“เท้ง” ลงพื้นที่สุโขทัย แนะจัดการน้ำท่วมซ้ำซาก “หาที่ให้น้ำอยู่ หาทางให้น้ำไป”
สุโขทัย - “เท้ง-หน.พรรคประชาชน” นำ กมธ.น้ำ-กมธ.บริหารงบตระเวนลงพื้นที่สุโขทัยเยี่ยมเหยื่ออุทกภัย แนะ “หาที่ให้น้ำอยู่ หาทางให้น้ำไป” แก้น้ำท่วมซ้ำซาก ชี้วันนี้น้ำเริ่มลด แต่สุโขทัยยังไม่พ้นความเสี่ยง บอกปีนี้น้ำเหนือน้อยยังท่วมหนัก หากพายุมาอีกระลอกน้ำใหม่ทะลักท่วมทันทีแน่
หลังจากนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านฯ พร้อมคณะกรรมาธิการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและบริหารงบประมาณ ได้ลงพื้นที่ จ.สุโขทัย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ต.ท่าทอง อ.สวรรคโลก ต.บ้านนา อ.ศรีสำโรง ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย เมื่อวานนี้ (2 ส.ค. 68)
ล่าสุด นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า สุโขทัยเป็นจังหวัดที่ไม่มีเขื่อนหลัก ไม่มีแหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ และไม่มีระบบชะลอน้ำจากทางตอนเหนือที่ไหลลงมาตามแม่น้ำยม ทุกครั้งที่เกิดฝนตกหนักหรือมีพายุ น้ำจะล้นแม่น้ำและเอ่อล้นจากตลิ่งอย่างรวดเร็ว ด้วยลักษณะของแม่น้ำยมที่มีต้นน้ำกว้างแต่แคบที่ปลายน้ำ ยิ่งทำให้ปริมาณน้ำล้นออกมาได้ง่ายขึ้น
เมื่อสอบถามกับหน่วยงานในพื้นที่พบว่ามีโครงการ “คลองผันน้ำยมน่าน” ซึ่งจะช่วยผันน้ำจากแม่น้ำยมไปยังแม่น้ำน่าน แต่โครงการนี้ยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้ไม่สามารถรับน้ำได้เพียงพอ และเมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จ ก็อาจระบายน้ำได้ไม่ทันกับปริมาณน้ำหลาก จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนปรับปรุงระบบระบายน้ำในลุ่มน้ำยมให้สามารถรองรับน้ำได้มากขึ้นอย่างจริงจัง
“แม้ว่าวันนี้ระดับน้ำจะเริ่มลดลง แต่สุโขทัยยังไม่พ้นจากความเสี่ยง หากเกิดพายุอีกระลอก น้ำก็จะไหลเข้ามาใหม่ได้ทันที”
และเมื่อได้ลงพื้นที่ไปพบกับประชาชนชาวสุโขทัยที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติจากสถานการณ์น้ำ พบว่าถึงแม้สถานการณ์น้ำจะเบาบางลง แต่ประชาชนยังคงได้รับผลกระทบอยู่ บ้านเรือนที่อยู่ใกล้ลำน้ำหลายหลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนเสียหาย บางหลังก็ถูกน้ำพัดหายไปเพราะตลิ่งพังและถูกกัดเซาะอย่างต่อเนื่อง และประชาชนในพื้นที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐอย่างเพียงพอ
คันดินกั้นน้ำที่มีอยู่ต้องซ่อมแซมทุกปี เนื่องจากงบประมาณจากรัฐบาลกลางไม่เพียงพอสำหรับสร้างคันกั้นน้ำถาวร โดยเฉพาะปีนี้ที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าปีก่อนหน้า แต่น้ำกลับท่วมมากกว่า เพราะคันดินเสื่อมสภาพลง
แนวทางการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่สุโขทัย จึงควรมุ่งเน้นที่การเพิ่มพื้นที่อ่างเก็บน้ำ, การจัดทำพื้นที่แก้มลิง, การขุดลอกและพัฒนาแนวคลองระบายน้ำ, การบำรุงรักษาคลองระบายน้ำเดิมอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้จำเป็นสำหรับการระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพในพื้นที่
มาถึงวันนี้ เราจะเห็นได้ว่าหากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศเขตภัยพิบัติ การมีอุปกรณ์รับมือที่เพียงพอ ตลอดจนการเตรียมความพร้อมและการฝึกอบรมบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ก็จะสามารถรับมือและเยียวยาสถานการณ์ภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขณะที่หน้าที่ของรัฐบาลกลาง ควรมุ่งเน้นการวางแผนภาพรวม อย่างการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ เพื่อ “หาที่ให้น้ำอยู่” อย่างการขุดลอก หรือมีอ่างเก็บน้ำเพิ่มเติมเป็นแก้มลิง หรืออ่างเก็บน้ำ เพื่อเพิ่มความสามารถในการชะลอน้ำในช่วงน้ำหลาก รวมถึงการเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งได้ส่วนหนึ่งด้วย
และการ “หาทางให้น้ำไป” ที่จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายของน้ำ อย่างโครงการคลองผันน้ำยมน่าน และโครงการอื่นๆ ที่ต้องจัดการเป็นลุ่มน้ำทั้งระบบต่อไปในอนาคต
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO