1 ปี สว. 67 : โหวตกฎหมาย 25 ฉบับ ผ่านพ.ร.บ. 20 ฉบับ แก้ไขร่างที่ผ่านมือสส. ไป 3 ฉบับ ผลงานร้อนแรงแซงสว. ชุดพิเศษ
โครงสร้างของฝ่ายนิติบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ 2560 ใช้ระบบรัฐสภาแบบสภาคู่ประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา มีอำนาจสำคัญคือการพิจารณาร่างกฎหมายซึ่งจะใช้บังคับกับประชาชนในประเทศ อย่างไรก็ดี ที่มาของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ทั้ง 200 คน ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่มาจากระบบ “แบ่งกลุ่ม-เลือกกันเอง” ประชาชนทั่วไปไม่ได้มีสิทธิเลือก
อำนาจของ สว. ในการพิจารณากฎหมายก็แตกต่างไปตามประเภทของกฎหมาย สำหรับการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม สว. จะพิจารณาร่วมกันกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ซ้ำเงื่อนไขการแก้รัฐธรรมนูญยังต้องใช้เสียง สว. หนึ่งในสาม บทบาทของ สว. ในการแก้รัฐธรรมนูญจึงไม่ได้น้อยไปกว่า สส. กระบวนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญก็เช่นกัน สว. มีอำนาจพิจารณาร่วมกันกับ สส. ขณะที่การพิจารณากฎหมายระดับพระราชบัญญัติ สว. บทบาทของ สว. จะอยู่ในรูปแบบ “กลั่นกรอง” เสียมากกว่า ไม่สามารถคว่ำร่างพระราชบัญญัติได้โดยเด็ดขาด แต่สว. ก็สามารถ “แก้ไข” เนื้อหาร่างพระราชบัญญัตติที่ผ่าน สส. มาแล้วได้ ซึ่งอาจทำให้เนื้อหาของร่างกฎหมายนั้นเปลี่ยนแปลงไปในเชิงคุณภาพ และอีกแง่หนึ่ง การแก้ไขร่างพระราชบัญญัติที่ผ่านมือ สส. มาแล้วก็เป็นการ “ยืดเวลา” ให้กระบวนการพิจารณาช้าออกไปอีกได้เช่นกัน
ในรอบหนึ่งปีของการทำงาน สว. 2567 นับแต่การประชุมนัดแรกเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 จนถึงวันสุดท้ายของสมัยประชุมวิสามัญ 30 พฤษภาคม 2568 สว. ชุดนี้โหวตกฎหมายรวม 25 ฉบับ เป็นพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่พิจารณาร่วมกับ สส. สองฉบับ พระราชกำหนดสามฉบับ และพระราชบัญญัติอีก 20 ฉบับ เมื่อเปรียบเทียบกับ 250 สว.ชุดพิเศษ ที่พิจารณากฎหมายระดับพระราชบัญญัติไป 51 ฉบับในรอบห้าปี สว. ชุดนี้มีจำนวนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ “แซงหน้า” สว. ชุดพิเศษ ด้านสถิติการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติที่ผ่านมือ สส. มาแล้ว ยังใกล้เคียงกัน ส่วนร่างพระราชบัญญัติที่พิจารณารวดเร็วแบบ “สามวาระรวด” สว. ชุดแรกจากระบบเลือกกันเอง ใช้กระบวนการพิจารณารูปแบบนี้ไปแล้วสามฉบับในรอบหนึ่งปี เยอะกว่า สว. ชุดพิเศษที่พิจารณาห้าฉบับในรอบห้าปี
ผลงาน 1 ปี โหวตกฎหมายรวม 25 ฉบับ ส่วนใหญ่เสียงไม่แตก
บทบาทสำคัญของ สว. คือการ “ผ่านกฎหมาย” ที่จะใช้บังคับกับประชาชน ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ร่างกฎหมายที่ สว. จะมีอำนาจหน้าที่พิจารณาหลักๆ มีห้าประเภท คือ
1) ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ทำในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา สว. พิจารณาร่วมกันกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ร่างจะผ่านในวาระหนึ่งและวาระสามได้ ต้องใช้เสียง สว. เห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามหรือ 67 เสียง
2) ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ซึ่งจะพิจารณาในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา หมายความว่า สว. จะต้องทำงานร่วมกันกับ สส. มีอำนาจเท่ากัน
3) ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จะพิจารณาในชั้นสภาผู้แทนราษฎรก่อนสามวาระ แล้วจึงส่งให้วุฒิสภาพิจารณาอีกสามวาระ หาก สว. ยับยั้งหรือแก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาร่างพ.ร.บ. ก็ต้องส่งกลับให้ สส. ลงมติอีก กระบวนการพิจารณาร่างพ.ร.บ. อำนาจหลักจึงอยู่ในมือ สส. ส่วน สว. มีอำนาจน้อยกว่า ไม่สามารถ “ปัดตก” ร่างพ.ร.บ. ได้ แต่หาก สว. ยับยั้ง หรือแก้ไขเนื้อหาร่างพ.ร.บ. ก็ทำให้กระบวนการพิจารณาช้าออกไป
4) ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ในชั้นสภาผู้แทนราษฎร จะมีกระบวนการพิจารณาเหมือนร่างพ.ร.บ.ทั่วไป แต่เมื่อมาถึงวุฒิสภา สว. จะมีอำนาจในการพิจารณาน้อยกว่า สส. กล่าวคือ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ สว. จะไม่ได้พิจารณาเป็นสามวาระ แต่จะลงมติได้แค่เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบเท่านั้น เท่ากับว่า สว. จะแก้ไขหรือเสนอปรับลดงบประมาณเหมือน สส. ไม่ได้เลย และต้องลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบภายใน 20 วันนับแต่วันที่ร่างมาถึง (รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 143 วรรคสาม)
5) พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เป็นกฎหมายที่ออกตาม “ข้อยกเว้น” ของการออกกฎหมายปกติ กล่าวคือ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเป็นฝ่ายบริหาร มีอำนาจออกพ.ร.ก. ไปก่อนได้ภายใต้เงื่อนไขว่า ต้องมีเหตุ “ฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้” เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ เมื่อออกพ.ร.ก. ไปแล้ว ต้องรีบส่งให้ฝ่ายนิติบัญญัติพิจารณาโดยเร็ว โดยจะต้องให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาอนุมัติก่อน จากนั้นจึงให้วุฒิสภาพิจารณาอนุมัติ หากสภาผู้แทนราษฎรไม่อนุมัติ พ.ร.ก. นั้นก็ตกไป หรือสภาผู้แทนราษฎรอนุมัติแต่วุฒิสภาไม่อนุมัติแล้วฝั่งสภาผู้แทนราษฎรยืนยัน พ.ร.ก. นั้นก็จะตกไป อำนาจในการพิจารณาของ สว. น้อยกว่า สส.
ในรอบหนึ่งปีการทำงานของ สว. นับแต่การประชุมนัดแรกเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 จนถึงวันสุดท้ายของสมัยประชุมวิสามัญ 30 พฤษภาคม 2568 สว. ชุดนี้ยังไม่ได้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมสักฉบับ พิจารณาร่างพ.ร.ป. ร่วมกับ สส. ไปแล้วสองฉบับ โหวตผ่านหนึ่งฉบับ โหวตตกหนึ่งฉบับ อนุมัติพ.ร.ก. ไปสามฉบับ ผ่านกฎหมายระดับพ.ร.บ.รวม 20 ฉบับ ในจำนวนนี้มีร่างพ.ร.บ.งบประมาณสองฉบับ โดยภาพรวมเสียงโหวต สว. แทบไม่แตก มีร่างกฎหมายที่ สว. เสียงแตกอยู่บ้าง คือร่างพ.ร.บ.งบประมาณ
เมื่อเปรียบเทียบผลงานในรอบห้าปีของ สว. ชุดพิเศษที่มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สว. ชุดพิเศษผ่านกฎหมายระดับพ.ร.บ. ไป 51 ฉบับ หรือคิดโดยเฉลี่ยปีละ 10.2 ฉบับ ขณะที่ สว. เลือกกันเอง ผ่านกฎหมายระดับพ.ร.บ. ไป 20 ฉบับ คิดเป็นสองเท่าของ สว. ชุดพิเศษ สำหรับการแก้ไขร่างกฎหมายที่ผ่านมือ สส. มาแล้ว สว. ชุดพิเศษแก้ไขไป 13 ฉบับ คิดเป็นเฉลี่ยปีละ 2.6 ฉบับ ด้าน สว. เลือกกันเอง แก้ไขไปสามฉบับ จำนวนใกล้เคียงกันกับ สว. ชุดพิเศษ
ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ. ทั่วไป แม้โดยหลักแล้ววุฒิสภาจะพิจารณาเป็นสามวาระ แต่หากมีร่างพ.ร.บ.ใดที่มีจำนวนบทบัญญัติน้อย หรือหากวุฒิสภาต้องการให้กฎหมายนั้นผ่านการพิจารณาโดยรวดเร็ว ไม่ได้มีประเด็นที่จะต้องแก้ไขเพิ่มเติมให้แตกต่างจากร่างที่ผ่านมือ สส. มา ก็สามารถพิจารณา “สามวาระรวด” ได้โดยตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) เต็มสภา ซึ่งรอบห้าปีของ สว. ชุดพิเศษ ผ่านร่างพ.ร.บ.ด้วยการพิจารณาแบบสามวาระรวดไปห้าฉบับ คิดเฉลี่ยตกปีละหนึ่งฉบับ ขณะที่ สว. เลือกกันเอง ผ่านร่างพ.ร.บ.สามวาระรวดไปแล้วสามฉบับในรอบหนึ่งปี
ประชุมร่วมกับ สส. โหวตผ่านร่างพ.ร.ป. 1 ฉบับ เสียงข้างมากดันโหวตตกไป 1 ฉบับ
ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเมื่อ 20 ธันวาคม 2567 รัฐสภามีวาระพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตสองฉบับ เสนอโดย ครม. และอีกฉบับเสนอโดยวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคประชาชน โดยรัฐสภามีมติ “รับหลักการ” ร่างทั้งสองฉบับในวาระหนึ่ง ลงมติแยกกัน ร่างฉบับที่เสนอโดยครม. ได้คะแนนเสียงเห็นด้วย 492 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง จากสายฝน กองแก้ว สว. และงดออกเสียง 1 เสียง จากวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ขณะที่ร่างฉบับที่เสนอโดย สส. พรรคประชาชน ได้รับคะแนนเสียงเห็นด้วยน้อยกว่า อยู่ที่ 354 เสียง ไม่เห็นด้วย 129 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 3 เสียง
เมื่อเจาะดูคะแนนเสียงของร่างฉบับที่เสนอโดยสส. พรรคประชาชน ในจำนวนเสียงที่โหวต “ไม่เห็นด้วย” 129 เสียง เป็น สว. ไปแล้วถึง 128 เสียง หากพิจารณา “กลุ่มก้อน” ของ สว. จากการประมวลผลการลงมติในรอบหนึ่งปี สว. ผู้ที่โหวตไม่เห็นด้วย 117 คนเป็น สว. จากกลุ่ม “ข้างมาก” ในวุฒิสภา อีกเก้าคนเป็นกลุ่มที่คาดหมายไม่ได้ อีกหนึ่งคนเป็นสว. ที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มข้างน้อย อีกหนึ่งคนเป็น สว. ที่เป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง คือ พล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ ซึ่งในการประชุมวุฒิสภาจะต้อง “งดออกเสียง” ตามธรรมเนียม แต่ในการประชุมรัฐสภา จะไม่ได้มีบทบาทในฐานะประธานหรือรองประธานรัฐสภา สามารถโหวตได้อิสระในฐานะสมาชิกรัฐสภา
ชื่อ นามสกุล กลุ่มที่ กลุ่ม กมล รอดคล้าย 3 ข้างมาก กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ 18 คาดหมายไม่ได้ กฤษณุ เหลืองพิบูลกิจ 15 ข้างมาก กอบ อัจนากิตติ 20 ข้างมาก กัมพล ทองชิว 13 ข้างมาก กัมพล สุภาแพ่ง 11 ข้างมาก กานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ 14 คาดหมายไม่ได้ กิติศักดิ์ หมื่นศรี 19 ข้างมาก เกรียงไกร ศรีรักษ์ 1 x เกศกมล เปลี่ยนสมัย 19 ข้างมาก ขวัญชัย แสนหิรัณย์ 13 ข้างมาก เข็มรัตน์ สุรเมธีมาณพ 7 ข้างมาก จตุพร เรียงเงิน 7 ข้างมาก จรุณ กลิ่นตลบ 6 ข้างมาก จารุณี ฤกษ์ปราณี 14 ข้างมาก จิระศักดิ์ ชูความดี 8 ข้างมาก จุฑารัตน์ นิลเปรม 14 ข้างมาก เจียระนัย ตั้งกีรติ 14 ข้างมาก ฉัตรวรรษ แสงเพชร 2 ข้างมาก ชญาน์นันท์ ติยะตระการชัย 9 ข้างมาก ชัยธัช เพราะสุนทร 9 ข้างมาก ชาญชัย ไชยพิศ 17 ข้างมาก ชีวะภาพ ชีวะธรรม 8 ข้างมาก ชูชาติ อินสว่าง 5 ข้างมาก โชคชัย กิตติธเนศวร 19 ข้างมาก ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล 18 ข้างมาก ณรงค์ จิตราช 12 ข้างมาก ณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย 14 ข้างมาก ณัฐกิตติ์ หนูรอด 20 ข้างมาก เดชา นุตาลัย 5 ข้างมาก แดง กองมา 10 ข้างมาก เตชสิทธิ์ ชูแก้ว 6 ข้างมาก ธนกร ถาวรชินโชติ 6 คาดหมายไม่ได้ ธนภัทร ตวงวิไล 15 ข้างมาก ธวัช สุระบาล 1 ข้างมาก นงลักษณ์ ก้านเขียว 4 ข้างมาก นวลนิจ หงษ์วิวัฒน์ 19 คาดหมายไม่ได้ นิทัศน์ อารีย์วงศ์สกุล 10 ข้างมาก นิฟาริด ระเด่นอาหมัด 3 ข้างมาก นิรัตน์ อยู่ภักดี 8 ข้างมาก นิรุตติ สุทธินนท์ 17 ข้างมาก นิเวศ พันธ์เจริญวรกุล 15 ข้างมาก นิสิทธิ์ ปนกลิ่น 6 ข้างมาก บุญจันทร์ นวลสาย 2 ข้างมาก บุญชอบ สระสมทรัพย์ 4 ข้างมาก ประกาสิทธิ์ พลซา 7 ข้างมาก ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล 4 ข้างมาก ประไม หอมเทียม 17 คาดหมายไม่ได้ ปราณีต เกรัมย์ 16 ข้างมาก ปวีณา สาระรัมย์ 5 ข้างมาก ปุณณภา จินดาพงษ์ 12 ข้างมาก พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต 12 คาดหมายไม่ได้ พรเพิ่ม ทองศรี 13 ข้างมาก พละวัต ตันศิริ 12 ข้างมาก พิชาญ พรศิริประทาน 9 ข้างมาก พิบูลย์อัฑฒ์ หฤหรรษ์ปราการ 16 ข้างมาก พิมาย คงทัน 5 ข้างมาก พิศูจน์ รัตนวงศ์ 11 ข้างมาก พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ 11 ข้างมาก เพลินจิต ขันแก้ว 4 ข้างมาก ไพบูลย์ ณะบุตรจอม 8 ข้างมาก ภาณุพงษ์ เต็งวงษ์วัฒนะ 17 ข้างมาก ภาวนา ว่องอมรนิธิ 11 ข้างมาก มยุรี โพธิแสน 14 ข้างมาก มาเรีย เผ่าประทาน 6 ข้างมาก ยุทธนา ไทยภักดี 20 ข้างมาก รจนา เพิ่มพูล 12 ข้างมาก รุจิภาส มีกุศล 10 ข้างมาก ฤชุ แก้วลาย 4 ข้างมาก วร หินดี 1 ข้างมาก วรรษมนต์ คุณแสน 9 ข้างมาก วราภัสร์ ไพพรรณรัตน์ 12 ข้างมาก วราวุธ ตีระนันทน์ 20 คาดหมายไม่ได้ วลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒน์ 20 ข้างมาก วันชัย แข็งการเขตร 4 ข้างมาก วิเชียร ชัยสถาพร 16 ข้างมาก วิรัตน์ รักษ์พันธ์ 20 ข้างมาก วิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ 8 ข้างมาก วิวัฒน์ รุ้งแก้ว 3 ข้างมาก วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี 1 ข้างมาก วุฒิชาติ กัลยาณมิตร 11 ข้างมาก วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ 13 ข้างมาก ศุภชัย กิตติภูติกุล 18 ข้างมาก ศุภโชค ศาลากิจ 17 ข้างมาก เศก จุลเกษร 2 ข้างมาก สมชาย นุ่มพูล 5 ข้างมาก สมดุลย์ บุญไชย 15 ข้างมาก สมทบ ถีระพันธ์ 3 ข้างมาก สมบูรณ์ หนูนวล 4 ข้างมาก สมพร วรรณชาติ 7 ข้างมาก สมพาน พละศักดิ์ 10 ข้างมาก สมศรี อุรามา 9 ข้างมาก สมศักดิ์ จันทร์แก้ว 5 ข้างมาก สมหมาย ศรีจันทร์ 15 ข้างมาก สวัสดิ์ ทัศนา 1 ข้างมาก สัมพันธ์ ชัยวิเศษจินดา 8 ข้างมาก สากล ภูลศิริกุล 17 ข้างมาก สามารถ รังสรรค์ 3 ข้างมาก สายฝน กองแก้ว 17 ข้างมาก สาลี สิงห์คำ 5 ข้างมาก สืบศักดิ์ แววแก้ว 2 ข้างมาก สุทนต์ กล้าการขาย 18 ข้างมาก สุทิน แก้วพนา 3 ข้างมาก สุเทพ สังข์วิเศษ 3 ข้างมาก สุนทร ขวัญเพ็ชร 2 ข้างมาก สุนทร เชาว์กิจค้า 10 ข้างมาก สุพรรณ์ ศรชัย 18 ข้างมาก สุมิตรา จารุกำเนิดกนก 9 ข้างมาก สุริยา บาราสัน 2 ข้างมาก สุวิทย์ ขาวดี 11 ข้างมาก โสภณ ผาสุข 3 ข้างมาก โสภณ มะโนมะยา 10 ข้างมาก อจลา ณ ระนอง 14 ข้างมาก อภิชา เศรษฐวราธร 8 ข้างมาก อภิชาติ งามกมล 1 ข้างมาก อภินันท์ เผือกผ่อง 1 ข้างน้อย อมร ศรีบุญนาค 5 ข้างมาก อมรศักดิ์ กิจธนานันท์ 7 คาดหมายไม่ได้ อลงกต วรกี 20 ข้างมาก อะมัด อายุเคน 16 ข้างมาก อัครวินท์ ขำขุด 11 ข้างมาก อัจฉรพรรณ หอมรส 14 ข้างมาก อัษฎางค์ แสวงการ 3 ข้างมาก อารีย์ บรรจงธุระการ 18 ข้างมาก อิสระ บุญสองชั้น 6 ข้างมาก เอกชัย เรืองรัตน์ 20 คาดหมายไม่ได้ เอนก วีระพจนานันท์ 19 ข้างมาก เอมอร ศรีกงพาน 16 ข้างมาก
เมื่อร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฉบับที่เสนอโดย ครม. เดินทางมาถึงการพิจารณาในวาระสาม เมื่อ 5 มีนาคม 2568 ที่ประชุมรัฐสภามีมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 507 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 3 เสียง ขณะที่ร่างฉบับที่เสนอโดย สส.พรรคประชาชน พิจารณาวาระสามเมื่อ 17 มีนาคม 2568 โดยรัฐสภามีมติไม่ให้ความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 163 เสียง ไม่เห็นด้วย 415 เสียง งดออกเสียง 12 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 2 เสียง
เสียงเห็นด้วย นอกจากฝั่ง สส.พรรคประชาชนแล้วยังมี สว. ซึ่งส่วนใหญ่เป็น สว. กลุ่มเสียงข้างน้อย และมี สว. กลุ่มข้างมากและ สว.กลุ่มคาดหมายไม่ได้ร่วมลงคะแนนเห็นด้วยอยู่บ้าง ด้านฝั่งสว. ที่โหวตไม่เห็นด้วย ส่วนใหญ่เป็น สว. จากกลุ่มข้างมาก มี สว. จากกลุ่มที่คาดหมายไม่ได้อยู่บ้าง และมี สว. กลุ่มข้างน้อยหนึ่งคนที่โหวตไม่เห็นด้วย
สว. ที่โหวตเห็นด้วย
ชื่อ นามสกุล กลุ่มที่ กลุ่ม กัลยา ใหญ่ประสาน 5 ข้างน้อย เกียรติชาย ไมตรีวงษ์ 8 ข้างน้อย ชิบ จิตนิยม 18 คาดหมายไม่ได้ ชูชาติ อินสว่าง 5 ข้างมาก เทวฤทธิ์ มณีฉาย 18 ข้างน้อย นรเศรษฐ์ ปรัชญากร 9 ข้างน้อย นันทนา นันทวโรภาส 18 ข้างน้อย นิชาภา สุวรรณนาค 5 คาดหมายไม่ได้ ปฏิมา จีระแพทย์ 8 คาดหมายไม่ได้ ประทุม วงศ์สวัสดิ์ 11 ข้างน้อย ประภาส ปิ่นตบแต่ง 17 ข้างน้อย ประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล 17 ข้างน้อย เปรมศักดิ์ เพียยุระ 4 ข้างน้อย พรชัย วิทยเลิศพันธุ์ 19 ข้างน้อย มณีรัฐ เขมะวงค์ 9 ข้างน้อย ยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา 15 คาดหมายไม่ได้ รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร 1 คาดหมายไม่ได้ แล ดิลกวิทยรัตน์ 7 ข้างน้อย วีรยุทธ สร้อยทอง 12 ข้างน้อย ศรายุทธ ยิ้มยวน 15 คาดหมายไม่ได้ สง่า ส่งมหาชัย 10 ข้างมาก สุนทร พฤกษพิพัฒน์ 19 ข้างน้อย อภินันท์ เผือกผ่อง 1 ข้างน้อย อังคณา นีละไพจิตร 17 ข้างน้อย
สว. ที่โหวตไม่เห็นด้วย
ชื่อ นามสกุล กลุ่มที่ กลุ่ม กมล สุขคะสมบัติ 11 คาดหมายไม่ได้ กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ 18 คาดหมายไม่ได้ กฤษณุ เหลืองพิบูลกิจ 15 ข้างมาก กอบ อัจนากิตติ 20 ข้างมาก กัมพล ทองชิว 13 ข้างมาก กัมพล สุภาแพ่ง 11 ข้างมาก กิตติพันธ์ อนันตกูลจิรโชติ 15 ข้างมาก กิติศักดิ์ หมื่นศรี 19 ข้างมาก เกรียงไกร ศรีรักษ์ 1 - เกศกมล เปลี่ยนสมัย 19 ข้างมาก ขจรศักดิ์ ศรีวิราช 19 ข้างมาก ขวัญชัย แสนหิรัณย์ 13 ข้างมาก เข็มรัตน์ สุรเมธีมาณพ 7 ข้างมาก จรุณ กลิ่นตลบ 6 ข้างมาก จารุณี ฤกษ์ปราณี 14 ข้างมาก จิระศักดิ์ ชูความดี 8 ข้างมาก จุฑารัตน์ นิลเปรม 14 ข้างมาก เจียระนัย ตั้งกีรติ 14 ข้างมาก ฉลอง ทองนะ 2 ข้างมาก ฉัตรวรรษ แสงเพชร 2 ข้างมาก ชญาน์นันท์ ติยะตระการชัย 9 ข้างมาก ชัยธัช เพราะสุนทร 9 ข้างมาก ชาญชัย ไชยพิศ 17 ข้างมาก ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ 15 ข้างมาก ชินโชติ แสงสังข์ 7 ข้างมาก ชูชีพ เอื้อการณ์ 20 คาดหมายไม่ได้ โชคชัย กิตติธเนศวร 19 ข้างมาก โชติชัย บัวดิษ 6 ข้างมาก ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล 18 ข้างมาก ณรงค์ จิตราช 12 ข้างมาก ณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย 14 ข้างมาก ณัฐกิตติ์ หนูรอด 20 ข้างมาก แดง กองมา 10 ข้างมาก ตวงคุณ ทรงธรรมวัฒน์ 12 คาดหมายไม่ได้ เตชสิทธิ์ ชูแก้ว 6 ข้างมาก ธนกร ถาวรชินโชติ 6 คาดหมายไม่ได้ ธนชัย แซ่จึง 12 ข้างมาก ธนภัทร ตวงวิไล 15 ข้างมาก ธวัช สุระบาล 1 ข้างมาก ธารนี ปรีดาสันติ์ 12 ข้างมาก นงลักษณ์ ก้านเขียว 4 ข้างมาก นพดล พริ้งสกุล 13 ข้างมาก นฤพล สุคนธชาติ 16 ข้างมาก นวลนิจ หงษ์วิวัฒน์ 19 คาดหมายไม่ได้ นิคม มากรุ่งแจ้ง 10 คาดหมายไม่ได้ นิทัศน์ อารีย์วงศ์สกุล 10 ข้างมาก นิพนธ์ เอกวานิช 9 ข้างมาก นิฟาริด ระเด่นอาหมัด 3 ข้างมาก นิรัตน์ อยู่ภักดี 8 ข้างมาก นิรุตติ สุทธินนท์ 17 ข้างมาก นิเวศ พันธ์เจริญวรกุล 15 ข้างมาก นิสิทธิ์ ปนกลิ่น 6 ข้างมาก บุญจันทร์ นวลสาย 2 ข้างมาก บุญชอบ สระสมทรัพย์ 4 ข้างมาก เบ็ญจมาศ อภัยทอง 9 ข้างมาก ประกาสิทธิ์ พลซา 7 ข้างมาก ประเทือง มนตรี 15 ข้างมาก ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล 4 ข้างมาก ประไม หอมเทียม 17 คาดหมายไม่ได้ ปราณีต เกรัมย์ 16 ข้างมาก ปวีณา สาระรัมย์ 5 ข้างมาก ปุณณภา จินดาพงษ์ 12 ข้างมาก พรเพิ่ม ทองศรี 13 ข้างมาก พละวัต ตันศิริ 12 ข้างมาก พิชาญ พรศิริประทาน 9 ข้างมาก พิมาย คงทัน 5 ข้างมาก พิศูจน์ รัตนวงศ์ 11 ข้างมาก พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ 11 ข้างมาก เพลินจิต ขันแก้ว 4 ข้างมาก ภมร เชาว์ศิริกุล 20 ข้างมาก ภาณุพงษ์ เต็งวงษ์วัฒนะ 17 ข้างมาก ภาวนา ว่องอมรนิธิ 11 ข้างมาก มยุรี โพธิแสน 14 ข้างมาก มังกร ศรีเจริญกูล 10 คาดหมายไม่ได้ มาเรีย เผ่าประทาน 6 ข้างมาก ยะโก๊ป หีมละ 6 คาดหมายไม่ได้ ยุทธนา ไทยภักดี 20 ข้างมาก รจนา เพิ่มพูล 12 ข้างมาก รัชนีกร ทองทิพย์ 16 ข้างน้อย รุจิภาส มีกุศล 10 ข้างมาก ฤชุ แก้วลาย 4 ข้างมาก วร หินดี 1 ข้างมาก วรรษมนต์ คุณแสน 9 ข้างมาก วราภัสร์ ไพพรรณรัตน์ 12 ข้างมาก วราวุธ ตีระนันทน์ 20 คาดหมายไม่ได้ วลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒน์ 20 ข้างมาก วันไชย เอกพรพิชญ์ 2 คาดหมายไม่ได้ วาสนา ยศสอน 14 คาดหมายไม่ได้ วิเชียร ชัยสถาพร 16 ข้างมาก วิภาพร ทองโสด 7 ข้างมาก วิรัตน์ ธรรมบำรุง 6 ข้างมาก วิรัตน์ รักษ์พันธ์ 20 ข้างมาก วิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล 16 ข้างมาก วิวัฒน์ รุ้งแก้ว 3 ข้างมาก วุฒิชาติ กัลยาณมิตร 11 ข้างมาก วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ 13 ข้างมาก ศุภชัย กิตติภูติกุล 18 ข้างมาก ศุภโชค ศาลากิจ 17 ข้างมาก เศก จุลเกษร 2 ข้างมาก สมชาย นุ่มพูล 5 ข้างมาก สมดุลย์ บุญไชย 15 ข้างมาก สมทบ ถีระพันธ์ 3 ข้างมาก สมบูรณ์ หนูนวล 4 ข้างมาก สมพร วรรณชาติ 7 ข้างมาก สมพาน พละศักดิ์ 10 ข้างมาก สมศรี อุรามา 9 ข้างมาก สมศักดิ์ จันทร์แก้ว 5 ข้างมาก สรชาติ สุวรรณพรหม 13 ข้างมาก สวัสดิ์ ทัศนา 1 ข้างมาก สัมพันธ์ ชัยวิเศษจินดา 8 ข้างมาก สามารถ รังสรรค์ 3 ข้างมาก สายฝน กองแก้ว 17 ข้างมาก สาลี สิงห์คำ 5 ข้างมาก สิทธิกร ธงยศ 19 ข้างมาก สืบศักดิ์ แววแก้ว 2 ข้างมาก สุกิจ ทั่งทอง 1 คาดหมายไม่ได้ สุทนต์ กล้าการขาย 18 ข้างมาก สุทิน แก้วพนา 3 ข้างมาก สุเทพ สังข์วิเศษ 3 ข้างมาก สุนทร ขวัญเพ็ชร 2 ข้างมาก สุนทร เชาว์กิจค้า 10 ข้างมาก ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน 18 ข้างมาก สุพัตรชัย เตียวเจริญโสภา 13 ข้างมาก สุมิตรา จารุกำเนิดกนก 9 ข้างมาก สุริยา บาราสัน 2 ข้างมาก สุวิช จำปานนท์ 16 ข้างมาก สุวิทย์ ขาวดี 11 ข้างมาก โสภณ ผาสุข 3 ข้างมาก โสภณ มะโนมะยา 10 ข้างมาก อจลา ณ ระนอง 14 ข้างมาก อภิชา เศรษฐวราธร 8 ข้างมาก อภิชาติ งามกมล 1 ข้างมาก อมร ศรีบุญนาค 5 ข้างมาก อมรศักดิ์ กิจธนานันท์ 7 คาดหมายไม่ได้ อลงกต วรกี 20 ข้างมาก อะมัด อายุเคน 16 ข้างมาก อัครวินท์ ขำขุด 11 ข้างมาก อัจฉรพรรณ หอมรส 14 ข้างมาก อัษฎางค์ แสวงการ 3 ข้างมาก อารีย์ บรรจงธุระการ 18 ข้างมาก อิสระ บุญสองชั้น 6 ข้างมาก เอนก วีระพจนานันท์ 19 ข้างมาก เอมอร ศรีกงพาน 16 ข้างมาก
เสียงไม่แตกอนุมัติพระราชกำหนด 3 ฉบับ
ในรอบหนึ่งปีการทำงานของ สว. อนุมัติพ.ร.ก. ไปสามฉบับ เกี่ยวกับภาษีส่วนเพิ่ม และอีกสองฉบับเกี่ยวกับการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์
พ.ร.ก.ภาษีส่วนเพิ่ม พ.ศ. 2567 ในการประชุมวุฒิสภา เมื่อ 13 มกราคม 2568 ที่ประชุมวุฒิสภามีมติอนุมัติพ.ร.ก. ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 178 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง จากบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง
พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 เมื่อ 29 พฤษภาคม 2568 ที่ประชุมวุฒิสภามีมติอนุมัติพ.ร.ก. ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 181 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 0 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง จากรจนา เพิ่มพูล
พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 เมื่อ 29 พฤษภาคม 2568 ที่ประชุมวุฒิสภามีมติอนุมัติพ.ร.ก. ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 176 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง จากมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง
พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ รวม 20 ฉบับ กฎหมายงบประมาณ 2 ฉบับ ผ่านทุกด่าน 16 ฉบับ
ในรอบหนึ่งปีการทำงานของ สว. จากสมัยประชุมแรก สมัยประชุมที่สอง และสมัยประชุมวิสามัญ ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 จนถึง 30 พฤษภาคม 2568 มีร่าง พ.ร.บ. ที่เข้าสู่การพิจารณาของ สว. รวม 20 ฉบับ ในจำนวนนี้มีสองฉบับที่เป็นร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ที่เหลืออีก 18 ฉบับ เป็นร่างพ.ร.บ.ทั่วไป โดยมีร่างหนึ่งฉบับที่พิจารณาต่อจาก สว. ชุดพิเศษ หนึ่งฉบับที่ผ่านวาระหนึ่งแล้ว ที่เหลืออีก 16 ฉบับเป็นร่างที่ผ่านครบทั้งสามวาระ
