ปภ.ลงพื้นที่เชียงใหม่ติดตามการเตรียมพร้อมรับมือผลกระทบ"พายุวิภา"ร่วมกับจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ
วันที่ 21 ก.ค 68 เวลา 21.00 น. นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำทีม ปภ.ส่วนหน้า ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมพร้อมติดตามและประเมินสถานการณ์ผลกระทบจากพายุ "วิภา" ร่วมกับจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนืออย่างใกล้ชิด โดยได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและระดับน้ำแม่น้ำปิง บริเวณสถานี P.1 สะพานนวรัฐ มีนายศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผู้บริหาร ปภ. ว่าที่ร้อยตรี ณัฐพงค์ ฐิตวิกรานต์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 ลำปาง นายดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ นายชนม์ฐพัฒน์ เครือศรี วิศวกรชลประทานชำนาญการ กรมชลประทาน ร่วมลงพื้นที่และบรรยายสรุปสถานการณ์
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า วันนี้ ตนและทีม ปภ. ส่วนหน้า ได้ขึ้นมาติดตามสถานการณ์ผลกระทบจาก "พายุวิภา" ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยตั้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (ส่วนหน้า) ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งการเตรียมความพร้อมในขณะนี้ ปภ.ได้ระดมทรัพยากรเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยจากศูนย์ ปภ.เขต ขึ้นมาสนับสนุนการปฏิบัติการเชิญเหตุในจังหวัดโซนภาคเหนือติดตั้งในพื้นที่เสี่ยงไว้ล่วงหน้าแล้ว และยังได้ร่วมกับกองทัพบกส่งทีมนักบินและเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA-32 ทีมกู้ภัยบนอากาศยาน มาประจำการที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (20 ก.ค.68) เพื่อรองรับภารกิจในการให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนัก
สำหรับการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณแม่น้ำปิง ในส่วนของสถานี P.1 บริเวณสะพานนวรัฐ ยังถือว่าอยู่ในระยะปลอดภัย โดยจังหวัดเชียงใหม่ ชลประทานเชียงใหม่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ติดตามปริมาณฝนและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำจากพื้นที่ด้านบนเช่นที่อำเภอแม่แตงมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นถึงจุดที่ต้องเฝ้าระวัง อาจจะส่งผลให้ระดับน้ำปิงมีปริมาณเพิ่มสูง ปภ.ก็จะได้มีการแจ้งเตือนผ่านระบบ Cell Broadcast ไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยที่อาจได้รับผลกระทบ ให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
อย่างไรก็ตาม คาดว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป (22 ก.ค.68) ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นและตกหนักในหลายพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ทุกจังหวัดเสี่ยงภัยมีความพร้อมในการรับมือตามแผนเผชิญเหตุของจังหวัดอย่างเต็มกำลัง โดยในส่วนของ ปภ.ได้เปิดวอร์รูมเพื่อเชื่อมโยงการทำงาน ติดตามและประเมินสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การรับมือกับสถานการณ์ผลกระทบจากพายุวิภาและการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว