ข่าวดีคนพิการ! สปสช. ย้ำสิทธิ UCEP เจ็บวิกฤตเข้ารพ.ใกล้บ้าน
น.ส.ดวงนภา พิเชษฐ์กุล ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวในรายการพอดแคสต์ "Check up สุขภาพสิทธิ" ช่องยูทูป Lady Wheeler Channel ในประเด็นเกี่ยวกับการรับรู้และเข้าถึงสิทธิการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่ (Universal Coverage for Emergency Patients: UCEP) ในกลุ่มคนพิการ โดยระบุว่า สิทธิดังกล่าวเป็นสิ่งที่รัฐจัดให้สำหรับประชาชนทุกคน เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินที่เสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิต ซึ่งในทางการแพทย์จัดให้อยู่ในกลุ่มผู้ป่วยสีแดง ก็สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดได้ ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน โดยสามารถแจ้งใช้สิทธิ UCEP กับโรงพยาบาลได้เลย
น.ส.ดวงนภา กล่าวอีกว่า การประเมินอาการว่าเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีแดงหรือไม่นั้น จะเป็นไปตามข้อกำหนดของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) อย่างไรก็ดี ในมุมของผู้ป่วยแล้วมักไม่ทราบว่าตนเองเป็นกลุ่มสีแดงหรือสีใด และทุกคนไม่ต้องกังวล เพราะหากอยู่ในภาวะเจ็บป่วยและจำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาลก็สามารถเข้ารับบริการได้ โดยแจ้งเรื่องการใช้สิทธิกับโรงพยาบาล แต่หากแพทย์ประเมินแล้วว่ายังไม่เข้าข่ายสีแดง แต่เป็นกลุ่มสีเหลืองหรือสีเขียว ก็ยังมีกลไกตามมาตรา 7 ของพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 รองรับ โดยให้โทรมาที่สายด่วน สปสช. 1330 และแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ากำลังเจ็บป่วยและเข้าโรงพยาบาลใด เจ้าหน้าที่จะติดต่อประสานงานกับโรงพยาบาลให้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
แนะเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต “ใช้สิทธิ UCEP”
ด้าน นายธนวัฒน์ ระย้า คนพิการทางการได้ยิน กล่าวว่า ตนใช้สิทธิประกันสังคมและไม่รู้จักว่าUCEP คืออะไร แต่เคยประสบอุบัติเหตุจนสลบไป 8 ชั่วโมง ต้องผ่าตัดที่ใบหน้าและแขน ซึ่งรถพยาบาลฉุกเฉินได้นำส่งที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท ได้รับการรักษาจนถึงเช้า ก่อนย้ายไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม ซึ่งในตอนนั้นตนไม่ทราบว่าใช้สิทธิอะไร
"ตอนนี้คนหูหนวกยังขาดการเข้าถึงข้อมูลเรื่อง UCEP อยากฝากให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในกลุ่มคนหูหนวกว่าต้องปฏิบัติตัวและใช้สิทธิอย่างไรเมื่อเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉิน รวมทั้งข้อมูลความรู้ด้านสุขภาพอื่น ๆ ด้วย" นายธนวัฒน์ กล่าว
ขณะที่ น.ส.กรรณิการ์ วงษ์เพ็ญ คนพิการทางการมองเห็น กล่าวว่า หากพูดคำว่า UCEP อาจไม่เข้าใจนัก แต่ถ้าบอกว่า“สิทธิฉุกเฉินรักษาทุกที่” ก็ถือเป็นคีย์เวิร์ดที่ทำให้มองเห็นภาพชัดเจนขึ้น ส่วนตัวเคยปวดท้องไส้ติ่งอักเสบจนหมดสติ ถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี ขณะนั้นหน่วยบริการปฐมภูมิที่ลงทะเบียนไว้คือ จ.ยโสธร แต่เนื่องจากใช้สิทธิบัตรทองคนพิการ ท.74 จึงสามารถแอดมิต ผ่าตัดและรักษาต่อเนื่องจนหายกลับบ้านได้ รวมระยะเวลาการรักษาประมาณ 7 วัน
"สิ่งที่อยากฝากคือ บางครั้งเราไม่ทราบว่าอาการที่เราเป็นมีความฉุกเฉินมากน้อยแค่ไหน และการซักประวัติบางอย่างเราที่เป็นคนตาบอดก็ตอบได้ลำบาก เช่น ถามว่าตาลายไหม มือเขียวไหม ดังนั้นอยากให้คุณหมอช่วยเข้าใจข้อจำกัดของคนพิการด้วย" น.ส.กรรณิการ์ กล่าว