โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ศาลไฟเขียว ผู้เสียหาย STARK หุ้นกู้-หุ้นสามัญ ทวงค่าเสียหาย 4 หมื่นล้าน

การเงินธนาคาร

อัพเดต 21 สิงหาคม 2568 เวลา 23.37 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ไฟเขียว ผู้เสียหาย STARK หุ้นกู้-หุ้นสามัญ รวมพลังทวงค่าเสียหายกว่า 4 หมื่นล้าน

วันที่ 21 ส.ค. 2568 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ มีคำสั่งอนุญาตตามคำร้องซึ่งนายอภิวัชร์ อรรคลีพันธุ์ โดยนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ผู้รับมอบอำนาจเป็นตัวแทนผู้เสียหาย ‘กลุ่มรวมพลังสตาร์ค’ ยื่นฟ้องและขอดำเนินคดีแบบกลุ่ม (class action) เพื่อเรียกค่าเสียหายจาก บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) และจำเลยอีกหลายรายให้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นักลงทุนทั้งหุ้นกู้และหุ้นสามัญหลายหมื่นราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 40,000 ล้านบาท

โดยศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ในคดีหมายเลขดำที่ ผบ266/2567 ได้นัดอ่านคำสั่งตามคำร้องที่นายอภิวัชร์ อรรคลีพันธุ์ โดยนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ผู้รับมอบอำนาจได้ยื่นคำร้องขอดำเนินคดีแบบกลุ่มไปเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2567 และศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ดำเนินคดีแบบกลุ่มทั้งในส่วนของหุ้นกู้และหุ้นสามัญ STARK และมีคำสั่งจำหน่ายจำเลยบางรายที่เคยถูกพิทักษ์ทรัพย์หรือบางรายถูกฟ้องคดีไปแล้วออกจากคดีบางส่วน แต่ยังคงมีจำเลยที่ถูกดำเนินคดีต่อไปอีก 19 ราย

โจทก์ในคดีนี้ได้เรียกค่าสินไหมทดแทนรวมค่าเสียหายเพื่อการลงโทษให้สมาชิกกลุ่มทั้งส่วนหุ้นกู้และหุ้นสามัญเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท

นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายในฐานะผู้รับมอบอำนาจโจทก์และตัวแทน ‘กลุ่มรวมพลังสตาร์ค’ กล่าวว่า คดีนี้เป็นเรื่อง STARK คดีเดียวในเวลานี้ที่ฟ้องบริษัท (STARK)และเรียกค่าเสียหายให้ทั้งผู้เสียหายทั้งส่วนหุ้นกู้และหุ้นสามัญรวมในคดีเดียว พร้อมฟ้องอดีตผู้บริหาร ผู้ตรวจสอบภายใน ผู้สอบบัญชีและผู้เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ในคดีเดียวกัน

ดังนั้นจึงขอเชิญผู้เสียหายกลุ่มอื่นๆ ให้ร่วมหารือแนวทางในการรวมพลังดำเนินคดีให้เกิดประสิทธิภาพและรวดเร็วที่สุดเพื่อประโยชน์ร่วมกันของผู้เสียหายทุกคน

นายวีรพัฒน์กล่าวต่อว่า คดีนี้แตกต่างอย่างมีสาระสำคัญไปจากคดีก่อนหน้านี้ที่มีการยื่นฟ้องจำเลยแตกต่างกันไป บางคดีฟ้องเรื่อง STARK แต่กลับไม่ฟ้องบริษัท(STARK ) บางคดีอ้างงบการเงินเป็นเท็จแต่ไม่ได้ฟ้องผู้สอบบัญชีและไม่ได้คุ้มครองผู้ลงทุนหุ้นกู้และหุ้นสามัญให้ครบถ้วนในคดีเดียวกัน

จากนี้จะขอนำคำสั่งไปศึกษาเนื้อหาโดยละเอียดและหารือกับผู้เสียหายและทีมทนายความเตรียมใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์เพื่อขอให้ศาลอุทธรณ์นำคดีแบบกลุ่มคดีอื่นที่มีการฟ้องไปก่อนหน้านี้ให้รวมการพิจารณาและกำหนดขอบเขตสมาชิกกลุ่มเพื่อช่วยให้ผู้เสียหายทั้งหุ้นกู้หุ้นสามัญและวอร์แรนต์สามารถรวมพลังต่อสู้คดีไปพร้อมกันโดยฟ้องมีจำเลยที่เกี่ยวข้องให้ครบทุกรายในคดีเดียวกัน

ทั้งนี้ คดีนี้สืบเนื่องจากผู้เสียหาย ‘กลุ่มรวมพลังสตาร์ค’ ได้มีตัวแทนเป็นโจทก์ยื่นฟ้องบรรดาจำเลยในความผิดทางแพ่งฐานละเมิดที่มีส่วนสร้างความเสียหายอันเกี่ยวกับการกระทำที่มีการตระเตรียมวางแผนเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากตลาดทุน โดยเฉพาะการปล่อยละเลยหรือยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จ ทำบัญชีไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง ในบัญชีหรือเอกสารของ STARK และบริษัทย่อย เพื่อลวงนักลงทุน

อีกทั้งเปิดเผยในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวน(ไฟลิ่ง) โดยเปิดเผยงบการเงินที่เชื่อได้ว่ามีการตกแต่งงบการเงินดังกล่าว รวมทั้งปกปิดข้อความจริงในข้อมูลในส่วนสรุปข้อมูลสำคัญของตราสาร (factsheet) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแบบแสดงรายการข้อมูลสำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ STARK หรือแบบ 56-1 และการให้ข้อมูลต่อสาธารณะที่กระทบต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุนว่าได้มีการเข้าลงทุนในบริษัท LEONI Kabel GmbH และ LEONIsche Holding Inc แล้ว ทั้งที่ยังเข้าลงทุนในกิจการดังกล่าวไม่เสร็จเรียบร้อย

ทั้งนี้ ปรากฏว่าหลังจากที่ STARKได้รับเงินหุ้นกู้และเงินเพิ่มทุน พบการโอนเงินออกจากบริษัท (STARK)และบริษัทย่อยไปยังบริษัทหรือบุคคลอื่นซึ่งเกี่ยวข้องกับการตกแต่งงบการเงินด้วย ตลอดจนการกระทำความผิดอื่นๆ เพื่อตักตวงประโยชน์จากราคาหุ้นสามัญและการได้ไปซึ่งทรัพย์สินหรือผลประโยชน์โดยไม่ชอบ

จึงได้มีตัวแทนผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องและริเริ่มขอดำเนินคดีผู้บริโภคแบบกลุ่มเพื่อให้ผู้เสียหายจากการลงทุนหุ้นกู้ หุ้นสามัญ และ ใบสำคัญแสดงสิทธิ์(วอร์แรนท์) STARK ทุกรายได้รับความเป็นธรรมสูงสุดยิ่งกว่าคดีอื่นที่อาจมีการฟ้องจำเลยไม่ครบรายหรือยกข้อเท็จจริงข้อกฎหมายได้ไม่ครบถ้วน

สำหรับเนื้อหาคำสั่งศาลนั้น ในเรื่องข้อหา ศาลเห็นว่า คำฟ้องโจทก์ทั้งในส่วนของหุ้นกู้และหุ้นสามัญได้แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหา คำขอบังคับ รวมทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์และกลุ่มบุคคลที่มีลักษณะเดียวกับโจทก์แล้ว แม้ลักษณะความเสียหายของสมาชิกกลุ่มจะแตกต่างกันตามเงื่อนไขและช่วงเวลาในการซื้อขายหุ้นกู้และหุ้นสามัญของ STARK จำเลยที่ 1 ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็เป็นรายละเอียดที่จะต้องแสวงหาข้อเท็จจริงในชั้นพิจารณาต่อไป ซึ่งโจทก์สามารถนำสืบแสดงรายละเอียดของสมาชิกกลุ่มในชั้นพิจารณาได้

ในเรื่องกลุ่มผู้เสียหาย ศาลเห็นว่า โจทก์แสดงให้เห็นว่าโจทก์และสมาชิกกลุ่มต่างได้รับผลกระทบจากการดำเนินการของจำเลยที่ 1 ซึ่งจำเลยทั้งยี่สิบสี่มีส่วนเกี่ยวข้องคือการรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับงบแสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของจำเลยที่ 1 อันเป็นเท็จ แม้ความเสียหายหรือผลกระทบมีความแตกต่างกัน แต่ความเสียหายสืบเนื่องมาจากการกระทำเดียวกัน จึงถือได้ว่าโจทก์ได้แสดงให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะที่เหมือนกันของกลุ่มบุคคลที่ชัดเจนเพียงพอเพื่อให้รู้ได้ว่าเป็นกลุ่มบุคคลใดแล้ว

ในเรื่องประสิทธิภาพในการดำเนินคดี ศาลเห็นว่า โจทก์เสนอบัญชีรายชื่อโจทก์และสมาชิกกลุ่ม ซึ่งปรากฏว่าสมาชิกกลุ่มซึ่งเป็นผู้ซื้อหุ้นกู้ และผู้ซื้อขายหุ้นสามัญในช่วงเวลาตามคำร้องกว่า 2 หมื่นรายดังนั้นหากดำเนินคดีอย่างคดีสามัญด้วยการเป็นโจทก์ร่วมหรือร้องสอดหรือสมาชิกกลุ่มแต่ละรายเป็นโจทก์แยกฟ้องเป็นคดีต่างหาก ย่อมจะทำให้เกิดความยุ่งยากและไม่สะดวก หรือผลแห่งคดีแต่ละคดีอาจมีความแตกต่างกันทั้งๆที่คดีมีลักษณะเดียวกัน ดังนี้ หากอนุญาตให้ดำเนินคดีนี้แบบกลุ่มจะเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพมากกว่าการดำเนินคดีอย่างคดีสามัญ

ในเรื่องความสามารถและคุณสมบัติของโจทก์และทนายความนั้น ศาลเห็นว่า โจทก์ได้แสดงให้เห็นว่าโจทก์และสมาชิกกลุ่มมีสิทธิอย่างเดียวกันอันเนื่องมาจากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเดียวกัน ผู้รับมอบอำนาจโจทก์และทนายโจทก์มีประสบการณ์ในการทำงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและด้านคดีกลุ่ม ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้มีคุณสมบัติและมีส่วนได้เสียโดยตรงจากการกระทำของจำเลยทั้งยี่สิบสี่ และเมื่อพิจารณารายชื่อและผลงานของผู้รับมอบอำนาจ ทนายความโจทก์และทนายความของกลุ่ม เป็นผู้มีความรู้และความเข้าใจข้อเท็จจริงในคดี มีประวัติการทำงานและประสบการณ์ บทบาทและหน้าที่ในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม จึงเชื่อได้ว่าโจทก์ ผู้รับมอบอำนาจและทนายความที่โจทก์เสนอมีความสามารถเพียงพอที่จะคุ้มครองสิทธิของโจทก์และสมาชิกกลุ่มได้อย่างเพียงพอและเป็นธรรม

ศาลจึงสรุปว่าคำร้องขอดำเนินคดีแบบกลุ่มของโจทก์จึงครบหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ จึงมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ดำเนินคดีแบบกลุ่มได้ และให้คู่ความใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้ต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับ สถานการณ์หุ้นไทย-ตลาดหุ้นไทย ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก การเงินธนาคาร

หุ้นไทย ปิดลบ 3.34 จุด แรงขาย THAI-กลุ่มแบงก์ แม้แรงซื้อปิโตรหนุน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ก.ล.ต.ฟ้องแพ่ง 13 ราย ปั่นหุ้น MAX, EIC, NEWS , NEWS-W5 เรียกค่าปรับ 202 ลบ. พร้อมดอกเบี้ย

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บอนด์ยีลด์ญี่ปุ่นอายุ 20 ปี พุ่งสูงสุดรอบ 26 ปี กังวลรัฐออกพันธบัตรเพิ่ม ต่างชาติชะลอซื้อ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ปตท. คว้าอันดับ 1 มูลค่าแบรนด์สูงสุดในไทย 5 ปีซ้อน

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

Intel ยักษ์ตื่นหรือแค่ละเมอชั่วคราว ?

Stock2morrow

บาททรงตัว ตลาดจับตาการประชุมที่แจ็กสัน โฮล

ประชาชาติธุรกิจ

ดัชนีกองทุนเทรเชอริสต์ รายสัปดาห์ ( ข้อมูล ณ ศุกร์ที่ 15 ส.ค. 68 เทียบกับ ศุกร์ที่ 8 ส.ค. 68 )

เทรเชอริสต์

กพช.ไฟเขียวแผนขยายอายุโรงไฟฟ้าน้ำพอง-แม่เมาะ หวังลดต้นทุน ลดภาระค่าไฟประชาชน

ทันหุ้น

ก.ล.ต.ฟ้องแพ่ง 13 รายปั่นหุ้น MAX-EIC-NEWS รวม 202 ลบ.พร้อมดบ.หลังไม่รับโทษชำระค่าปรับ

กรุงเทพธุรกิจ

แวะเติมก่อนกลับ พรุ่งนี้ปตท.-บางจากขึ้นเบนซิน -แก๊สโซฮอล์ 0.40 บาท/ลิตร

ทันหุ้น

ค่าเงินบาท ปิดวันนี้ 21 ส.ค. ที่ 32.61 บาท อ่อนค่าตามทิศทางภูมิภาค

The Bangkok Insight

ทริสฯ คงอันดับเครดิตองค์กร "ACE” ที่ “BBB+” แนวโน้ม “Stable”

ทันหุ้น

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...