 30 ปี

21 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

สะเทือนวงการ! ชาวเน็ตคอมเมนต์สนั่น มินฮีจิน มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีความอย่างน้อย 5 คดี (ข่าวต่างประเทศ)

News In Thailand

กต.แจง MOU43 ไทยได้เปรียบ ร่วมกัมพูชากู้ทุ่นระเบิด-ทำแผนที่ใหม่

ฐานเศรษฐกิจ

"สม รังสี" แฉรัฐบาลกัมพูชา ปิดบังความจริงเรื่องการสูญเสียดินแดน-ปราสาท

สยามรัฐ

จีนติดท็อป 3 ‘คู่ค้ารายใหญ่’ ของ 157 ประเทศ-ภูมิภาคทั่วโลก

Xinhua

ชายผู้เดินทางครบทั้ง 197 ประเทศทั่วโลก เผย 5 ประเทศที่เขารู้สึก "ไม่ปลอดภัยที่สุด"

sanook.com

'กัมพูชา' ผ่านกฎหมาย 'เพิกถอนสัญชาติ' คนที่ถูกตัดสินเป็น 'กบฏ'

กรุงเทพธุรกิจ

"นิ้วเจ็บ" จากสมาร์ทโฟน! รู้จัก "ซูมาโฮ ยูบิ" โรคใหม่ยอดฮิตของคนใช้มือถือหนัก

สยามรัฐ

ฝรั่งเศสเรียกทูตสหรัฐพบ ชี้แจงกล่าวหารัฐบาล ‘ล้มเหลว’ ปราบกระแสต้านชาวยิว

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

ไม่เนียน! ‘ตำรวจเศรษฐกิจ’ จับหนุ่ม 26 ปี เช่ารถ 4 คัน จัดฉากตกน้ำเพื่อเคลมประกัน

เดลินิวส์

ใกล้ถึงบทสรุป!! โปรแกรมสุดเดือดรอบ 4 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอล “กรมพลศึกษา เดลินิวส์ คัพ 2025”

เดลินิวส์

‘อ.ปริญญา’ ไม่เห็นด้วยสอบวินัย ‘หมอสุภัทร’ จี้ รมว.สธ.ทบทวนคืนความเป็นธรรม

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...