แฟรงค์ คาปริโอ “ผู้พิพากษาที่ใจดีที่สุดในโลก” จากไปในวัย 88 ปี
แฟรงค์ คาปริโอ (Frank Caprio) เกิดที่เมืองพรอวิเดนซ์ รัฐโรดไอแลนด์ สหรัฐอเมริกา ในครอบครัวผู้อพยพเชื้อสายอิตาเลียนที่ยากจน เขาเติบโตท่ามกลางความลำบากในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง พ่อแม่ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูลูก ๆ และตัวเขาเองตั้งแต่วัยเด็กก็ต้องช่วยครอบครัวหารายได้ ด้วยการส่งนมตอนเช้ามืด รับจ้างงานเล็ก ๆ น้อย ๆ และยังต้องเผชิญสายตาล้อเลียนจากการเป็น “ลูกคนอพยพ” ที่ถูกมองว่าไม่มีอนาคต แต่สิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้เขาเข้าใจคุณค่าของ “ความเมตตา” และ “ความยุติธรรม” อย่างลึกซึ้ง
จากเด็กชายที่แบกลังนม เดินฝ่าสายลมหนาวเพื่อส่งเงินกลับบ้าน เขากลายมาเป็นครูสอนประวัติศาสตร์ ก่อนจะตามความฝันสู่เส้นทางกฎหมาย จนได้เป็นผู้พิพากษาที่ผู้คนทั่วโลกขนานนามว่า “The Kindest Judge” หรือ “ผู้พิพากษาที่ใจดีที่สุดในโลก”
ชื่อเสียงของผู้พิพากษาคาปริโอ เริ่มต้นจากรายการ Caught in Providence ที่เผยให้เห็นการตัดสินคดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขา แต่สิ่งที่ทำให้คนทั่วโลกซาบซึ้ง ไม่ใช่แค่ตัวบทกฎหมาย หากคือ “หัวใจ” ที่เขามอบให้กับทุกคนในห้องพิจารณา เขามองผู้ต้องหาไม่ใช่เป็นเพียงตัวเลขหรือคนทำผิด แต่เป็นมนุษย์ที่มีชีวิต มีครอบครัว และมีความทุกข์ยาก
หนึ่งในคดีที่กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก คือเหตุการณ์ที่ชายชราถูกปรับ เพราะจอดรถผิดเวลา ขณะพาลูกชายที่ป่วยหนักไปหาหมอ แทนที่ผู้พิพากษาคาปริโอจะใช้บทกฎหมายอย่างเคร่งครัด เขากลับพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “คุณเป็นพ่อที่ยอดเยี่ยม ผมขอยกเลิกค่าปรับ และอยากบอกคุณว่าโลกนี้ยังมีคนที่เข้าใจคุณอยู่” ชายชราน้ำตาคลอ ขณะที่ผู้คนนับล้านที่ดูคลิปต่างร้องไห้ไปพร้อมกัน และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นผู้พิพากษาที่ไม่ได้ตัดสินเพียง “คดี” แต่ตัดสินด้วย “ความเป็นมนุษย์” ที่รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
คลิปของเขาถูกแชร์ไปทั่วโลก บางตอนมียอดชมหลายร้อยล้านครั้ง ยิ่งกว่าศิลปินดัง ๆ เสียอีก หลายคนถึงกับพูดติดตลกว่า อยากทำผิดกฎจราจรสักครั้ง เพื่อให้ได้เจอผู้พิพากษาคาปริโอในศาล เพราะนอกจากจะได้ความยุติธรรม ยังได้ความอบอุ่นหัวใจกลับไปด้วย
ตลอดชีวิตการทำงาน เขาไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ผู้พิพากษา แต่ยังอุทิศตนให้กับการศึกษาและงานการกุศล ครอบครัวคือศูนย์กลางของชีวิต เขาคือสามีที่ซื่อสัตย์ พ่อที่อบอุ่น ปู่และทวดที่ทุกคนในครอบครัวภาคภูมิใจ
แม้วันนี้ผู้พิพากษาแฟรงค์ คาปริโอจะจากไปในวัย 88 ปี แต่สิ่งที่เขาทิ้งไว้ให้โลก ไม่ใช่เกียรติยศหรือชื่อเสียง ทว่าคือ “ความเมตตา” ที่ยังคงส่องประกายในหัวใจของทุกคนที่เคยสัมผัส และ “ความเห็นอกเห็นใจ” ที่จะทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น