"นักวิเคราะห์" ชี้เศรษฐกิจ "กัมพูชา" กระทบหนักกว่า "ไทย" หลังเหตุปะทะด้านชายแดน
นักวิเคราะห์ระบุว่า ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างไทยและกัมพูชาอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่พึ่งพาการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ แต่กัมพูชาจะได้รับผลกระทบมากกว่า
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของทั้งสองประเทศ โดยมีสัดส่วนคิดเป็นประมาณ 12% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทย และ 9% ของกัมพูชาในปี 2567
ในปีที่แล้ว ไทยมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากกว่า 35 ล้านคน ขณะที่กัมพูชามีจำนวนนักท่องเที่ยว 6.7 ล้านคน
นักวิเคราะห์ต่างยอมรับว่า ความตึงเครียดตามแนวชายแดนอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย แต่ก็เห็นตรงกันว่า กัมพูชาอยู่ในสถานะที่อ่อนแอกว่า
"ประเทศไทย ซึ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีการจ้างงานจำนวนมาก ยังคงเปราะบางต่อความรู้สึกไม่มีเสถียรภาพ" ศรีปาร์นา บาเนอร์จี นักวิจัยจากมูลนิธิ Observer Research Foundation กล่าวกับสำนักข่าว CNBC และเสริมว่า แม้แต่ความไม่สงบในระยะสั้นใกล้แนวชายแดนก็ทำให้มีคำเตือนเกี่ยวกับการเดินทาง และบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลเสียอย่างมาก โดยเฉพาะในปีที่ไทยคาดหวังว่าการท่องเที่ยวจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการท่องเที่ยวจะมีสัดส่วนน้อยกว่าใน GDP ของกัมพูชา แต่บาเนอร์จีกล่าวว่า จะเป็นการเข้าใจผิด หากคิดว่ากัมพูชามีความเปราะบางน้อยกว่าในภาคการท่องเที่ยว
"ไม่เหมือนไทย กัมพูชาไม่มีเครื่องมือทางนโยบายมากนัก เช่น องค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยว กองทุนสำรองทางการคลังขนาดใหญ่ หรือระบบสวัสดิการทางสังคมที่เข้มแข็งเพื่อรองรับผลกระทบ" บาเนอร์จีกล่าว
โจชัว เคอร์แลนซิก นักวิจัยอาวุโสด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้จากสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กล่าวว่า ความขัดแย้งดังกล่าวจะส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อเศรษฐกิจไทย เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวหลักของไทยอยู่ห่างไกลจากบริเวณชายแดนที่มีการปะทะกันกับกัมพูชา โดยการท่องเที่ยวส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ เช่น กรุงเทพฯ และเชียงใหม่
ข้อมูลจาก The Vacationer ซึ่งเป็นเว็บไซต์ท่องเที่ยว ระบุว่า กรุงเทพฯ และภูเก็ต เป็นแหล่งสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในปี 2567 โดยกรุงเทพฯ อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาราว 260 กิโลเมตร ส่วนภูเก็ตอยู่ห่างไกลมากกว่านั้น
เคอร์แลนซิกกล่าวว่า กัมพูชาจะเสียประโยชน์มากกว่า เนื่องจากจะถูกมองว่ามีความไม่มั่นคงและมีอันตรายมากกว่าไทย และยังไม่มีนักท่องเที่ยวขาประจำเช่นเดียวกับที่ไทยมี
เกษม พันธ์รัตนมาลา ผู้บริหารสูงสุด สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชาจะได้รับผลกระทบมากกว่า เนื่องจากการปิดชายแดนทำให้ชาวไทยจำนวนมากไม่สามารถข้ามชายแดนไปเล่นการพนันในกัมพูชา ในทางกลับกัน จังหวัดของไทยที่อยู่ใกล้ชายแดนกัมพูชานั้น โดยทั่วไปไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยว แม้แต่ในหมู่นักท่องเที่ยวของไทยเอง