ในจำนวน 16 ฉบับ มีสามฉบับที่พิจารณา “สามวาระรวด” ในการประชุมนัดเดียว และมีอีกสามฉบับที่ สว. “แก้ไข” ปรับเปลี่ยนเนื้อหาแตกต่างจากร่างที่ผ่านมือ สส. มาแล้ว คือ 1) ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ 2) ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 และ 3) ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ร่างพ.ร.บ.ทั้งสามฉบับนี้ จึงมีกระบวนการพิจารณาที่ “ลากยาว” กว่าร่างกฎหมายฉบับอื่นๆ ที่ สว. ไม่ได้แก้
ผ่านกฎหมายต่อจาก สว.ชุดพิเศษ 1 ฉบับ
ร่างพ.ร.บ. ที่สว.ชุดนี้พิจารณาต่อจาก สว.ชุดพิเศษ คือ ร่างพ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. กระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ คาบเกี่ยวระหว่างวุฒิสภาสองชุด โดยเข้าสู่การพิจารณาวาระหนึ่งของ สว. ชุดพิเศษ เมื่อสว. ชุดพิเศษแก้ไขเนื้อหาร่างดังกล่าว แต่ฝั่งสภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข ทำให้ต้องตั้งกมธ. ร่วมกันกับ สส. โดยวันที่ 13 สิงหาคม 2567 สว. มีมติตั้งกมธ. ร่วม เมื่อกมธ. พิจารณาร่างแล้วเสร็จ ได้ส่งกลับมายังวุฒิสภา เมื่อ 28 ตุลาคม 2567 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 167 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง โดยเสียงงดออกเสียง มาจากพล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ บุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานสภา และมานะ มหาสุวีระชัย และสากล ภูลศิริกุล
ผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2 ฉบับ เพิ่มเติมงบกลางปี 2567 โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเสียงค้านเยอะสุด
ในจำนวนร่างกฎหมายระดับพ.ร.บ. ที่ สว. พิจารณาแล้ว 20 ฉบับ มีสองฉบับเป็นร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ได้แก่
ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. …. ซึ่งต่อมาประกาศเป็นพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. 2567 ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 6 สิงหาคม 2567 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 139 เสียง ไม่เห็นด้วย 38 เสียง งดออกเสียง 18 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง
ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งต่อมาประกาศเป็น พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 9 กันยายน 2567 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 174 เสียง ไม่เห็นด้วย 3 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง
หากเปรียบเทียบกับคะแนนเสียงผลการลงมติร่างพ.ร.บ.ทั่วไปอีก 18 ฉบับที่ สว. พิจารณาแล้ว พบว่า ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ สว. มีทิศทางการลงมติที่ “ต่าง” กันอยู่บ้าง โดยเฉพาะพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. 2567 ที่เพิ่มวงเงินงบประมาณงบกลาง 1.22 แสนล้านบาทสำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะใช้สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อเทียบคะแนนเสียง “ไม่เห็นด้วย” แล้ว ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นร่างพ.ร.บ.ที่ได้รับเสียงไม่เห็นด้วยจาก สว. เยอะที่สุดในบรรดาร่างพ.ร.บ. 20 ฉบับที่ สว. พิจารณา
เสียงที่โหวต “เห็นด้วย” กับพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. 2567 ส่วนใหญ่ สว. กลุ่มข้างมาก คือ ที่ครองเสียงข้างมากในสภาสูง มี สว. ขณะที่เสียงไม่เห็นด้วย 38 เสียง มาจาก สว. ทั้งสามกลุ่ม ข้างมาก ข้างน้อย และคาดหมายไม่ได้
38 สว. ที่โหวตไม่เห็นด้วย ได้แก่
ชื่อ นามสกุล กลุ่มที่ กลุ่ม กัลยา ใหญ่ประสาน 5 ข้างน้อย ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ 15 ข้างมาก ชาญวิศว์ บรรจงการ 13 ข้างมาก ชูชาติ อินสว่าง 5 ข้างมาก ณภพ ลายวิเศษกุล 11 คาดหมายไม่ได้ เดชา นุตาลัย 5 ข้างมาก ตวงคุณ ทรงธรรมวัฒน์ 12 คาดหมายไม่ได้ ธนกร ถาวรชินโชติ 6 คาดหมายไม่ได้ นพดล พริ้งสกุล 13 ข้างมาก นรเศรษฐ์ ปรัชญากร 9 ข้างน้อย นิชาภา สุวรรณนาค 5 คาดหมายไม่ได้ ปฏิมา จีระแพทย์ 8 คาดหมายไม่ได้ ประภาส ปิ่นตบแต่ง 17 ข้างน้อย ประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล 17 ข้างน้อย ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ 3 คาดหมายไม่ได้ ปิยพัฒน์ สุภาวรรณ 7 ข้างมาก ปุณณภา จินดาพงษ์ 12 ข้างมาก เปรมศักดิ์ เพียยุระ 4 ข้างน้อย พรชัย วิทยเลิศพันธุ์ 19 ข้างน้อย มณีรัฐ เขมะวงค์ 9 ข้างน้อย มังกร ศรีเจริญกูล 10 คาดหมายไม่ได้ รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร 1 คาดหมายไม่ได้ รัชนีกร ทองทิพย์ 16 ข้างน้อย วันไชย เอกพรพิชญ์ 2 คาดหมายไม่ได้ วาสนา ยศสอน 14 คาดหมายไม่ได้ วิธาวีร์ ประทุมสวัสดิ์ 4 ข้างมาก วีรยุทธ สร้อยทอง 12 ข้างน้อย วีระพันธ์ สุวรรณนามัย 4 ข้างมาก วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ 13 ข้างมาก ศรายุทธ ยิ้มยวน 15 คาดหมายไม่ได้ เศรณี อนิลบล 6 คาดหมายไม่ได้ สมศักดิ์ จันทร์แก้ว 5 ข้างมาก สุกิจ ทั่งทอง 1 คาดหมายไม่ได้ สุนทร พฤกษพิพัฒน์ 19 ข้างน้อย สุพัตรชัย เตียวเจริญโสภา 13 ข้างมาก อภินันท์ เผือกผ่อง 1 ข้างน้อย อังคณา นีละไพจิตร 17 ข้างน้อย เอกชัย เรืองรัตน์ 20 คาดหมายไม่ได้
ขณะที่เสียงโหวต งดออกเสียง 18 เสียง มาจาก
ชื่อ นามสกุล กลุ่มที่ กลุ่ม กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ 18 คาดหมายไม่ได้ กานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ 14 คาดหมายไม่ได้ เกรียงไกร ศรีรักษ์ 1 รองประธานวุฒิสภา คนที่สาม เกียรติชาย ไมตรีวงษ์ 8 ข้างน้อย ชวพล วัฒนพรมงคล 16 คาดหมายไม่ได้ เทวฤทธิ์ มณีฉาย 18 ข้างน้อย ธณตศกร บุราคม 14 คาดหมายไม่ได้ นพดล อินนา 8 คาดหมายไม่ได้ นันทนา นันทวโรภาส 18 ข้างน้อย นิพนธ์ เอกวานิช 9 ข้างมาก บุญส่ง น้อยโสภณ 2 รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง มงคล สุระสัจจะ 1 ประธานวุฒิสภา ยะโก๊ป หีมละ 6 คาดหมายไม่ได้ แล ดิลกวิทยรัตน์ 7 ข้างน้อย วราวุธ ตีระนันทน์ 20 คาดหมายไม่ได้ วิวัฒน์ รุ้งแก้ว 3 ข้างมาก อมรศักดิ์ กิจธนานันท์ 7 คาดหมายไม่ได้ อังกูร คล้ายคลึง 2 คาดหมายไม่ได้
ส่วนผู้ที่โหวต ไม่ลงคะแนนเสียง คือ นิสิทธิ์ ปนกลิ่น สว. กลุ่มข้างมาก
ส่วนร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เสียงที่ไม่เห็นด้วย 3 เสียง มาจาก 1) พรชัย วิทยเลิศพันธุ์ สว. กลุ่มข้างน้อย 2) วิธาวีร์ ประทุมสวัสดิ์ สว. กลุ่มข้างมาก 3) วีรยุทธ สร้อยทอง สว. กลุ่มข้างน้อย และงดออกเสียง 7 เสียง มาจาก
พล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง
ณภพ ลายวิเศษกุล สว. กลุ่มคาดหมายไม่ได้
ประภาส ปิ่นตบแต่ง สว. กลุ่มข้างน้อย
เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. กลุ่มข้างน้อย
มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา
สุนทร พฤกษพิพัฒน์ สว. กลุ่มข้างน้อย
อังคณา นีละไพจิตร สว. กลุ่มข้างน้อย
ผ่านกฎหมายวาระหนึ่ง 1 ฉบับ
สำหรับร่างพ.ร.บ.ที่ผ่าน สว. วาระหนึ่งมาแล้วและยังอยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณา คือ ร่างพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 31 มีนาคม 2568 ที่ประชุมรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 139 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง จะเห็นว่าโดยภาพรวมแล้ว “เสียงไม่แตก” โดยเสียงที่ไม่เห็นด้วย มาจาก นวลนิจ หงส์วิวัฒน์ ส่วนงดออกเสียง มาจาก บุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง และปฏิมา จีระแพทย์
ร่างพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เข้าสู่การพิจารณาในวาระสองและวาระสามของวุฒิสภาวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ซึ่งตรงกับสมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ปีที่สองของการทำงานของ สว. ชุดนี้ โดยวุฒิสภาลงมติเห็นชอบในวาระสามด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 105 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 12 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง
ผ่านร่างพ.ร.บ. ครบสามวาระ 16 ฉบับ 3 ฉบับโหวตผ่านสามวาระรวดในนัดเดียว
ในจำนวนร่างพ.ร.บ.ทั่วไปที่ผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาครบทั้งสามวาระ มีสามฉบับที่ สว. ใช้วิธีพิจารณา “สามวาระรวด” ในการประชุมนัดเดียว โดยตั้ง กมธ.เต็มสภาเพื่อพิจารณาวาระสอง ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ.2562 ซึ่งร่างพ.ร.บ.ทั้งสามฉบับ มีจำนวนบทบัญญัติน้อย เนื้อหาสั้น
ร่างพ.ร.บ. สามฉบับที่ สว. พิจารณาสามวาระรวด ได้แก่
ร่างพ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2559 เรื่อง คณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการกำหนดอำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงวันที่ 4 เมษายน พุทธศักราช 2559 พ.ศ. …. ซึ่งต่อมาประกาศเป็น พ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2559 เรื่อง คณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการกำหนดอำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงวันที่ 4 เมษายน พุทธศักราช 2559 พ.ศ. 2567 ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 13 สิงหาคม 2567 ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 184 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง หลังพิจารณาด้วยกมธ. เต็มสภาในวาระสองแล้วเสร็จ ได้ลงมติเห็นชอบในวาระสามด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 189 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง จากประธานและรองประธานวุฒิสภาทั้งสามราย ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง กระบวนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ใช้เวลาพิจารณาสามชั่วโมง 33 นาที (ดูย้อนหลังได้ที่นี่ ตั้งแต่นาทีที่ 9:10 ถึงนาทีที่ 3:43:05)
ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งต่อมาประกาศเป็นพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 25) พ.ศ. 2568 หรือกฎหมายไม่ตีเด็ก ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 16 ธันวาคม 2567 ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 186 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง จาก ชูชาติ อินสว่าง และชูชีพ เอื้อการณ์ ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง และลงมติเห็นชอบในวาระสาม ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 181 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง จากพล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง จากนฤพล สุคนธชาติ กระบวนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ใช้เวลาพิจารณาหนึ่งชั่วโมง 59 นาที (ดูย้อนหลังได้ที่นี่ ตั้งแต่นาทีที่ 57:30 ถึงนาทีที่ 2:56:02)
ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งต่อมาประกาศเป็นพ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 29 พฤษภาคม 2568 ที่ประชุมรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 157 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 0 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง และเห็นชอบในวาระสามด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 164 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 0 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง กระบวนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ใช้เวลาพิจารณา 24 นาที (ดูย้อนหลังได้ที่นี่ ตั้งแต่นาทีที่ 3:35:25 ถึงนาทีที่ 3:59:57)
ขณะที่ร่างพ.ร.บ. อีก 13 ฉบับที่เหลือ มีสามฉบับ ที่ สว. แก้ไขเนื้อหาร่างที่ผ่าน สส. มาแล้ว ได้แก่
ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 27 สิงหาคม 2567 ที่ประชุมรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 179 เสียง ไม่เห็นด้วย 5 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง ต่อมาในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 21 ตุลาคม 2567 ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเห็นชอบในวาระสามด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 167 เสียง ไม่เห็นด้วย 19 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 2 เสียง
ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. …. ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 13 มกราคม 2568 ที่ประชุมรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 165 เสียง ไม่เห็นด้วย 11 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง ต่อมาในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเห็นชอบในวาระสามด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 141 เสียง ไม่เห็นด้วย 3 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง
ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. …. ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ประชุมรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 164 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง ต่อมาในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 8 เมษายน 2568 ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเห็นชอบในวาระสามด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 124 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 8 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 2 เสียง
อีก 10 ฉบับ ผ่านทั้งสามวาระโดยที่ สว. ไม่ได้แก้ไข และประกาศเป็นกฎหมายแล้ว โดยภาพรวมแล้วเสียงแทบไม่แตก มีฉบับเดียวที่มีผู้ลงมติงดออกเสียงเยอะกว่าฉบับอื่นๆ คือร่างพ.ร.บ.อำนาจเรียกของคณะ กมธ.ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
ร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งต่อมาประกาศเป็นพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2567 ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 13 สิงหาคม 2567 ที่ประชุมมีมติรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่ง ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 187 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง มงคล สุระสัจจะ พล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ ประธานและรองประธานวุฒิสภา และพล.ท. สุกิจ ทั่งทอง ต่อมาในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 16 กันยายน 2567 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในวาระสาม ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 172 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง จากศุภโชค ศาลากิจ งดออกเสียง 4 เสียง มงคล สุระสัจจะ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ประธานและรองประธานวุฒิสภา และรัชนีกร ทองทิพย์ แล ดิลกวิทยรัตน์
ร่างพ.ร.บ.สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งต่อมาประกาศเป็นพ.ร.บ.สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 7 ตุลาคม 2567 ที่ประชุมมีมติรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 170 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง จากประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล งดออกเสียง 3 เสียง จากพล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ปฏิมา จีระแพทย์ และอังคณา นีละไพจิตร ต่อมาในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 28 ตุลาคม 2567 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในวาระสาม ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 168 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง จากบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง และชาญวิศว์ บรรจงการ
ร่างพ.ร.บ.การอุดมศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งต่อมาประกาศเป็นพ.ร.บ.การอุดมศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 22 ตุลาคม 2567 ที่ประชุมรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 158 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง จากน.ต. วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ งดออกเสียง 3 เสียง พล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา นันทนา นันทวโรภาส และวิธาวีร์ ประทุมสวัสดิ์ ไม่ลงคะแนนเสียง 2 เสียง จารุณี ฤกษ์ปราณี และสุนทร พฤกษพิพัฒน์ ต่อมาในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 16 ธันวาคม 2567 ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเห็นชอบในวาระสามด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 171 เสียง ไม่เห็นด้วย 4 เสียง จากกัลยา ใหญ่ประสาน มณีรัฐ เขมะวงค์ รัชนีกร ทองทิพย์อังคณา นีละไพจิตร งดออกเสียง 2 เสียง จากจุฑารัตน์ นิลเปรม นันทนา นันทวโรภาส ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง
ร่างพ.ร.บ.การส่งเสริมวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งต่อมาประกาศเป็นพ.ร.บ.การส่งเสริมวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 22 ตุลาคม 2567 ที่ประชุมรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 161 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง โดยงดออกเสียงมาจากพล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง และนันทนา นันทวโรภาส ต่อมาในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 16 ธันวาคม 2567 ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเห็นชอบในวาระสามด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 171 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง จากนันทนา นันทวโรภาส อังคณา นีละไพจิตร ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง
ร่างพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งต่อมาประกาศเป็นพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 22 ตุลาคม 2567 ที่ประชุมรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 162 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง โดยงดออกเสียงมาจากพล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง และนันทนา นันทวโรภาส ต่อมาในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 16 ธันวาคม 2567 ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเห็นชอบในวาระสามด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 178 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง โดยงดออกเสียงมาจาก บุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง และนันทนา นันทวโรภาส
ร่างพ.ร.บ.สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งต่อมาประกาศเป็นพ.ร.บ.สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 22 ตุลาคม 2567 ที่ประชุมรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 164 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง โดยงดออกเสียงมาจากพล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง และนันทนา นันทวโรภาส ต่อมาในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 16 ธันวาคม 2567 ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเห็นชอบในวาระสามด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 181 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง จากบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง และนันทนา นันทวโรภาส ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง สุพัตรชัย เตียวเจริญโสภา
ร่างพ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งต่อมาประกาศเป็นพ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2568 ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 6 มกราคม 2568 ที่ประชุมรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 172 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง จากพงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต งดออกเสียง 1 เสียง จากพล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง ต่อมาในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเห็นชอบในวาระสามด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 154 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง จากเบ็ญจมาศ อภัยทอง งดออกเสียง 2 เสียง จากพล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง และอังคณา นีละไพจิตร ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง
ร่างพ.ร.บ.อำนาจเรียกของคณะ กมธ.ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. …. ซึ่งต่อมาประกาศเป็นพ.ร.บ.อำนาจเรียกของคณะ กมธ.ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2568 ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 27 มกราคม 2568 ที่ประชุมรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 177 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง โดยงดออกเสียงมาจาก มงคล สุระสัจจะ พล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ ประธานและรองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง และนันทนา นันทวโรภาส ต่อมาในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 3 มีนาคม 2568 ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเห็นชอบในวาระสามด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 150 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง จากประทุม วงศ์สวัสดิ์ งดออกเสียง 16 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง
งดออกเสียง 16 เสียง มาจาก
พล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์
ชวพล วัฒนพรมงคล
ณภพ ลายวิเศษกุล
เทวฤทธิ์ มณีฉาย
นันทนา นันทวโรภาส
นิคม มากรุ่งแจ้ง
ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ
ปิยพัฒน์ สุภาวรรณ
พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต
พรชัย วิทยเลิศพันธุ์
มงคล สุระสัจจะ
มณีรัฐ เขมะวงค์
พล.ท. สุกิจ ทั่งทอง
สุนทร พฤกษพิพัฒน์
โสภณ มะโนมะยา
เอกชัย เรืองรัตน์
ร่างพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งต่อมาประกาศเป็นพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 27 มกราคม 2568 ที่ประชุมรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 180 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง จากชาญวิศว์ บรรจงการ งดออกเสียง 4 เสียง พล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง บุญส่ง น้อยโสภณ มาเรีย เผ่าประทาน วีระพันธ์ สุวรรณนามัย ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง ต่อมาในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 10 มีนาคม 2568 ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเห็นชอบในวาระสามด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 167 เสียง ไม่เห็นด้วย 3 เสียง ว่าที่ พ.ต. กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ ชาญวิศว์ บรรจงการ อังคณา นีละไพจิตร งดออกเสียง 8 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง
งดออกเสียง 8 เสียง มาจาก
นันทนา นันทวโรภาส
บุญส่ง น้อยโสภณ
พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต
มงคล สุระสัจจะ
มานะ มหาสุวีระชัย
มาเรีย เผ่าประทาน
วีระพันธ์ สุวรรณนามัย
สามารถ รังสรรค์
ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พ.ศ. …. ซึ่งต่อมาประกาศเป็นพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พ.ศ. 2568 ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 11 มีนาคม 2568 ที่ประชุมรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 153 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง จากชาญวิศว์ บรรจงการ งดออกเสียง 2 เสียง จากบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง และสุนทร พฤกษพิพัฒน์ ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง ต่อมาในการประชุมวุฒิสภาเมื่อ 1 เมษายน 2568 ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเห็นชอบในวาระสามด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 144 เสียง ไม่เห็นด้วย 4 เสียง จากชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ รัชนีกร ทองทิพย์ พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง และอังคณา นีละไพจิตร งดออกเสียง 4 เสียง จากชูชีพ เอื้อการณ์ นันทนา นันทวโรภาส ประภาส ปิ่นตบแต่ง และพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง
แก้ไขร่างกฎหมาย 3 ฉบับ ประชามติ-ประมง-ชาติพันธุ์
จากร่างพ.ร.บ.ที่ผ่านการพิจารณาของ สว. มา มีสามฉบับที่วุฒิสภามีมติแก้ไขเพิ่มเติมและให้ส่งกลับไปยังสส. ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (ร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ) ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. …. (ร่างพ.ร.บ.ประมงฯ) และกลุ่มร่างพ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. …. (ร่าง พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ฯ)
แก้ไขร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ เดินแนวตามพรรคภูมิใจไทยขอใช้เสียงข้างมากสองชั้นกับแก้รัฐธรรมนูญ
ร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ ที่เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระหนึ่งมีสี่ฉบับซึ่งเสนอโดยคณะรัฐมนตรี สส.พรรคก้าวไกล สส. พรรคเพื่อไทย สส.พรรคภูมิใจไทย ประเด็นสำคัญคือการแก้ไข “เสียงข้างมากสองชั้น” (Double Majority) ที่อาจเป็นเงื่อนไขในการทำประชามติ หาข้อยุติได้ยาก ตามพ.ร.บ.ประชามติ พ.ศ.2564 กำหนดให้การทำประชามติจะเป็นที่ยุติได้จะต้องผ่านสองเงื่อนไข 1) ต้องมีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง 2) ต้องมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียง
ร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ ฉบับที่ผ่านการพิจารณาวาระสามของสภาผู้แทนราษฎร กำหนดใช้เสียงข้างมากธรรมดา (Single Majority) แทน โดยกำหนดว่า การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่ทำประชามติ ให้ถือเสียงข้างมากของผู้มาออกเสียง โดยเสียงข้างมากนั้นต้องสูงกว่าคะแนนเสียงที่ไม่แสดงความคิดเห็น อย่างไรก็ดี เมื่อถึงชั้นวุฒิสภา สว. กลับแก้ไขเนื้อหาร่าง โดยกำหนดให้ใช้เสียงข้างมากสองชั้นสำหรับการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 256 และตามมติของคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ ถูกส่งกลับไปให้สภาผู้แทนราษฎร สภามีมติไม่เห็นชอบกับร่างที่วุฒิสภาแก้ นำไปสู่การตั้ง กมธ.ร่วมกันเพื่อพิจารณา ซึ่ง กมธ.ข้างมากยืนยันเนื้อหาร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ ตามที่ฝั่งวุฒิสภาแก้ไข เมื่อส่งร่างกลับไปวุฒิสภา แม้วุฒิสภาจะเห็นด้วยกับร่าง แต่ฝั่งสภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นด้วย ยับยั้งร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ ไว้ 180 วัน ต่อมาเมื่อ 16 กรกฎาคม 2568 สภาผู้แทนราษฎรมีมติยืนยันเนื้อหาร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ ฉบับที่ผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร ใช้เสียงข้างมากธรรม โดยสรุปแม้เนื้อหาร่างที่จะประกาศใช้จะไม่ได้ “พลิกล็อก” จากธงเดิมที่ฝั่ง สส. ตั้งไว้ แต่ก็ “ถ่วงเวลา” การพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ ให้ลากยาวออกไปอีก
จากข้อมูลการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ ชั้นวุฒิสภา พบข้อสังเกต ดังนี้
กมธ. วาระสอง สว.ข้างมากครองพื้นที่
ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ ชั้นวุฒิสภา ได้ตั้งคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาจำนวน 25 คน เพื่อพิจารณาในวาระสอง โดยในจำนวนนี้มี 19 คนที่เป็น สว. แบ่งได้เป็น สว. จากกลุ่มข้างมาก 16 คน ข้างน้อยหนึ่งคน คือ รศ.นันทนา นันทวโรภาส รองโฆษกคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม) และสว. กลุ่มคาดหมายไม่ได้ สองคน คือ ตวงคุณ ทรงธรรมวัฒน์ รองประธานคณะ กมธ. คนที่สอง (สว. จากกลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม) และพล.ต.ต. อังกูร คล้ายคลึง รองประธานคณะ กมธ. คนที่สี่ (สว. จากกลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม)
สว. 16 ข้างมากคนที่เป็นกมธ. ได้แก่
พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ แสงเพชร ประธานคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม)
เอมอร ศรีกงพาน รองประธานคณะ กมธ. คนที่หนึ่ง (สว. จากกลุ่มศิลปวัฒนธรรม ดนตรีการแสดง บันเทิง นักกีฬา)
อจลา ณ ระนอง รองประธานคณะ กมธ. คนที่สาม (สว. จากกลุ่มสตรี)
พิชาญ พรศิริประทาน เลขานุการคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางขนาดย่อม)
ภาณุพงษ์ เต็งวงษ์วัฒนะ รองเลขานุการคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มประชาสังคม องค์กรสาธารณประโยชน์)
ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล โฆษกคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม)
สากล ภูลศิริกุล ที่ปรึกษาคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มประชาสังคม องค์กรสาธารณประโยชน์)
กิตติพันธ์ อนันตกูลจิรโชติ กมธ. (สว. จากกลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม)
เดชา นุตาลัย กมธ. (สว. จากกลุ่มอาชีพทำนาและปลูกพืชล้มลุก)
นงลักษณ์ ก้านเขียว กมธ. (สว. จากกลุ่มการสาธารณสุข)
ประกาสิทธิ์ พลชา กมธ. (สว. จากกลุ่มพนักงาน หรือลูกจ้างของบุคคล ซึ่งไม่ใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ)
วราภัสร์ ไพพรรณรัตน์ กมธ. (สว. จากกลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม)
สมดุลย์ บุญไชย กมธ. (สว. จากกลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการทุพพลภาพ ชาติพันธุ์)
สมบูรณ์ หนูนวล กมธ. (สว. จากกลุ่มการสาธารณสุข)
สุพัตรชัย เตียวเจริญโสภา กมธ. (สว. จากกลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม)
อมร ศรีบุญนาค กมธ. (สว. จากกลุ่มอาชีพทำนาและปลูกพืชล้มลุก)
กมธ.สายสว.ข้างมาก ดันเสียงข้างมากสองชั้น
หลังจากสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ ทั้งสามวาระแล้วเสร็จ ก็ส่งไม้ต่อให้วุฒิสภา ในวันที่ 27 สิงหาคม 2567 ที่ประชุมวุฒิสภาได้ลงมติรับร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ ในวาระหนึ่ง และตั้งกมธ. วิสามัญเพื่อพิจารณาเชิงรายละเอียด โดยกมธ. นัดประชุมทุกวันพุธ สัปดาห์ละหนึ่งวัน ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม ถึงวันที่ 25 กันยายน 2567
การประชุมกมธ. ดำเนินมาถึงเรื่องสำคัญคือเงื่อนไขประชามติที่จะมีข้อยุติ ตามมาตรา 13 ในวันที่ 11 กันยายน 2567 ที่ประชุมกมธ. ยังมีมติให้คงไว้ตามร่างเดิมที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว โดยผศ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของกมธ. เสริมในประเด็นเรื่องเสียงข้างมากสองชั้นว่าอาจไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากนัก ควรกลับมาใช้หลักง่ายๆ อย่างเสียงข้างมากธรรมดา เพื่อให้การออกเสียงประชามติมีเงื่อนไขที่ไม่ซับซ้อนและสามารถดำเนินการได้ง่ายเหมือนกับการเลือกตั้ง สส. ปริญญายังยกตัวอย่างกรณีปัญหานิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร พบว่าหมู่บ้านหลายแห่งประสบปัญหาในการจัดประชุมนิติบุคคลเนื่องจากองค์ประชุมไม่ถึงกึ่งหนึ่งตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดแบบเสียงข้างมากสองชั้น ทำให้ขาดผู้มีสิทธิออกเสียงเข้าร่วมประชุม และผลที่ตามมาคือไม่สามารถตัดสินใจในประเด็นสำคัญได้
ในการประชุมนัดถัดมา 18 กันยายน 2567 กมธ. ยังคงมีมติไม่แก้ไขร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ มีเพียงแต่การเพิ่มเว้นวรรคหรือปรับปรุงวรรคตอนเท่านั้น แต่ไม่ได้แก้ไขข้อความ อย่างไรก็ดี สถานการณ์เริ่มส่อแวว “พลิกกลับ” ในการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 เมื่อพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. กลุ่มข้างมาก สว. กลุ่มที่ 11 กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว นักลงทุนอสังหาริมทริมทรัพย์ และเจ้าของที่พักโฮมสเตย์อ่าวจากอำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เสนอแปรญัตติแก้ไขโดยให้การออกเสียงประชามติในเรื่องที่เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะมีข้อยุติ ต้องใช้เสียง “เกินกว่ากึ่งหนึ่ง” ของผู้มีสิทธิออกเสียงในเรื่องที่ทำประชามติ
หลังจากนั้น กมธ. สว. หลายคน ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นสนับสนุนให้แก้ไขมาตรานี้ เช่น
สมบูรณ์ หนูนวล สว. กลุ่มเสียงข้างมาก จากกลุ่มที่ 4 กลุ่มการสาธารณสุข นักวิชาการสาธารณสุข สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช อดีตสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ซึ่งสมัคร สว. จากอำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร แสดงความเห็นสนับสนุนว่า การจัดทำประชามติกรณีเรื่องสำคัญๆ โดยเฉพาะการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หากใช้เกณฑ์คะแนนเสียงของผู้ออกมาใช้สิทธิเพียงอย่างเดียวน่าจะไม่เหมาะ แต่หากใช้หลักเกณฑ์เสียงข้างมากสองชั้นน่าจะเหมาะสมกว่า
สมดุลย์ บุญไชย สว. ข้างมากจากกลุ่มที่ 1 กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง อดีตข้าราชการครูจากอำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร แสดงความคิดเห็นว่า เห็นด้วยให้มีการพิจารณาทบทวนแก้ไขมาตรา 13 เนื่องจากการจัดทำประชามติตามมาตรา 13 ไม่ได้เป็นกรณีเฉพาะการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังครอบคลุมไปถึงเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญที่อาจจะต้องมีการจัดให้ออกเสียงประชามติด้วย จึงควรพิจารณาโดยละเอียดรอบคอบ
สุพัตรชัย เตียวเจริญโสภา สว. ข้างมาก กลุ่มที่ 13 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม จากอำเภอเมืองสุรินทร์ เจ้าของกิจการห้างหุ้นส่วนจำกัด สหะกล โอ.เอ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอทีและเครื่องใช้สำนักงานในจังหวัดสุรินทร์ตั้งแต่ปี 2544 และเป็นเครือญาติกับธีระทัศน์ เตียวเจริญโสภา อดีต สส. สุรินทร์สามสมัย แสดงความเห็นว่า เห็นด้วยให้มีการพิจารณาทบทวนแก้ไขมาตรา 13 เนื่องจากการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ การกำหนดออกเสียงประชามติเพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญควรพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ
