ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลัง IEA คาดอุปทาน ปี 68 พุ่งสวนอุปสงค์อ่อน
ราคาน้ำมันดิบวันนี้ปรับตัวลดลง หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปทานน้ำมันดิบโลกปี 2568 สวนทางกับแนวโน้มอุปสงค์ที่ยังชะลอตัวจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่ โดยตลาดกังวลว่าปริมาณน้ำมันส่วนเกินอาจกดดันราคาในระยะสั้น แม้ยังมีแรงหนุนบางส่วนจากสถานการณ์ตึงตัวด้านอุปทานในบางภูมิภาค
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบต่างประเทศประจำวันที่ 14 ส.ค. 2568 มีการเปลี่ยนแปลงตามชนิดที่อ้างอิง ดังนี้
- เวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 62.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.52 ดอลลาร์
- เบรนท์ (Brent) อยู่ที่ 65.63 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.49 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวลดลง หลังสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของอุปทานน้ำมันโลกปี 2568 เป็น 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิม 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน สาเหตุจากกลุ่ม OPEC+ เดินหน้าปรับเพิ่มกำลังการผลิต
ขณะที่คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันปีนี้เพิ่มขึ้นเพียง 680,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลงจากเดิมที่ 700,000 บาร์เรลต่อวัน สะท้อนถึงความต้องการใช้ในกลุ่มเศรษฐกิจหลักที่ยังอ่อนแอ
เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2568 ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอยู่ที่ 62.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.52 ดอลลาร์ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 65.63 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.49 ดอลลาร์ ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุด 8 ส.ค. เพิ่มขึ้น 3.0 ล้านบาร์เรล สู่ 426.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับการคาดการณ์ว่าจะลดลง 0.3 ล้านบาร์เรล บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่ชะลอตัว
ขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อสหรัฐ (CPI) เดือนก.ค. 2568 อยู่ที่ 2.7% ทรงตัวจากเดือนก่อน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบควบคุม หนุนการคาดการณ์ว่าเฟดอาจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 16–17 ก.ย. 2568