“มวยไทย-ดนตรีไทย” ส่งเสริมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ “เฉิงตู เวิลด์เกมส์”
สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองเฉิงตู ประเทศจีน เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ว่าคุณกุลณัฐที่เดินทางเยือนเมืองเฉิงตูเป็นครั้งแรกนั้นรู้สึกประทับใจกับสภาพแวดล้อมสะอาดสะอ้าน ความสะดวกสบายของการใช้ชีวิต และพลังความคึกคักของเหล่าผู้ชมชาวจีน ซึ่งเข้ามาพูดคุยกับเธอหลังจากจบการแข่งขัน รวมถึงความชื่นชอบสนใจของผู้ชมชาวจีนที่มีต่อกีฬามวยไทย พิธีไหว้ครูมวยไทย และดนตรีไทยข้างสังเวียนการแข่งขัน
“นอกจากสร้างความแข็งแกร่งแก่ร่างกาย มวยไทยยังช่วยแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมได้ด้วย” คุณกุลณัฐกล่าว พร้อมแสดงความหวังว่า มวยไทยจะก้าวไกลสู่เวทีโลกและเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากขึ้น
ด้าน “หลิวเสี่ยวฮุ่ย” นักกีฬามวยไทยทีมชาติจีน ซึ่งคว้าเหรียญทองหลังจากเอาชนะคุณกุลณัฐ ด้วยการผสมผสานแนวคิด “ใช้ไม้อ่อนสยบไม้แข็ง” ของศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมอย่างมวยไทเก๊ก เข้ากับเทคนิคการชกมวยไทย กล่าวว่า มวยไทยใช้ทั้งการต่อย เตะ ศอก และเข่า ทำให้การฝึกฝนมวยไทยช่วยพัฒนาความสอดประสานกันของร่างกายและจิตใจ
นอกจากลีลาการต่อสู้อันดุเดือดแล้ว เสน่ห์ของมวยไทยยังรวมถึง “พิธีไหว้ครูมวยไทย” ซึ่งนักชกจะคุกเข่าพนมมือสวดบทไหว้ครูบาอาจารย์อย่างเคารพนบนอบ ตั้งจิตอธิษฐานด้วยท่วงท่าเชื่องช้าทว่าสง่างาม เพื่อหลอมรวมสมาธิและพลังสำหรับการต่อสู้อันท้าทาย โดยมีสุ้มเสียงจากกลองแขก ปี่ชวา และฉิ่งของวงดนตรีไทยช่วยเสริมสร้างมนต์ขลัง
คุณแนววิทย์ นิยมวงศ์ มือกลองแขกของวงดนตรีไทย กล่าวว่า ยกแรกของการแข่งขันจะเล่นเพลงเดิมเสมอ ก่อนจะเปลี่ยนไปเล่นเพลงอื่น ๆ ในยกสองตามบรรยากาศของการแข่งขัน ก่อนจะกลับมาเล่นเพลงเดิมในยกสาม โดยสิ่งสำคัญคือจังหวะจะเร่งเร้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นความฮึกเหิมของนักชกบนสังเวียน
ทั้งนี้คุณแนววิทย์และวงดนตรีไทยของเขาจะยังคงอยู่ที่เมืองเฉิงตู แม้การแข่งขันมวยไทยของการแข่งขันกีฬาเวิลด์เกมส์เสร็จสิ้นแล้ว เพื่อมีส่วนร่วมกับกิจกรรมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมจีน-ไทย เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ.
ข้อมูล-ภาพ : XINHUA