ภาณุพงษ์ เต็งวงษ์วัฒนะ สว. ข้างมากจากกลุ่มที่ 1 อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี พ.ศ.2545-2546 แสดงความเห็นว่า ควรทบทวนแก้ไขมาตรา 13 เนื่องจากการจัดทำประชามติจะมีผลต่อการตัดสินเรื่องสำคัญของประเทศ หากประชาชนออกมาใช้สิทธิน้อยก็จะมีผลกระทบในระยะยาว แต่หากกมธ. จะถือเอากำหนดเวลาเลือกตั้งท้องถิ่นซึ่งจะมีในช่วงต้นปี 2568 เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติ ให้ใช้บังคับทันการเลือกตั้งดังกล่าว น่าจะเร่งด่วนเกินไปอาจทำให้การพิจารณาร่างขาดความรอบคอบ
ต่อมา ที่ประชุมกมธ. ลงมติว่าจะพิจารณาแก้ไขมาตรา 13 ด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 17 คน ไม่เห็นด้วย 1 คน และงดออกเสียง 1 คน โดยกำหนดเนื้อหาร่างที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 13 ว่า
“มาตรา 13 การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติตามมาตรา 9 (2) (3) (4) หรือ (5) ให้ใช้เสียงข้างมากของผู้มาออกเสียง โดยคะแนนเสียงข้างมากต้องสูงกว่าคะแนนเสียงไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น
การออกเสียงจะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติตามมาตรา 9 (1) หรือ (2) เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ต้องมีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงและมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น”
(***หมายเหตุ : ข้อความที่ขีดเส้นใต้ คือข้อความที่กมธ. เสนอเพิ่มแก้ไขเพิ่มขึ้นมาจากร่างฉบับที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว)
สว. สายเสียงข้างมาก เห็นด้วยแก้ไขใช้เสียงข้างมากสองชั้น
เมื่อร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ เข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาในวาระสอง เสียงข้างมากก็โหวต “เห็นด้วย” กับข้อเสนอของกมธ.ข้างมากเพื่อให้ใช้เสียงข้างมากสองชั้น โดยสว. ที่โหวตเห็นด้วยส่วนใหญ่คือ สว.กลุ่มข้างมาก และมีบางส่วนที่เป็นสว. กลุ่มคาดหมายไม่ได้ ขณะที่ สว. สายข้างน้อยโหวตไปในทิศทางเดียวกันว่าไม่เห็นด้วย
สว. ฝั่งที่โหวตเห็นด้วย “พลิก” เนื้อหาร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ ใช้เสียงข้างมากสองชั้น 164 เสียง ประกอบด้วย
ชื่อ นามสกุล กลุ่มที่ กลุ่ม กมล รอดคล้าย 3 ข้างมาก กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ 18 คาดหมายไม่ได้ กฤษณุ เหลืองพิบูลกิจ 15 ข้างมาก กอบ อัจนากิตติ 20 ข้างมาก กัมพล ทองชิว 13 ข้างมาก กัมพล สุภาแพ่ง 11 ข้างมาก กานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ 14 คาดหมายไม่ได้ กิตติพันธ์ อนันตกูลจิรโชติ 15 ข้างมาก กิติศักดิ์ หมื่นศรี 19 ข้างมาก เกศกมล เปลี่ยนสมัย 19 ข้างมาก ขจรศักดิ์ ศรีวิราช 19 ข้างมาก ขวัญชัย แสนหิรัณย์ 13 ข้างมาก เข็มรัตน์ สุรเมธีมาณพ 7 ข้างมาก จตุพร เรียงเงิน 7 ข้างมาก จรุณ กลิ่นตลบ 6 ข้างมาก จารุณี ฤกษ์ปราณี 14 ข้างมาก จำลอง อนันตสุข 18 ข้างมาก จิระศักดิ์ ชูความดี 8 ข้างมาก จุฑารัตน์ นิลเปรม 14 ข้างมาก เจียระนัย ตั้งกีรติ 14 ข้างมาก ฉลอง ทองนะ 2 ข้างมาก ฉัตรวรรษ แสงเพชร 2 ข้างมาก ชญาน์นันท์ ติยะตระการชัย 9 ข้างมาก ชวพล วัฒนพรมงคล 16 คาดหมายไม่ได้ ชวภณ วัธนเวคิน 7 ข้างมาก ชัยธัช เพราะสุนทร 9 ข้างมาก ชาญชัย ไชยพิศ 17 ข้างมาก ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ 15 ข้างมาก ชาญวิศว์ บรรจงการ 13 ข้างมาก ชินโชติ แสงสังข์ 7 ข้างมาก ชีวะภาพ ชีวะธรรม 8 ข้างมาก ชูชาติ อินสว่าง 5 ข้างมาก ชูชีพ เอื้อการณ์ 20 คาดหมายไม่ได้ โชคชัย กิตติธเนศวร 19 ข้างมาก โชติชัย บัวดิษ 6 ข้างมาก ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล 18 ข้างมาก ณรงค์ จิตราช 12 ข้างมาก ณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย 14 ข้างมาก ณัฐกิตติ์ หนูรอด 20 ข้างมาก เดชา นุตาลัย 5 ข้างมาก แดง กองมา 10 ข้างมาก ตวงคุณ ทรงธรรมวัฒน์ 12 คาดหมายไม่ได้ เตชสิทธิ์ ชูแก้ว 6 ข้างมาก ธณตศกร บุราคม 14 คาดหมายไม่ได้ ธนกร ถาวรชินโชติ 6 คาดหมายไม่ได้ ธนชัย แซ่จึง 12 ข้างมาก ธนภัทร ตวงวิไล 15 ข้างมาก ธวัช สุระบาล 1 ข้างมาก ธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ 13 ข้างมาก ธารนี ปรีดาสันติ์ 12 ข้างมาก นงลักษณ์ ก้านเขียว 4 ข้างมาก นพดล พริ้งสกุล 13 ข้างมาก นพดล อินนา 8 คาดหมายไม่ได้ นฤพล สุคนธชาติ 16 ข้างมาก นิทัศน์ อารีย์วงศ์สกุล 10 ข้างมาก นิพนธ์ เอกวานิช 9 ข้างมาก นิฟาริด ระเด่นอาหมัด 3 ข้างมาก นิรัตน์ อยู่ภักดี 8 ข้างมาก นิรุตติ สุทธินนท์ 17 ข้างมาก นิเวศ พันธ์เจริญวรกุล 15 ข้างมาก นิสิทธิ์ ปนกลิ่น 6 ข้างมาก บุญจันทร์ นวลสาย 2 ข้างมาก บุญชอบ สระสมทรัพย์ 4 ข้างมาก เบ็ญจมาศ อภัยทอง 9 ข้างมาก ประกาสิทธิ์ พลซา 7 ข้างมาก ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล 4 ข้างมาก ประไม หอมเทียม 17 คาดหมายไม่ได้ ปราณีต เกรัมย์ 16 ข้างมาก ปวีณา สาระรัมย์ 5 ข้างมาก ปิยพัฒน์ สุภาวรรณ 7 ข้างมาก ปุณณภา จินดาพงษ์ 12 ข้างมาก พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต 12 คาดหมายไม่ได้ พรเพิ่ม ทองศรี 13 ข้างมาก พละวัต ตันศิริ 12 ข้างมาก พิชาญ พรศิริประทาน 9 ข้างมาก พิบูลย์อัฑฒ์ หฤหรรษ์ปราการ 16 ข้างมาก พิมาย คงทัน 5 ข้างมาก พิศูจน์ รัตนวงศ์ 11 ข้างมาก พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ 11 ข้างมาก เพลินจิต ขันแก้ว 4 ข้างมาก ไพบูลย์ ณะบุตรจอม 8 ข้างมาก ภมร เชาว์ศิริกุล 20 ข้างมาก ภาณุพงษ์ เต็งวงษ์วัฒนะ 17 ข้างมาก ภาวนา ว่องอมรนิธิ 11 ข้างมาก มยุรี โพธิแสน 14 ข้างมาก มังกร ศรีเจริญกูล 10 คาดหมายไม่ได้ มานะ มหาสุวีระชัย 13 คาดหมายไม่ได้ มาเรีย เผ่าประทาน 6 ข้างมาก ยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา 15 คาดหมายไม่ได้ ยุทธนา ไทยภักดี 20 ข้างมาก รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร 1 คาดหมายไม่ได้ รุจิภาส มีกุศล 10 ข้างมาก ฤชุ แก้วลาย 4 ข้างมาก วร หินดี 1 ข้างมาก วรรษมนต์ คุณแสน 9 ข้างมาก วราภัสร์ ไพพรรณรัตน์ 12 ข้างมาก วราวุธ ตีระนันทน์ 20 คาดหมายไม่ได้ วลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒน์ 20 ข้างมาก วันชัย แข็งการเขตร 4 ข้างมาก วันไชย เอกพรพิชญ์ 2 คาดหมายไม่ได้ วาสนา ยศสอน 14 คาดหมายไม่ได้ วิเชียร ชัยสถาพร 16 ข้างมาก วิธาวีร์ ประทุมสวัสดิ์ 4 ข้างมาก วิภาพร ทองโสด 7 ข้างมาก วิรัตน์ ธรรมบำรุง 6 ข้างมาก วิรัตน์ รักษ์พันธ์ 20 ข้างมาก วิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ 8 ข้างมาก วิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล 16 ข้างมาก วิวัฒน์ รุ้งแก้ว 3 ข้างมาก วีระพันธ์ สุวรรณนามัย 4 ข้างมาก วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี 1 ข้างมาก วุฒิชาติ กัลยาณมิตร 11 ข้างมาก วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ 13 ข้างมาก ศรายุทธ ยิ้มยวน 15 คาดหมายไม่ได้ ศุภชัย กิตติภูติกุล 18 ข้างมาก ศุภโชค ศาลากิจ 17 ข้างมาก เศก จุลเกษร 2 ข้างมาก สง่า ส่งมหาชัย 10 ข้างมาก สมชาย นุ่มพูล 5 ข้างมาก สมดุลย์ บุญไชย 15 ข้างมาก สมทบ ถีระพันธ์ 3 ข้างมาก สมบูรณ์ หนูนวล 4 ข้างมาก สมพร วรรณชาติ 7 ข้างมาก สมพาน พละศักดิ์ 10 ข้างมาก สมศรี อุรามา 9 ข้างมาก สมศักดิ์ จันทร์แก้ว 5 ข้างมาก สมหมาย ศรีจันทร์ 15 ข้างมาก สรชาติ สุวรรณพรหม 13 ข้างมาก สวัสดิ์ ทัศนา 1 ข้างมาก สหพันธ์ รุ่งโรจนพณิชย์ 10 คาดหมายไม่ได้ สัมพันธ์ ชัยวิเศษจินดา 8 ข้างมาก สากล ภูลศิริกุล 17 ข้างมาก สามารถ รังสรรค์ 3 ข้างมาก สายฝน กองแก้ว 17 ข้างมาก สาลี สิงห์คำ 5 ข้างมาก สิทธิกร ธงยศ 19 ข้างมาก สืบศักดิ์ แววแก้ว 2 ข้างมาก สุทนต์ กล้าการขาย 18 ข้างมาก สุทิน แก้วพนา 3 ข้างมาก สุเทพ สังข์วิเศษ 3 ข้างมาก สุนทร ขวัญเพ็ชร 2 ข้างมาก สุนทร เชาว์กิจค้า 10 ข้างมาก สุพรรณ์ ศรชัย 18 ข้างมาก สุพัตรชัย เตียวเจริญโสภา 13 ข้างมาก สุมิตรา จารุกำเนิดกนก 9 ข้างมาก สุริยา บาราสัน 2 ข้างมาก สุวิช จำปานนท์ 16 ข้างมาก สุวิทย์ ขาวดี 11 ข้างมาก โสภณ ผาสุข 3 ข้างมาก โสภณ มะโนมะยา 10 ข้างมาก อจลา ณ ระนอง 14 ข้างมาก อภิชา เศรษฐวราธร 8 ข้างมาก อภิชาติ งามกมล 1 ข้างมาก อมร ศรีบุญนาค 5 ข้างมาก อมรศักดิ์ กิจธนานันท์ 7 คาดหมายไม่ได้ อลงกต วรกี 20 ข้างมาก อะมัด อายุเคน 16 ข้างมาก อัครวินท์ ขำขุด 11 ข้างมาก อัจฉรพรรณ หอมรส 14 ข้างมาก อัษฎางค์ แสวงการ 3 ข้างมาก อารีย์ บรรจงธุระการ 18 ข้างมาก อิสระ บุญสองชั้น 6 ข้างมาก เอนก วีระพจนานันท์ 19 ข้างมาก เอมอร ศรีกงพาน 16 ข้างมาก
สว. ที่โหวตไม่เห็นด้วย 21 เสียง
ชื่อ นามสกุล กลุ่มที่ กลุ่ม กมล สุขคะสมบัติ 11 คาดหมายไม่ได้ กัลยา ใหญ่ประสาน 5 ข้างน้อย เกียรติชาย ไมตรีวงษ์ 8 ข้างน้อย ชิบ จิตนิยม 18 คาดหมายไม่ได้ เทวฤทธิ์ มณีฉาย 18 ข้างน้อย นรเศรษฐ์ ปรัชญากร 9 ข้างน้อย นวลนิจ หงษ์วิวัฒน์ 19 คาดหมายไม่ได้ นันทนา นันทวโรภาส 18 ข้างน้อย ประทุม วงศ์สวัสดิ์ 11 ข้างน้อย ประภาส ปิ่นตบแต่ง 17 ข้างน้อย ประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล 17 ข้างน้อย เปรมศักดิ์ เพียยุระ 4 ข้างน้อย พรชัย วิทยเลิศพันธุ์ 19 ข้างน้อย มณีรัฐ เขมะวงค์ 9 ข้างน้อย รัชนีกร ทองทิพย์ 16 ข้างน้อย แล ดิลกวิทยรัตน์ 7 ข้างน้อย วีรยุทธ สร้อยทอง 12 ข้างน้อย เศรณี อนิลบล 6 คาดหมายไม่ได้ สุนทร พฤกษพิพัฒน์ 19 ข้างน้อย อภินันท์ เผือกผ่อง 1 ข้างน้อย อังคณา นีละไพจิตร 17 ข้างน้อย
สว. ที่งดออกเสียง 9 เสียง
ชื่อ นามสกุล กลุ่มที่ กลุ่ม เกรียงไกร ศรีรักษ์ 1 รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ณภพ ลายวิเศษกุล 11 คาดหมายไม่ได้ นิคม มากรุ่งแจ้ง 10 คาดหมายไม่ได้ นิชาภา สุวรรณนาค 5 คาดหมายไม่ได้ ปฏิมา จีระแพทย์ 8 คาดหมายไม่ได้ ประเทือง มนตรี 15 ข้างมาก ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ 3 คาดหมายไม่ได้ มงคล สุระสัจจะ 1 ประธานวุฒิสภา อังกูร คล้ายคลึง 2 คาดหมายไม่ได้
ไม่ประสงค์ลงคะแนน 6 เสียง ได้แก่
ชื่อ นามสกุล กลุ่มที่ กลุ่ม บุญส่ง น้อยโสภณ 2 รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง ยะโก๊ป หีมละ 6 คาดหมายไม่ได้ รจนา เพิ่มพูล 12 ข้างมาก สมชาย เล่งหลัก 19 ข้างมาก สุกิจ ทั่งทอง 1 คาดหมายไม่ได้ เอกชัย เรืองรัตน์ 20 คาดหมายไม่ได้
แก้ไขร่างพ.ร.บ.ประมงฯ ห้ามใช้อวนตาถี่ทำประมงในเวลากลางคืน
ร่างพ.ร.บ.ประมงฯ นี้มีเป้าหมายเพื่อผ่อนปรนกฎระเบียบให้กับอุตสาหกรรมประมงพาณิชย์ ซึ่งมองว่ากฎหมายเดิมที่ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) และปลด "ใบเหลือง" ของสหภาพยุโรปนั้นเข้มงวดเกินไป ข้อเสนอในร่างพ.ร.บ.ประมงฯ ฉบับที่ผ่านการพิจารณาสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว มีประเด็นขัดแย้งมากที่สุด คือการผ่อนคลายกฎเกณฑ์เกี่ยวกับเครื่องมือประมงทำลายล้างสูง โดยเฉพาะการอนุญาตให้ใช้ "อวนล้อมจับ" ที่มีตาอวนขนาดเล็กในเวลากลางคืน ซึ่งกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและชาวประมงพื้นบ้านชี้ว่าจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อระบบนิเวศทางทะเล เป็นเหตุให้วุฒิสภามีมติแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ประมงฯ ที่ผ่านการพิจารณาเห็นชอบของสภามาแล้ว โดยมีสาระสำคัญที่แก้ไขเพิ่มเติมดังนี้
ห้ามทำประมงกลางคืน: แก้ไขให้มีการห้ามใช้เครื่องมืออวนล้อมจับที่มีช่องตาอวนเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ทำการประมงในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นการแก้ไขที่สวนทางกับร่างฉบับที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วโดยตรง
คุ้มครองสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหายาก: ตัดข้อยกเว้นความรับผิดของชาวประมงที่จับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลที่หายากหรือใกล้สูญพันธุ์ได้โดยบังเอิญ แม้จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติก็ตาม
เพิ่มความเข้มข้นของบทลงโทษ: กำหนดให้การกระทำผิดบางประการเป็น "ความผิดร้ายแรง" ตั้งแต่ครั้งแรก
แก้ไขคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตตามมาตรา 32 และ 36: เปลี่ยนตำแหน่งจากผู้มีคำสั่งตามมาตรา 113 ให้เป็นคณะกรรมการมาตรการทางปกครองแทนอธิบดี
แก้ไของค์ประกอบคณะกรรมการประมงประจำจังหวัด: ให้มีผู้แทนกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นกรรมการโดยตำแหน่งในจังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกับชายฝั่งทะเลหรือทะเลสาบสงขลา
จากข้อมูลการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประมงฯ ชั้นวุฒิสภา พบข้อสังเกต ดังนี้ช
สว. จากกลุ่มทำสวน-ประมงสี่คน ได้โควตานั่งกมธ. วาระสอง
ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประมง ชั้นวุฒิสภา ได้ตั้งคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาจำนวน 21 คน เพื่อพิจารณาในวาระสอง โดยในจำนวนนี้มี 17 คนที่เป็น สว. แบ่งได้เป็น สว. จากกลุ่มข้างมาก 10 คน ข้างน้อยสองคน และคาดหมายไม่ได้ห้าคน เมื่อพิจารณาจากมิติกลุ่มอาชีพหรือกลุ่มผลประโยชน์ตามระบบเลือก สว. ที่แบ่งออกเป็น 20 กลุ่ม พบว่ามีกมธ. ที่เป็นสว. จากกลุ่มทำสวน ประมงซึ่งเป็นกลุ่มที่ใกล้เคียงในเชิงประเด็นสำหรับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประมงฯ มากที่สุด อยู่สี่คน คือ วิรัตน์ ธรรมบำรุง นิสิทธิ์ ปนกลิ่น ธนกร ถาวรชินโชติ และเศรณี อนิลบล
กลุ่มข้างมาก
ธวัช สุระบาล ประธานคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง)
ชีวะภาพ ชีวะธรรม รองประธานคณะ กมธ. คนที่หนึ่ง (สว. จากกลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์ สาธารณูปโภค พลังงาน)
ฤชุ แก้วลาย เลขานุการคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มการสาธารณสุข)
วิรัตน์ ธรรมบำรุง ที่ปรึกษาคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง)
วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ที่ปรึกษาคณะ กมธ. (สว. กลุ่มที่ 13 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม)
สรชาติ วิชย สุวรรณพรหม กมธ.และที่ปรึกษาคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม)
ณรงค์ จิตราช กมธ. (สว. จากกลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม)
นิสิทธิ์ ปนกลิ่น กมธ. (สว. จากกลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง)
ไพบูลย์ ถะบุตรจอม กมธ. (สว. จากกลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์ สาธารณูปโภค พลังงาน)
ศุภโชค ศาลากิจ กมธ. (สว. จากกลุ่มประชาสังคม องค์กรสาธารณประโยชน์)
กลุ่มข้างน้อย
เทวฤทธิ์ มณีฉาย รองเลขานุการคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม)
ประภาส ปิ่นตบแต่ง ที่ปรึกษาคณะ กมธ. (สว. กลุ่มที่ 17 กลุ่มประชาสังคม กลุ่มองค์กรสาธารณประโยชน์)
กลุ่มคาดหมายไม่ได้
ธนกร ถาวรชินโชติ รองประธานคณะ กมธ. คนที่สองและโฆษกคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง)
นิคม มากรุ่งแจ้ง รองประธานคณะ กมธ. คนที่สาม (สว. จากกลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจากกิจการตามข้อ 9)
เศรณี อนิลบล รองประธานคณะ กมธ. คนที่สี่ (สว. จากกลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง)
ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ รองโฆษกคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มการศึกษา)
ชวพล วัฒนพรมงคล กมธ. (สว. จากกลุ่มศิลปวัฒนธรรม ดนตรีการแสดง บันเทิง นักกีฬา)
สว. เสียงไม่แตก ยืนยันแก้ไขร่างพ.ร.บ.ประมงฯ หลังผ่านมือ สส. มาแล้ว
จากบันทึกการประชุมคณะ กมธ.พิจารณาร่างพ.ร.บ.ประมงฯ พบว่า สว. ที่มาจากกลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง ก็มีบทบาทต่อการพิจารณาเพื่อผลักดันแก้ไขเนื้อหาร่างพ.ร.บ.ประมงอยู่บ้าง อาทิ ในการประชุมครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 ธนกร ถาวรชินโชติ แสดงความกังวลอย่างต่อเนื่องในประเด็นที่อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในร่างมาตรา 25 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 66 ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม และแสดงความเห็นว่า ความในมาตรา 66 ของพ.ร.ก.ประมง พ.ศ.2558 เดิมมีเนื้อหาสาระสำคัญครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากสหภาพยุโรป จึงควรคงเนื้อหาไว้ตามเดิม
อย่างไรก็ดี กมธ.ที่เป็น สว. จากกลุ่มอื่นๆ รวมถึง สว. ที่ไม่ได้เป็น กมธ. และไม่ได้มาจากกลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง ก็มีบทบาทรวมถึงข้อเสนอในการแก้ไขพ.ร.บ.ประมงฯ เช่นกัน
จากการประชุมครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ในประเด็นการคุ้มครองสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหายาก ฤชุ แก้วลาย กมธ. เสนอให้แก้ไขเพิ่มเติมร่างฉบับที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 25 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 66 วรรคสอง ที่กำหนดดยกเว้นความผิดหากมีสัตว์น้ำชนิดเลี้ยงลูกด้วยนมหรือสัตว์น้ำหายากที่ใกล้สูญพันธ์ติดเรือนหรือเครื่องมือการประมง ถ้าปล่อยสัตว์น้ำกลับสู่ธรรมชาติก็จะไม่มีความผิด โดยฤชุเสนอให้ตัดออกไปเลยทั้งวรรค ด้านประภาส ปิ่นตบแต่ง กมธ. สนับสนุนแนวทางนี้ ประภาสเห็นว่าหากคงมาตรา 66 วรรคสองไว้ อาจเปิดโอกาสให้ผู้เจตนากระทำผิดเลี้ยงความผิดได้ ด้านปริญญา วงษ์เชิดขวัญ เห็นต่างว่า หากตัดความในวรรคสองออก อาจส่งผลให้เกิดการปกปิดข้อมูลหรือปกปิดความผิดกรณีจับสัตว์น้ำเลี้ยงลูกด้วยนมติดขึ้นมา อย่างไรก็ดี ที่ประชุมก็มีมติเห็นด้วยกับเสนอให้ตัดความในวรรคสองออก
ประเด็นห้ามใช้อวนตาถี่ในเวลากลางคืน ตามร่างฉบับที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว กำหนดห้ามใช้อวนตาถี่ขนาดเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตรทำการประมงในเขต 12 ไมล์ทะเล โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีกำหนด หมายความว่าใช้อวนขนาดเล็กมากๆ จับสัตว์น้ำนอกเขต 12 ไมล์ทะเลได้ และยังเปิดช่องให้รัฐมนตรีออกประกาศเพื่อยกเว้นให้ใช้อวนขนาดเล็กในบางพื้นที่หรือบางช่วงเวลาได้อีกด้วย สำหรับ สว. ที่ไม่ได้เป็นกมธ. ด้วย มี อังคณา นีละไพจิตร ที่เสนอให้แก้ไขกลับไปใช้เนื้อหาแบบในพ.ร.ก.ประมงฯ กล่าวคือ ไม่ได้กำหนดเรื่องระยะทาง 12 ไมล์ทะเล โดย กมธ.มีมติเห็นด้วยให้แก้ไขเนื้อหาในแนวทางนี้
เมื่อร่างพ.ร.บ.ประมงฯ เข้าสู่การพิจารณาในวาระสาม ที่ประชุมวุฒิสภาเห็นชอบให้มีการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ประมงฯ ด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 141 เสียง ไม่เห็นด้วย 3 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง โดยภาพรวมเสียงไม่แตก
สว. ที่ไม่เห็นด้วย ได้แก่ ตวงคุณ ทรงธรรมวัฒน์ ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สว. กลุ่มคาดหมายไม่ได้ และรัชนีกร ทองทิพย์ สว. กลุ่มข้างน้อย สว. ที่งดออกเสียง คือ มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สว. กลุ่มข้างมาก และอังคณา นีละไพจิตร สว. กลุ่มข้างน้อย
ในกลุ่มที่เห็นด้วย มีทั้ง สว. สายเสียงข้างมาก 113 เสียง สว. กลุ่มข้างน้อย 12 เสียง และสว. กลุ่มคาดหมายไม่ได้ 16 เสียง
ชื่อ นามสกุล กลุ่มที่ กลุ่ม กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ 18 คาดหมายไม่ได้ กอบ อัจนากิตติ 20 ข้างมาก กัมพล ทองชิว 13 ข้างมาก กัลยา ใหญ่ประสาน 5 ข้างน้อย กิตติพันธ์ อนันตกูลจิรโชติ 15 ข้างมาก กิติศักดิ์ หมื่นศรี 19 ข้างมาก เกศกมล เปลี่ยนสมัย 19 ข้างมาก เกียรติชาย ไมตรีวงษ์ 8 ข้างน้อย ขวัญชัย แสนหิรัณย์ 13 ข้างมาก เข็มรัตน์ สุรเมธีมาณพ 7 ข้างมาก จตุพร เรียงเงิน 7 ข้างมาก จารุณี ฤกษ์ปราณี 14 ข้างมาก จำลอง อนันตสุข 18 ข้างมาก จิระศักดิ์ ชูความดี 8 ข้างมาก เจียระนัย ตั้งกีรติ 14 ข้างมาก ฉลอง ทองนะ 2 ข้างมาก ฉัตรวรรษ แสงเพชร 2 ข้างมาก ชวพล วัฒนพรมงคล 16 คาดหมายไม่ได้ ชัยธัช เพราะสุนทร 9 ข้างมาก ชาญชัย ไชยพิศ 17 ข้างมาก ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ 15 ข้างมาก ชาญวิศว์ บรรจงการ 13 ข้างมาก ชินโชติ แสงสังข์ 7 ข้างมาก ชีวะภาพ ชีวะธรรม 8 ข้างมาก ชูชาติ อินสว่าง 5 ข้างมาก โชคชัย กิตติธเนศวร 19 ข้างมาก โชติชัย บัวดิษ 6 ข้างมาก ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล 18 ข้างมาก ณรงค์ จิตราช 12 ข้างมาก ณัฐกิตติ์ หนูรอด 20 ข้างมาก เดชา นุตาลัย 5 ข้างมาก แดง กองมา 10 ข้างมาก เตชสิทธิ์ ชูแก้ว 6 ข้างมาก เทวฤทธิ์ มณีฉาย 18 ข้างน้อย ธณตศกร บุราคม 14 คาดหมายไม่ได้ ธนกร ถาวรชินโชติ 6 คาดหมายไม่ได้ ธนภัทร ตวงวิไล 15 ข้างมาก ธวัช สุระบาล 1 ข้างมาก ธารนี ปรีดาสันติ์ 12 ข้างมาก นงลักษณ์ ก้านเขียว 4 ข้างมาก นฤพล สุคนธชาติ 16 ข้างมาก นวลนิจ หงษ์วิวัฒน์ 19 คาดหมายไม่ได้ นันทนา นันทวโรภาส 18 ข้างน้อย นิคม มากรุ่งแจ้ง 10 คาดหมายไม่ได้ นิทัศน์ อารีย์วงศ์สกุล 10 ข้างมาก นิพนธ์ เอกวานิช 9 ข้างมาก นิฟาริด ระเด่นอาหมัด 3 ข้างมาก นิรุตติ สุทธินนท์ 17 ข้างมาก นิเวศ พันธ์เจริญวรกุล 15 ข้างมาก นิสิทธิ์ ปนกลิ่น 6 ข้างมาก บุญจันทร์ นวลสาย 2 ข้างมาก บุญชอบ สระสมทรัพย์ 4 ข้างมาก ประกาสิทธิ์ พลซา 7 ข้างมาก ประทุม วงศ์สวัสดิ์ 11 ข้างน้อย ประเทือง มนตรี 15 ข้างมาก ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล 4 ข้างมาก ประภาส ปิ่นตบแต่ง 17 ข้างน้อย ประไม หอมเทียม 17 คาดหมายไม่ได้ ประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล 17 ข้างน้อย ปราณีต เกรัมย์ 16 ข้างมาก ปวีณา สาระรัมย์ 5 ข้างมาก ปิยพัฒน์ สุภาวรรณ 7 ข้างมาก ปุณณภา จินดาพงษ์ 12 ข้างมาก พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต 12 คาดหมายไม่ได้ พรเพิ่ม ทองศรี 13 ข้างมาก พละวัต ตันศิริ 12 ข้างมาก พิชาญ พรศิริประทาน 9 ข้างมาก พิมาย คงทัน 5 ข้างมาก พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ 11 ข้างมาก เพลินจิต ขันแก้ว 4 ข้างมาก ไพบูลย์ ณะบุตรจอม 8 ข้างมาก ภมร เชาว์ศิริกุล 20 ข้างมาก ภาณุพงษ์ เต็งวงษ์วัฒนะ 17 ข้างมาก ภาวนา ว่องอมรนิธิ 11 ข้างมาก มณีรัฐ เขมะวงค์ 9 ข้างน้อย มยุรี โพธิแสน 14 ข้างมาก มังกร ศรีเจริญกูล 10 คาดหมายไม่ได้ มาเรีย เผ่าประทาน 6 ข้างมาก ยะโก๊ป หีมละ 6 คาดหมายไม่ได้ ยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา 15 คาดหมายไม่ได้ ยุทธนา ไทยภักดี 20 ข้างมาก รจนา เพิ่มพูล 12 ข้างมาก รุจิภาส มีกุศล 10 ข้างมาก ฤชุ แก้วลาย 4 ข้างมาก แล ดิลกวิทยรัตน์ 7 ข้างน้อย วร หินดี 1 ข้างมาก วรรษมนต์ คุณแสน 9 ข้างมาก วลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒน์ 20 ข้างมาก วิเชียร ชัยสถาพร 16 ข้างมาก วิภาพร ทองโสด 7 ข้างมาก วิรัตน์ ธรรมบำรุง 6 ข้างมาก วิรัตน์ รักษ์พันธ์ 20 ข้างมาก วิวัฒน์ รุ้งแก้ว 3 ข้างมาก วีรยุทธ สร้อยทอง 12 ข้างน้อย วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ 13 ข้างมาก ศรายุทธ ยิ้มยวน 15 คาดหมายไม่ได้ ศุภชัย กิตติภูติกุล 18 ข้างมาก ศุภโชค ศาลากิจ 17 ข้างมาก เศก จุลเกษร 2 ข้างมาก เศรณี อนิลบล 6 คาดหมายไม่ได้ สมชาย นุ่มพูล 5 ข้างมาก สมดุลย์ บุญไชย 15 ข้างมาก สมทบ ถีระพันธ์ 3 ข้างมาก สมบูรณ์ หนูนวล 4 ข้างมาก สมพร วรรณชาติ 7 ข้างมาก สมพาน พละศักดิ์ 10 ข้างมาก สมศรี อุรามา 9 ข้างมาก สมศักดิ์ จันทร์แก้ว 5 ข้างมาก สมหมาย ศรีจันทร์ 15 ข้างมาก สรชาติ สุวรรณพรหม 13 ข้างมาก สวัสดิ์ ทัศนา 1 ข้างมาก สหพันธ์ รุ่งโรจนพณิชย์ 10 คาดหมายไม่ได้ สัมพันธ์ ชัยวิเศษจินดา 8 ข้างมาก สามารถ รังสรรค์ 3 ข้างมาก สาลี สิงห์คำ 5 ข้างมาก สิทธิกร ธงยศ 19 ข้างมาก สุทนต์ กล้าการขาย 18 ข้างมาก สุทิน แก้วพนา 3 ข้างมาก สุเทพ สังข์วิเศษ 3 ข้างมาก สุนทร ขวัญเพ็ชร 2 ข้างมาก สุนทร พฤกษพิพัฒน์ 19 ข้างน้อย ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน 18 ข้างมาก สุพัตรชัย เตียวเจริญโสภา 13 ข้างมาก สุริยา บาราสัน 2 ข้างมาก สุวิช จำปานนท์ 16 ข้างมาก สุวิทย์ ขาวดี 11 ข้างมาก โสภณ ผาสุข 3 ข้างมาก โสภณ มะโนมะยา 10 ข้างมาก อจลา ณ ระนอง 14 ข้างมาก อภิชา เศรษฐวราธร 8 ข้างมาก อภิชาติ งามกมล 1 ข้างมาก อภินันท์ เผือกผ่อง 1 ข้างน้อย อมร ศรีบุญนาค 5 ข้างมาก อังกูร คล้ายคลึง 2 คาดหมายไม่ได้ อัจฉรพรรณ หอมรส 14 ข้างมาก อัษฎางค์ แสวงการ 3 ข้างมาก อารีย์ บรรจงธุระการ 18 ข้างมาก อิสระ บุญสองชั้น 6 ข้างมาก เอกชัย เรืองรัตน์ 20 คาดหมายไม่ได้ เอนก วีระพจนานันท์ 19 ข้างมาก เอมอร ศรีกงพาน 16 ข้างมาก
