"พิชัย" รับฟังข้อเสนอหอการค้าไทย พร้อมหารือหน่วยงานช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการในพื้นที่ชายแดน 7 จังหวัด
รองนายกฯ พิชัย รับฟังข้อเสนอหอการค้าไทย พร้อมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการในพื้นที่ชายแดน 7 จังหวัด
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (21 ส.ค. 68) เวลา 12.25 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ดร. พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศ พร้อมคณะ เข้าพบนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเข้ายื่นหนังสือข้อเสนอมาตรการช่วยเหลือเยียวยา กรณีผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย - กัมพูชา
โดยรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แรงงานถือเป็นประเด็นเร่งด่วนที่จะต้องเร่งแก้ไขอย่างเป็นระบบ โดยรัฐบาลจะจัดเวิร์กช็อปขนาดเล็ก เชิญเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางที่ชัดเจน ทั้งการดูแลแรงงานที่มีใบอนุญาตให้สามารถพำนักและทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขณะเดียวกันก็จะเร่งดำเนินการตรวจสอบและนำแรงงานที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดรับแรงงานเพิ่มเติม เพื่อตอบสนองความต้องการแรงงานในหลายภาคส่วน
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้รับฟังข้อเสนอจากคณะ ดังนี้
- มาตรการช่วยเหลือเยียวยาด้านแรงงานและการจ้างงาน ขอให้ลดเงินสมทบประกันสังคม สนับสนุนแรงงานทดแทนจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมียนมา รวมถึงประเทศอื่น ๆ เช่น บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เป็นต้น และจัดตั้งศูนย์ประสานงานแรงงานจังหวัด เพื่อบรรเทาภาระผู้ประกอบการ ดูแลแรงงานทั้งไทยและต่างด้าว และทำให้ระบบการจ้างงานเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และยั่งยืน
- มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดยขอให้รัฐบาลพิจารณามาตรการสนับสนุนหรืองบประมาณแก่หน่วยงานภาครัฐและภาคีเอกชน สำหรับการจัดสัมมนาและศึกษาดูงานในพื้นที่ 7 จังหวัด เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยว
- มาตรการด้านภาษีและค่าธรรมเนียม ขอให้พิจารณามาตรการลดภาษีในส่วนของภาษีท้องถิ่น (ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีป้าย ฯลฯ) รวมทั้งพิจารณาใช้มาตรการภาษีเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการในพื้นที่ชายแดน 7 จังหวัด
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการท่องเที่ยวว่า จะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อกำหนดมาตรการเชิงรุกในการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการสนับสนุนการจัดสัมมนาและกิจกรรมสำคัญใน 7 จังหวัดเป้าหมาย เพื่อสร้างบรรยากาศคึกคัก กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน สำหรับการดำเนินการด้านภาษี รัฐบาลจะพิจารณาเป็นรายมาตรการ เพื่อให้สามารถปรับใช้ได้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยยึดหลักความสมดุลระหว่างการดูแลรายได้ของรัฐและการบรรเทาภาระของประชาชน
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า จะนำข้อเสนอดังกล่าวไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันในทุกระดับ ลดความคลาดเคลื่อนในการปฏิบัติ และสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนว่า รัฐบาลพร้อมดูแล แก้ไขปัญหา และขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ อย่างจริงจัง