เปิดไทม์ไลน์คดี ‘น้องเมย’ นร.เตรียมทหารเสียชีวิต ครอบครัวสู้ไม่ถอย
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 68 "เดลินิวส์ออนไลน์" จะพาทุกคนย้อนรอยคดีสะเทือนใจ “น้องเมย” นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ผู้เสียชีวิตอย่างปริศนาเมื่อปี 2560 หลังถูกรุ่นพี่ลงโทษธำรงวินัย นำไปสู่ข้อสงสัยจากครอบครัวเรื่องสาเหตุการตายและกระบวนการสอบสวนที่คลุมเครือ กลายเป็นหนึ่งในคดีอื้อฉาวที่สังคมไม่เคยลืม วันนี้เรารวบรวมเหตุการณ์ทั้งหมดมาเรียบเรียงเป็น “ไทม์ไลน์” เพื่อให้เห็นภาพความเคลื่อนไหวตั้งแต่ต้นจนถึงผลคำพิพากษาในศาลกันค่ะ
หากย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2560"นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์" หรือ “น้องเมย” ได้เข้าศึกษาเป็นนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 (นตท.ปี 1) โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นปีการศึกษา 2560 จนกระทั่ง วันที่ 17 ตุลาคม 2560 น้องเมยเสียชีวิตในโรงเรียนเตรียมทหาร หลังมีอาการไม่สบายในช่วงเช้า และถูกลงโทษทางวินัยหรือที่เรียกในวงการทหารว่า “ธำรงวินัย” โดยรุ่นพี่ชั้นปีที่ 2
อีกทั้ง หลังจากถูกลงโทษ น้องเมยหมดสติ ถูกนำตัวส่งห้องพยาบาลของโรงเรียน แม้มีความพยายามปฐมพยาบาลและกู้ชีพ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ โรงเรียนแจ้งครอบครัวว่าสาเหตุการเสียชีวิตคือ “ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน” อย่างไรก็ตาม ครอบครัวตัญกาญจน์ โดยเฉพาะนายพิเชษฐ และนางสุกัลยา พ่อแม่ของน้องเมย พบความผิดปกติของร่างกายลูกชาย เช่น มีรอยฟกช้ำหลายจุด และจึงตัดสินใจนำร่างไปชันสูตรซ้ำที่ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม
นอกจากนี้ ผลการชันสูตรครั้งใหม่ทำให้ครอบครัวตกใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะพบว่าอวัยวะภายในหลายส่วนหายไป ได้แก่ สมอง หัวใจ และกระเพาะอาหาร รวมถึงพบบาดแผลภายนอกหลายจุดที่ไม่สามารถอธิบายได้โดยธรรมชาติ กรณีนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ในช่วงปลายปี 2560 และกดดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องออกมาแถลง โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด ขณะนั้นออกมายอมรับว่า"น้องเมย" ถูกลงโทษทางวินัยจริง โดยมีทั้งรุ่นพี่และครูฝึกเกี่ยวข้อง
ต่อมา ในเดือนธันวาคม 2560 ครอบครัวได้ยื่นเรื่องให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับเป็นคดีพิเศษ และเข้าสู่กระบวนการสอบสวนของตำรวจ อีกทั้ง เดือนมีนาคม ปี 2562 พนักงานสอบสวน สน.พญาไท สรุปสำนวนคดีและส่งให้อัยการพิจารณา โดยมีการสั่งฟ้องผู้เกี่ยวข้อง 3 ราย คือ นักเรียนเตรียมทหารพิพจน์ (สงวนนามสกุล), นักเรียนเตรียมทหารภูมิพัฒน์ (สงวนนามสกุล) ในข้อหา ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และว่าที่ร้อยตรี ปิยพงศ์ (สงวนนามสกุล) ครูฝึกในข้อหา กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
โดยคดีนี้อยู่ในเขตอำนาจของ ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 (มทบ.12) จังหวัดปราจีนบุรี ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาให้รอการกำหนดโทษ สำหรับนักเรียนเตรียมทหารรุ่นพี่ที่ถูกฟ้องในคดีทำร้ายร่างกาย นอกจากนี้ คดีอื่นๆ ที่ครอบครัวน้องเมยฟ้องร้องนั้น พนักงานสอบสวนและอัยการบางส่วนได้มีคำสั่งไม่ฟ้อง (ช่วงปี 2561-2562) อีกทั้ง ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในบางคดี ส่วนในคดีแพ่งที่ครอบครัวน้องเมยฟ้องร้องกระทรวงกลาโหม และกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและความรับผิด ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้กระทรวงกลาโหมชดใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่ครอบครัวตัญกาญจน์
ต่อมา วันที่ 22 ก.ค. 68 ศาลทหารสูงสุด มีคำพิพากษาชั้นฎีกา ว่า ให้ยืนตามศาลชั้นอุทธรณ์ จำเลยมีความผิดทำร้ายร่างกาย ทำโทษโดยฝ่าฝืนคำสั่งกลุ่มนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ส่วนที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยทันทีนั้น ศาลเห็นว่า ด้วยอายุจำเลย ไม่เคยได้รับโทษ การจะลงโทษจำเลยไป ก็ไม่เป็นประโยชน์ ให้จำเลยปรับปรุงตัว รับราชการ รับใช้ชาติต่อไป จะเป็นประโยชน์มากกว่า โทษจำคุกรุ่นพี่ 4 เดือน 16 วัน ปรับ 15,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี
อย่างไรก็ตาม กรณีตัวอย่างที่สังคมไม่ควรลืม แม้จะผ่านมาแล้วหลายปี คดีน้องเมยยังคงเป็นเครื่องเตือนใจสังคมไทย พร้อมย้ำถึงสิทธิของครอบครัวผู้เสียหายในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างโปร่งใส การเสียชีวิตของน้องเมยไม่เพียงเป็นโศกนาฏกรรมของครอบครัวหนึ่งเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นจุดตั้งคำถามที่สำคัญถึงความปลอดภัยอีกด้วย
ขอบคุณรูปภาพ :Sukanya Tanyakan