AI พลิกโฉมท่องเที่ยว 96% คนไทย พร้อมใช้ช่วยวางแผนเดินทาง
Booking.com เปิดเผยรายงาน Global AI Sentiment Report สำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคใน 33 ประเทศ พบว่าคนไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เปิดรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากที่สุด โดยถึง 96% ระบุว่าต้องการใช้ AI เป็นผู้ช่วยในการวางแผนการเดินทางในอนาคต และมองว่าAI เป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือกว่าบล็อกเกอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยว ขณะที่ 98% แสดงความตื่นเต้นต่อการนำ AI มาใช้ และ 84% รู้สึกคุ้นเคยกับเทคโนโลยีแล้ว
นายบรานาวัน อรุลโจธี ผู้จัดการประจำภูมิภาคของ Booking.com เปิดเผยว่า ปัจจุบันAI กำลังเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว และ Booking.com ในฐานะแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยว ได้พัฒนาและผนวก AI เข้ากับบริการเพื่อช่วยให้ผู้เดินทางค้นหา จอง และจัดการทริปได้ง่ายขึ้น พร้อมเดินหน้าต่อยอดนวัตกรรมให้สอดรับกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
แม้ผู้บริโภคไทยจะเปิดรับเทคโนโลยีสูง แต่รายงานสะท้อนถึงความระมัดระวังในการใช้งาน โดย 61% ของผู้ตอบระบุว่ายังตรวจสอบข้อมูลจากAI ทุกครั้ง 17% ตรวจสอบเป็นบางครั้ง และมีเพียง 9% เท่านั้นที่เชื่อมั่นในคำตอบอย่างเต็มที่ ขณะที่มีเพียง 21% ที่ยอมให้ AI ตัดสินใจแทนโดยอิสระ 26% ยังไม่ไว้วางใจ และ 2% ปฏิเสธอย่างชัดเจนว่าจะไม่ยอมให้ AI ตัดสินใจแทนหากไม่ได้รับการอนุมัติจากมนุษย์ สะท้อนให้เห็นว่า AI ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสนับสนุน มากกว่าการเข้ามาแทนที่มนุษย์โดยตรง
ในชีวิตประจำวันAI ได้เข้ามามีบทบาทอย่างลึกซึ้ง คนไทยกว่า 98% ใช้การค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วยAI (AI-powered search) 87% ใช้คำแนะนำจากบริการสตรีมมิง และ 80% ใช้Generative AI เพื่อสร้างสรรค์เนื้อหา แต่ความรู้สึก “ไม่เป็นมิตร” ของเทคโนโลยียังคงมีอยู่ โดย 30% ของผู้บริโภคยังมองว่า AI ขาดความเป็นมนุษย์ และต้องอาศัยการตรวจสอบข้อมูลซ้ำเพื่อสร้างความมั่นใจ
ในมิติของการเดินทางAI กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างประสบการณ์อย่างรวดเร็ว นักท่องเที่ยวไทยกว่า 59% คาดว่าการวางแผนเดินทางอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการจัดทริป แนะนำที่เที่ยว จองโรงแรม ตั๋วเดินทาง หรือกิจกรรมต่างๆ จะกลายเป็นเรื่องปกติในอนาคตอันใกล้ โดยปัจจุบัน 79% ของผู้บริโภคเคยใช้ AI ในการท่องเที่ยวแล้ว และเกือบทั้งหมดเคยใช้เพื่อวางแผนหรือจองทริป (98%) รวมถึงใช้งานจริงระหว่างการเดินทาง (98%)
บทบาทของAI ในการเดินทางสะท้อนผ่านการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาปลายทางและช่วงเวลาที่เหมาะสม (49%) การค้นหาประสบการณ์ท้องถิ่นหรือกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม (33%) และการหาข้อมูลร้านอาหาร (38%) โดยผู้บริโภคชาวไทยยังให้คะแนนความน่าเชื่อถือของ AI สูงกว่าเพื่อนหรืออินฟลูเอนเซอร์ (AI 30% ขณะที่เพื่อนหรืออินฟลูเอนเซอร์ได้ 21%)
ระหว่างการเดินทาง AI ถูกใช้มากที่สุดเพื่อการแปลภาษา (51%) รองลงมาคือการแนะนำกิจกรรม (45%) ร้านอาหาร (41%) และการนำทางหรือใช้ระบบขนส่งสาธารณะ (43%) ขณะที่ภายหลังการเดินทาง 47% ของผู้ใช้เลือกใช้ AI เพื่อตกแต่งและแก้ไขภาพถ่าย
นอกจากความสะดวกสบายแล้ว นักท่องเที่ยวชาวไทยยังมองหา “ผลกระทบเชิงบวก” จาก AI โดย 84% เชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้การท่องเที่ยวมีความยั่งยืน เช่น การแนะนำเส้นทางหรือช่วงเวลาที่เลี่ยงความแออัด (81%) และการเลือกกิจกรรมที่สร้างประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่น (82%) แสดงให้เห็นว่าความคาดหวังของผู้บริโภคไม่ได้จำกัดเพียงเรื่องประสิทธิภาพ แต่ยังรวมถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ในอนาคต Generative AI จะเข้ามาเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการค้นพบคาเฟ่เล็กๆ วิวทิวทัศน์ใหม่ๆ หรือการเข้าถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ยังคงสืบสาน สิ่งเหล่านี้คือคุณค่าที่ทำให้การเดินทางเป็นมากกว่าการท่องเที่ยว แต่คือการสร้างสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างผู้เดินทางกับชุมชน
สำหรับ Booking.com จะเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี AI และ Machine Learning อย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับความโปร่งใส ความน่าเชื่อถือ และความเป็นส่วนตัว ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ และทำให้การเดินทางในอนาคตตอบโจทย์ทั้งประสบการณ์ส่วนบุคคลและความยั่งยืนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว