คุยกับ ‘ซอสพริกศรีราชาพานิช’ เตรียมพัฒนาสูตรรักสุขภาพ ตั้งเป้าโต 7% ต่อปี เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวซื้อกลับประเทศเป็นของฝาก
เมื่อพูดถึงซอสพริกศรีราชา หลายคนอาจนึกถึงเครื่องจิ้มรสจัดที่อยู่คู่โต๊ะอาหารไทยมานาน แต่เบื้องหลังความอร่อยนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 90 ปี และเรื่องราวของแบรนด์ศรีราชาพานิชภายใต้การบริหารงานของบริษัท ไทยเทพรส จำกัด (มหาชน) ที่ยังคงรักษารสชาติดั้งเดิมไว้อย่างมั่นคง ในขณะที่ปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคใหม่อย่างน่าจับตามอง
จุดเริ่มต้นของ “ซอสพริกศรีราชา” จากครอบครัวหนึ่งในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่ต้องการทำน้ำพริกไว้ทานคู่กับอาหารทะเล โดยมีสูตรเฉพาะของพริกดองและส่วนผสมต่าง ๆ ที่ลงตัว ซอสพริกของครอบครัวนี้มีรสชาติโดดเด่น จนถูกนำไปถวายในวัง และได้รับพระราชทานชื่อว่า “ซอสพริกศรีราชา” จากจุดนั้นเองที่ชื่อเสียงของซอสพริกศรีราชากระจายสู่วงกว้างจนได้รับความนิยม แตกแขนงออกเป็นหลายแบรนด์ภายใต้ชื่อเดียวกัน หนึ่งในนั้นคือ “ศรีราชาพานิช” ต้นตำรับซอสพริกศรีราชา
ต่อมาบริษัท ไทยเทพรส จำกัด (มหาชน) เจ้าของ “ซอสปรุงรสภูเขาทอง” เข้ามารับช่วงต่อในการดูแลซอสศรีราชาพานิช พร้อมคงรักษาชื่อเสียงและความดั้งเดิมของแบรนด์ไว้อย่างดี หนึ่งในความท้าทายของแบรนด์คือการควบคุมคุณภาพให้ซอสพริกที่ผลิตในระดับอุตสาหกรรมมีรสชาติอร่อยเหมือนที่ทำในครัวเรือน เพื่อรักษาความเป็นต้นตำรับเอาไว้ให้มากที่สุด และให้ผู้บริโภคได้ลิ้มรสชาติแบบดั้งเดิมอย่างแท้จริง
แต่ในโลกยุคใหม่ที่การแข่งขันสูงและความคาดหวังของผู้บริโภคเปลี่ยนไป แบรนด์ศรีราชาพานิชจึงต้องมองไกลกว่าการเป็นเพียง “เครื่องจิ้ม” บนโต๊ะอาหาร กลยุทธ์สำคัญของแบรนด์คือการสร้าง “ประสบการณ์ร่วม” กับผู้บริโภค ผ่านแคมเปญการตลาดที่น่าสนใจและการจับมือกับพาร์ตเนอร์ที่หลากหลาย
หนึ่งในแคมเปญที่สร้างเสียงฮือฮา คือการร่วมมือกับร้านของหวานชื่อดัง After You ในการนำเมนูขนมอย่างคากิโกริมะม่วง จับคู่เสิร์ฟพร้อมซอสพริกศรีราชาพานิช อย่างไม่เคยมีใครทำมาก่อน การจับคู่ที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ระหว่างของหวานกับซอสเผ็ด กลับสร้างกระแสตอบรับดีจากกลุ่มลูกค้าที่แสวงหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการทานของหวาน
แบรนด์ศรีราชาพานิชร่วมมือกับเวทีมวยราชดำเนิน จัดงาน Immersive Brand Experience ผ่านโดมคอนกรีตขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมใช้เทคโนโลยี 3D Projection Mapping ถ่ายทอดเรื่องราวแบรนด์กว่า 90 ปี ให้กลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ใช่เพียงแค่การดู แต่คือการ “รู้สึก” ถึงความเป็นไทยผ่านรสชาติและวัฒนธรรม
นอกจากนี้ยังจัดแคมเปญร่วมกับ The Yard Hostel เพื่อจัดกิจกรรมสอนทำอาหารไทยให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำผ่านอาหารไทยให้ผู้มาเยือน
ด้วยกระแสรักสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น แบรนด์จึงได้พัฒนาสูตรซอสพริกใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยซอสพริกศรีราชาพานิชเดิมมีจุดเด่นคือไม่ผสมแป้งและไม่ใส่ผงชูรส ในสูตรใหม่นี้จึงเน้นพัฒนาให้ไร้น้ำตาล ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ ทางแบรนด์ย้ำอีกว่า “สุขภาพไม่ใช่เพียงแค่เทรนด์ระยะสั้น การพัฒนาสูตรจึงต้องละเอียดรอบคอบ และมั่นใจว่าจะสามารถตอบโจทย์ตลาดในระยะยาวได้อย่างแท้จริง”
ปัจจุบันซอสพริกศรีราชาพานิชเติบโตขึ้นถึง 50-60% ในช่วงระยะ 5-6 ปีที่ผ่านมา และปีนี้แบรนด์ตั้งเป้าหมายเติบโต 6-7% โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายหลักคือคนเอเชียทั้งในและนอกประเทศไทย รวมกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยซื้อกลับไปเป็นของฝาก ผ่านการมอบประสบการณ์สุดพิเศษ ทางแบรนด์มองว่า อาหารไทยคือหนึ่งใน Soft Power ของประเทศ และซอสพริกศรีราชาพานิชก็สามารถเป็นฟันเฟืองเล็ก ๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนภาพลักษณ์และเศรษฐกิจของไทยได้เช่นกัน