ดัชนีเชื่อมั่นอสังหาฯไตรมาส 2 วูบต่ำสุดในรอบปีรายย่อยกังวลหนัก
ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ–ปริมณฑล (Housing Developer’s Sentiment Index: HDSI) ไตรมาส 2 ปี 2568 ซึ่งจัดทำโดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สะท้อนภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยังเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง โดยดัชนีอยู่ที่ระดับ 39.3 ลดลงจากไตรมาสก่อน -2.7 จุด และจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง -5.9 จุด ถือว่าต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 อย่างชัดเจน
ดัชนีที่ลดลงต่อเนื่องบ่งชี้ว่าผู้ประกอบการยังมองสถานการณ์ปัจจุบันด้วยความระมัดระวัง ท่ามกลางปัจจัยลบรุมเร้า ทั้งระดับหนี้ครัวเรือนที่สูง การเข้มงวดด้านสินเชื่อ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์
กลุ่ม Non-listed หวั่นเสี่ยงมากกว่า
เมื่อแยกตามประเภทบริษัท พบว่าผู้ประกอบการที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Non-listed Companies) ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นรายกลางและรายย่อย ยิ่งได้รับผลกระทบชัดเจน แม้ค่าดัชนีในภาพรวมขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 39.3 แต่ความเชื่อมั่นในหลายด้านยังลดลง ทั้งการลงทุน การเปิดโครงการใหม่ และการจ้างงาน ขณะที่ต้นทุนปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
ตรงกันข้ามกับกลุ่มบริษัทจดทะเบียน (Listed Companies) ซึ่งแม้ดัชนีโดยรวมลดลงมาอยู่ที่ 39.4 จาก 43.9 แต่ยังมีสัญญาณบวกบางส่วน เช่น ความเชื่อมั่นในต้นทุนที่แม้สูงขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับควบคุมได้ สะท้อนถึงศักยภาพในการบริหารต้นทุนและความพร้อมรับมือของผู้เล่นรายใหญ่
หวัง 6 เดือนข้างหน้านโยบายรัฐ
ในด้านดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาพรวมในอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) แม้ลดลงมาอยู่ที่ 50.3 จาก 52.3 แต่ยังสูงกว่าค่ากลาง บ่งชี้ว่าแม้ภาวะปัจจุบันซบเซา ผู้ประกอบการยังคงมีความหวังว่าธุรกิจจะทยอยฟื้นตัว โดยเฉพาะจากแรงสนับสนุนของมาตรการรัฐ อาทิ มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองสำหรับบ้านไม่เกิน 7 ล้านบาท รวมถึงการผ่อนคลายเกณฑ์สินเชื่อ (LTV) ชั่วคราว
รายย่อยยังไม่คลายกังวล
อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนของกลุ่ม Non-listed Companies ลดลงชัดเจน จาก 48.7 เหลือ 43.8 สะท้อนถึงความไม่มั่นใจต่อความสามารถในการแข่งขัน ขณะที่ต้นทุนยังพุ่ง ข้อจำกัดด้านแหล่งทุนและแรงซื้อที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่ ทำให้การเปิดโครงการใหม่ถูกชะลอไว้ก่อน
ในทางกลับกัน กลุ่ม Listed Companies ยังรักษาระดับดัชนีไว้ที่ 54.6 แม้ลดลงจากไตรมาสก่อน แต่ยังอยู่เหนือค่ากลาง ชี้ว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ยังมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มตลาด โดยเฉพาะยอดขายและการเปิดตัวโครงการใหม่ แม้จะลดลงจากไตรมาสก่อน แต่ยังอยู่ในระดับที่แข็งแรงกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มรายย่อย
สัญญาณ ‘ฟื้นช้า–กู้ยาก’
แม้จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์โดยรวมยังขาดแรงส่งในเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะการฟื้นตัวของกำลังซื้อในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งยังเผชิญปัญหาหนี้สินและข้อจำกัดด้านเครดิต ทำให้ผู้ประกอบการยังไม่สามารถเร่งเปิดโครงการใหม่หรือขยายการลงทุนได้อย่างเต็มที่
หากภาครัฐต้องการเห็นภาคอสังหาฯ เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคครัวเรือน ควบคู่กับการผ่อนคลายเงื่อนไขสินเชื่อและการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นทางออกที่สร้างความเชื่อมั่นและการฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว