พรรคประชาชน แฉ งบกองทัพบก ขอสร้างอาคารราชการ 4,700 ล้านบาท
วันที่ 13 ส.ค. 2568 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2569 วาระที่ 2 และ 3 นายณัฐพงศ์ เปรมพูลสวัสดิ์ สส.กรุงเทพ พรรคประชาชน อภิปรายในมาตรา 8 งบประมาณกระทรวงกลาโหม โดยขอแปรญัตติปรับลดงบประมาณในส่วนของกองทัพบก ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารสถานที่ราชการลง 5%
นายณัฐพงศ์ ระบุว่า ในช่วงการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2569 ในวาระที่หนึ่ง ตนเคยอภิปรายเรื่องของการก่อสร้างอาคารสถานที่ราชการของหน่วยงานต่างๆ รวมงบประมาณทั้งสิ้นหลักแสนล้านบาท รวมถึงงบผูกพันที่จะเกี่ยวเนื่องไปในอนาคตด้วย แต่ในวันนี้ตนขออภิปรายถึงในส่วนของกระทรวงกลาโหมโดยเฉพาะ ด้วยเหตุว่าหน่วยงานที่มีการก่อสร้างอาคารสถานที่ราชการมากที่สุดในปี 2569 คือ กองทัพบก ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่ในสังกัดกระทรวงกลาโหม
กองทัพบกมีโครงการสร้างอาคารสถานที่ราชการอยู่ถึง 4,700 ล้านบาทในปี 2569 เป็นงบประมาณก้อนใหญ่ ซึ่งทั้งหมดเป็นการสร้างโดยใช้งบประมาณปีเดียวทั้งสิ้น ไม่มีแม้แต่โครงการเดียวที่เป็นโครงการผูกพัน โดยที่คณะกรรมาธิการฯ มีการปรับลดงบประมาณไปเพียงแค่ 30 ล้านบาท หรือไม่ถึง 1% ของงบประมาณเท่านั้น นอกจากนี้กองทัพต่างๆ ในสังกัดของกระทรวงกลาโหมก็ล้วนแต่ติดอยู่ใน 10 ลำดับแรกทั้งนั้น
นายณัฐพงศ์ กล่าวต่อว่า แต่ทุกหน่วยงานล้วนมีโครงการผูกพัน มีแค่หน่วยงานเดียวคือ กองทัพบก ที่ไม่มีโครงการผูกพัน ซึ่งหากดูเช่นนี้จะเห็นเหมือนว่าโครงการของกองทัพบกทั้งหมดสามารถดำเนินการเสร็จได้ภายในปีเดียว แต่เมื่อลงไปดูเนื้อหาในเอกสารงบประมาณที่เข้าพิจารณาในวาระที่หนึ่ง ย้อนไปในช่วงประมาณ 9-10 ปีก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ช่วงปี 2561-2569 ก็จะพบว่า ในส่วนของโครงการที่มีการของบประมาณก่อสร้างมาปีนี้เป็นงบประมาณปีเดียว ความจริงแล้วเป็นการขอปีเดียวแบบขอมาซ้ำทุกปี ทั้งหมด 47 รายการ ไม่รวมในส่วนของโครงการที่มีงบประมาณต่ำกว่า 10 ล้านบาท มีเพียงแค่ 3 โครงการที่มีการของบประมาณปี 2569 เป็นปีแรก
บางโครงการจะเห็นได้ว่า มีการของบประมาณมาทุกปีด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการย้ายที่ตั้งโรงเรียนนายสิบ ปีนี้มีการของบประมาณมาเพียงแค่ 26 ล้านบาท แต่ความจริงมีการขอมา 8 ปีติดต่อกัน รวมเป็นงบประมาณทั้งหมด 604 ล้านบาท
ขณะที่โครงการซ่อมปรับปรุงเรือนแถวนายทหารสัญญาบัตร ของบประมาณปีนี้มา 264 ล้านบาท แต่ถ้ามองย้อนไป 9 ปีเป็นอย่างน้อยจะเห็นว่าโครงการนี้ใช้ไปแล้วถึง 2,000 ล้านบาท หลายโครงการก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ มีการของบประมาณอย่างต่อเนื่องมาแล้วถึง 7-9 ปี รวมแล้วหลายโครงการเป็นงบประมาณถึงหลักพันล้านบาท
นายณัฐพงศ์กล่าวต่อไปว่าดังนั้น ทั้งหมด 47 โครงการของกองทัพบกที่มีการขอเข้ามาในปี 2569 อาจจะดูเหมือนว่าเป็นงบประมาณ 4,700 ล้านบาท แต่ถ้าดูตัวเลขที่รวมโครงการดูเหมือนจะไม่ผูกพันแต่ความจริงผูกพันนี้แล้ว จะเห็นว่าเป็นงบประมาณมากถึง 32,000 กว่าล้านบาท ซึ่งถือเป็นงบประมาณก้อนใหญ่มาก
ขณะที่หน่วยงานอื่นไม่ว่าจะเป็นกองทัพเรือ กองทัพอากาศ หรือ กองบัญชาการกองทัพไทย ล้วนมีการตั้งงบประมาณโครงการก่อสร้างเป็นลักษณะโครงการผูกพันหรือเป็นแผนกันอย่างชัดเจนทั้งสิ้น
แต่ในส่วนของกองทัพบก การตั้งงบประมาณในลักษณะนี้ทำให้สภาไม่สามารถที่จะเห็นได้ว่าตัวเลขงบประมาณโดยภาพรวมทั้งหมดที่จะทำจนแล้วเสร็จ จะเสร็จในปีไหน อย่างไร และใช้งบประมาณเท่าไหร่ในการดำเนินการทั้งหมด ประชาชนเองก็ไม่สามารถที่จะตรวจสอบความคืบหน้าได้ว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป อีกทั้งเป็นโครงการที่ใช้คำใหญ่ๆ กว้างๆ แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในอนุกรรมาธิการฯ หรือได้ไปดูเอกสารในอนุกรรมาธิการฯ จะไม่สามารถเห็นรายละเอียดด้านในได้เลยว่าความจริงแล้วในหนึ่งโครงการนั้นแบ่งย่อยเป็น 30-40 โครงการย่อย ทำให้คณะกรรมาธิการฯ หรือสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถที่จะพิจารณางบประมาณได้อย่างมีเวลามากเพียงพอ และพิจารณาได้เพียงแค่ในชั้นอนุกรรมาธิการฯ ซึ่งมีเวลาน้อยมาก
นายณัฐพงศ์ กล่าวต่อว่า การที่ตนอภิปรายในวันนี้ ความจริงแล้วตนมีความเข้าใจดีว่าบางโครงการมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ แต่เรื่องของรูปแบบโครงการและการของบประมาณก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเป็นไปในมาตรฐานเดียวกันกับหน่วยงานราชการอื่น หรืออย่างน้อยควรเป็นมาตรฐานเดียวกันกับหน่วยงานด้านความมั่นคงหน่วยงานอื่น