แก้ไขร่างพ.ร.บ.ชาติพันธุ์ฯ สว. เสียงไม่แตกโหวตเห็นด้วยกับร่างที่แก้ไข
ร่างพ.ร.บ.ชาติพันธุ์ฯ เป็นกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์ให้ความคุ้มครองและยกระดับชีวิตของประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งถูกคุกคามและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงและต่อเนื่องมาตั้งแต่อดีต โดยร่างกฎหมายที่ถูกเสนอเข้ามาในชั้นพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรมีด้วยกันทั้งหมดห้าฉบับ ทั้งจากภาคประชาชน พรรคการเมือง และคณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามหมวด 5 และมาตรา 27 ว่าด้วยพื้นที่คุ้มครองวิถีชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของร่างกฎหมายได้มีการถูกปรับแก้ไขในการพิจารณาชั้นสภาผู้แทนราษฎร วาระสามและวาระสาม จนลดประสิทธิภาพและยกเลิกกลไกการยกเว้นกฎหมายความมั่นคงที่ครอบงำพื้นที่ ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตจากภาคประชาชนที่เกี่ยวข้องถึงขีดความสามารถของร่างกฎหมายดังกล่าวว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาข้อพิพาทขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์และหน่วยงานรัฐในพื้นที่ได้จริงหรือไม่
ในชั้นการพิจารณาของวุฒิสภามีความพยายามของ สว. กลุ่มเสียงข้างน้อยในการแปรญัตติร่างพ.ร.บ.ชาติพันธุ์ ให้นำกลไกตามมาตรา 27 กลับมาอยู่ในร่างอีกครั้ง แต่คณะ กมธ.วิสามัญผู้พิจารณาและที่ประชุม สว. มีมติไม่เห็นชอบ แต่ที่เห็นชอบให้มีการแก้ไข คือ การเปลี่ยนแปลงนิยาม “กลุ่มชาติพันธุ์” ในมาตรา 3 โดยให้ใช้คำว่า “ชาวไทย” แทนคำว่า “กลุ่มคน” และเพิ่มคำว่า “ซึ่งกำเนิดและมีถิ่นฐานในประเทศไทย” รวมทั้งแก้ไขถ้อยคำรายละเอียดในเกือบทุกมาตรา มีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชาติพันธุ์และคณะอนุกรรมการ ตลอดจนการกำหนดคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามที่รัดกุมมากกว่าเดิม พร้อมขยายระเวลาต่างๆ ในการปฏิบัติตามพ.ร.บ.ให้ยาวนานมากกว่าร่างที่เห็นชอบโดยสภาผู้แทนราษฎร ขั้นตอนถัดไปจะเป็นการส่งร่างกฎหมายกลับไปให้สภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบต่อไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 137 โดยสามารถดูร่างที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมโดยละเอียดได้ที่นี่
จากข้อมูลการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ชาติพันธุ์ฯ ชั้นวุฒิสภา พบข้อสังเกต ดังนี้
สว. กลุ่มข้างมากนั่งเป็นกมธ. เกินครึ่ง ข้างน้อยมีสองคน วาระสามเสียงไม่แตกโหวตเห็นชอบร่างที่แก้ไข
หลังวุฒิสภารับร่างพ.ร.บ.ชาติพันธุ์ฯ ไว้พิจารณาในวาระหนึ่ง ได้ตั้งกมธ.ขึ้นมาพิจารณาร่างในวาระสอง 27 คน โดยมีตัวแทนภาคประชาชนที่เข้าชื่อเสนอร่างเข้ามาเป็นกมธ. ด้วย สำหรับกมธ. ที่เป็น สว. มี 14 คน ประกอบด้วย สว. จากกลุ่มข้างมาก 12 คน และข้างน้อยสองคน ได้แก่ อังคณา นีละไพจิตร รองประธานคณะ กมธ. คนที่หนึ่ง (สว. จากกลุ่มประชาสังคม และองค์กรสาธารณประโยชน์) และประภาส ปิ่นตบแต่ง กรรมธิการและประธานที่ปรึกษาคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มประชาสังคม และองค์กรสาธารณประโยชน์) ไม่มี สว. จากกลุ่มคาดหมายไม่ได้เลย
กลุ่มข้างมาก
ธวัช สุระบาล ประธานคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง)
วราภัสร์ ไพพรรณรัตน์ รองประธานคณะ กมธ. คนที่สอง (สว. จากกลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม)
เอมอร ศรีกงพาน รองประธานคณะ กมธ. คนที่สาม (สว. จากกลุ่มศิลปวัฒนธรรม ดนตรีการแสดง บันเทิง นักกีฬา)
นิรัตน์ อยู่ภักดี เรองประธานคณะ กมธ. คนที่สี่ (สว. จากกลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์ สาธารณูปโภค พลังงาน)
ชีวะภาพ ชีวะธรรม เลขานุการคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์ สาธารณูปโภค พลังงาน)
พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ โฆษกคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจ หรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว)
จำลอง อนันตสุข รองโฆษกคณะ กมธ. คนที่สอง (สว. จากกลุ่มกลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม)
วิวัฒน์ รุ้งแก้ว กมธ.และที่ปรึกษาคณะ กมธ. (สว. จากกลุ่มการศึกษา)
ชาญชัย ไชยพิศ (สว. จากกลุ่มประชาสังคม และองค์กรสาธารณประโยชน์)
พิชาญ พรศิริประทาน (สว. จากกลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม )
สืบศักดิ์ แววแก้ว (สว. จากกลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม )
อัษฎางค์ แสวงการ (สว. จากลุ่มบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง)
เมื่อร่างพ.ร.บ.ชาติพันธุ์ฯ เข้าสู่การพิจารณาในวาระสาม ที่ประชุมวุฒิสภาเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 124 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 8 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 2 เสียง โดย สว. ที่ไม่เห็นด้วย คือ กัลยา ใหญ่ประสาน สว. กลุ่มข้างน้อย สว. ที่ไม่ลงคะแนนเสียง คือ นิรัตน์ อยู่ภักดี รุจิภาส มีกุศล ทั้งคู่เป็น สว. กลุ่มข้างมาก
ส่วน สว. ที่งดออกเสียง 8 เสียง ประกอบด้วย
ชื่อ นามสกุล กลุ่มที่ กลุ่ม ชาญวิศว์ บรรจงการ 13 ข้างมาก ณภพ ลายวิเศษกุล 11 คาดหมายไม่ได้ เทวฤทธิ์ มณีฉาย 18 ข้างน้อย นันทนา นันทวโรภาส 18 ข้างน้อย ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ 3 คาดหมายไม่ได้ มงคล สุระสัจจะ 1 ประธานวุฒิสภา มณีรัฐ เขมะวงค์ 9 ข้างน้อย สุนทร พฤกษพิพัฒน์ 19 ข้างน้อย
สว. ที่เห็นด้วย 124 เสียง ประกอบด้วย สว. ทั้งสามกลุ่ม ข้างมาก ข้างน้อย และคาดหมายไม่ได้ ดังนี้
ชื่อ นามสกุล กลุ่มที่ กลุ่ม กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ 18 คาดหมายไม่ได้ กฤษณุ เหลืองพิบูลกิจ 15 ข้างมาก กัมพล ทองชิว 13 ข้างมาก กิตติพันธ์ อนันตกูลจิรโชติ 15 ข้างมาก เกียรติชาย ไมตรีวงษ์ 8 ข้างน้อย ขวัญชัย แสนหิรัณย์ 13 ข้างมาก จตุพร เรียงเงิน 7 ข้างมาก จรุณ กลิ่นตลบ 6 ข้างมาก จำลอง อนันตสุข 18 ข้างมาก จิระศักดิ์ ชูความดี 8 ข้างมาก จุฑารัตน์ นิลเปรม 14 ข้างมาก เจียระนัย ตั้งกีรติ 14 ข้างมาก ฉัตรวรรษ แสงเพชร 2 ข้างมาก ชวพล วัฒนพรมงคล 16 คาดหมายไม่ได้ ชัยธัช เพราะสุนทร 9 ข้างมาก ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ 15 ข้างมาก ชินโชติ แสงสังข์ 7 ข้างมาก ชิบ จิตนิยม 18 คาดหมายไม่ได้ ชีวะภาพ ชีวะธรรม 8 ข้างมาก ชูชีพ เอื้อการณ์ 20 คาดหมายไม่ได้ โชคชัย กิตติธเนศวร 19 ข้างมาก โชติชัย บัวดิษ 6 ข้างมาก ณรงค์ จิตราช 12 ข้างมาก ณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย 14 ข้างมาก ณัฐกิตติ์ หนูรอด 20 ข้างมาก แดง กองมา 10 ข้างมาก ตวงคุณ ทรงธรรมวัฒน์ 12 คาดหมายไม่ได้ เตชสิทธิ์ ชูแก้ว 6 ข้างมาก ธนกร ถาวรชินโชติ 6 คาดหมายไม่ได้ ธนชัย แซ่จึง 12 ข้างมาก ธนภัทร ตวงวิไล 15 ข้างมาก ธวัช สุระบาล 1 ข้างมาก ธารนี ปรีดาสันติ์ 12 ข้างมาก นงลักษณ์ ก้านเขียว 4 ข้างมาก นพดล พริ้งสกุล 13 ข้างมาก นฤพล สุคนธชาติ 16 ข้างมาก นวลนิจ หงษ์วิวัฒน์ 19 คาดหมายไม่ได้ นิคม มากรุ่งแจ้ง 10 คาดหมายไม่ได้ นิทัศน์ อารีย์วงศ์สกุล 10 ข้างมาก นิพนธ์ เอกวานิช 9 ข้างมาก นิฟาริด ระเด่นอาหมัด 3 ข้างมาก นิรุตติ สุทธินนท์ 17 ข้างมาก นิเวศ พันธ์เจริญวรกุล 15 ข้างมาก นิสิทธิ์ ปนกลิ่น 6 ข้างมาก บุญจันทร์ นวลสาย 2 ข้างมาก บุญชอบ สระสมทรัพย์ 4 ข้างมาก ประกาสิทธิ์ พลซา 7 ข้างมาก ประเทือง มนตรี 15 ข้างมาก ประภาส ปิ่นตบแต่ง 17 ข้างน้อย ประไม หอมเทียม 17 คาดหมายไม่ได้ ประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล 17 ข้างน้อย ปราณีต เกรัมย์ 16 ข้างมาก ปวีณา สาระรัมย์ 5 ข้างมาก ปิยพัฒน์ สุภาวรรณ 7 ข้างมาก ปุณณภา จินดาพงษ์ 12 ข้างมาก พรเพิ่ม ทองศรี 13 ข้างมาก พิชาญ พรศิริประทาน 9 ข้างมาก พิบูลย์อัฑฒ์ หฤหรรษ์ปราการ 16 ข้างมาก พิมาย คงทัน 5 ข้างมาก พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ 11 ข้างมาก เพลินจิต ขันแก้ว 4 ข้างมาก ภาณุพงษ์ เต็งวงษ์วัฒนะ 17 ข้างมาก มยุรี โพธิแสน 14 ข้างมาก มังกร ศรีเจริญกูล 10 คาดหมายไม่ได้ มาเรีย เผ่าประทาน 6 ข้างมาก รจนา เพิ่มพูล 12 ข้างมาก รัชนีกร ทองทิพย์ 16 ข้างน้อย แล ดิลกวิทยรัตน์ 7 ข้างน้อย วร หินดี 1 ข้างมาก วรรษมนต์ คุณแสน 9 ข้างมาก วราภัสร์ ไพพรรณรัตน์ 12 ข้างมาก วลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒน์ 20 ข้างมาก วันชัย แข็งการเขตร 4 ข้างมาก วันไชย เอกพรพิชญ์ 2 คาดหมายไม่ได้ วาสนา ยศสอน 14 คาดหมายไม่ได้ วิเชียร ชัยสถาพร 16 ข้างมาก วิภาพร ทองโสด 7 ข้างมาก วิรัตน์ ธรรมบำรุง 6 ข้างมาก วิรัตน์ รักษ์พันธ์ 20 ข้างมาก วิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ 8 ข้างมาก วิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล 16 ข้างมาก วิวัฒน์ รุ้งแก้ว 3 ข้างมาก วีรยุทธ สร้อยทอง 12 ข้างน้อย วีระพันธ์ สุวรรณนามัย 4 ข้างมาก วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี 1 ข้างมาก วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ 13 ข้างมาก ศรายุทธ ยิ้มยวน 15 คาดหมายไม่ได้ ศุภโชค ศาลากิจ 17 ข้างมาก เศก จุลเกษร 2 ข้างมาก สง่า ส่งมหาชัย 10 ข้างมาก สมดุลย์ บุญไชย 15 ข้างมาก สมทบ ถีระพันธ์ 3 ข้างมาก สมบูรณ์ หนูนวล 4 ข้างมาก สมพร วรรณชาติ 7 ข้างมาก สมพาน พละศักดิ์ 10 ข้างมาก สมศรี อุรามา 9 ข้างมาก สมศักดิ์ จันทร์แก้ว 5 ข้างมาก สมหมาย ศรีจันทร์ 15 ข้างมาก สรชาติ สุวรรณพรหม 13 ข้างมาก สวัสดิ์ ทัศนา 1 ข้างมาก สัมพันธ์ ชัยวิเศษจินดา 8 ข้างมาก สามารถ รังสรรค์ 3 ข้างมาก สืบศักดิ์ แววแก้ว 2 ข้างมาก สุทนต์ กล้าการขาย 18 ข้างมาก สุทิน แก้วพนา 3 ข้างมาก สุเทพ สังข์วิเศษ 3 ข้างมาก สุนทร ขวัญเพ็ชร 2 ข้างมาก สุนทร เชาว์กิจค้า 10 ข้างมาก ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน 18 ข้างมาก สุริยา บาราสัน 2 ข้างมาก สุวิช จำปานนท์ 16 ข้างมาก สุวิทย์ ขาวดี 11 ข้างมาก โสภณ ผาสุข 3 ข้างมาก อภิชาติ งามกมล 1 ข้างมาก อมร ศรีบุญนาค 5 ข้างมาก อมรศักดิ์ กิจธนานันท์ 7 คาดหมายไม่ได้ อลงกต วรกี 20 ข้างมาก อังคณา นีละไพจิตร 17 ข้างน้อย อัจฉรพรรณ หอมรส 14 ข้างมาก อัษฎางค์ แสวงการ 3 ข้างมาก อิสระ บุญสองชั้น 6 ข้างมาก เอกชัย เรืองรัตน์ 20 คาดหมายไม่ได้ เอนก วีระพจนานันท์ 19 ข้างมาก เอมอร ศรีกงพาน 16 ข้างมาก