โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที

“สึนามิ” ทุกวินาทีมีค่า เครื่องมือที่ใช้อยู่ตรวจจับได้เร็วและแม่นยำแค่ไหน ?

BT Beartai

อัพเดต 23 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 23 ชั่วโมงที่ผ่านมา
“สึนามิ” ทุกวินาทีมีค่า เครื่องมือที่ใช้อยู่ตรวจจับได้เร็วและแม่นยำแค่ไหน ?

เหตุการณ์แผ่นดินไหว และภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงนี้ สร้างความกังวลถึงโอกาสการเกิดของ ‘สึนามิ’ แม้ในปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยจะมีระบบแจ้งเตือนหรือเครื่องมือที่ตรวจจับการเกิดสึนามิได้ แต่ก็ยังมีคำถามอยู่ว่าระบบเตือนภัยหรืออุปกรณ์ตรวจจับเหล่านั้นมีประสิทธิภาพสามารถเตือนภัยได้รวดเร็วแค่ไหนในช่วงวินาทีแห่งความเป็นความตาย

เมื่อพูดถึงเครื่องมือตรวจจับสึนามิ จะมีหลายเทคโนโลยีที่ทำงานร่วมกันเพื่อเฝ้าระวังและเตือนภัยล่วงหน้า โดยแต่ละชนิดมีหน้าที่ชัดเจน แตกต่างกันในแง่กลไกการทำงานและระยะเวลาที่ใช้ในการตรวจจับ

บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับอุปกรณ์ตรวจจับสึนามิ ว่ามีกลไกการทำงานแบบไหน รวดเร็ว ถูกต้องและแม่นยำในการส่งข้อมูลแจ้งเตือนแก่ประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบ เพื่อประโยชน์สำคัญในการเอาตัวรอด และอพยพได้อย่างปลอดภัยได้อย่างไรบ้าง ?

เครื่องวัดแรงสั่นสะเทือน (Seismic Sensors)

เครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจจับแรงสั่นสะเทือนของพื้นดินอย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นจากแผ่นดินไหว การระเบิด หรือการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก โดยเครื่องมือนี้จะสามารถบันทึกความเคลื่อนไหวแม้เพียงเล็กน้อยที่เกิดขึ้นใต้พื้นผิวโลก ซึ่งประสาทสัมผัสของมนุษย์ไม่สามารถรับรู้ได้

ภาพ เครื่องวัดแรงสั่นสะเทือน ที่มา : Wikimedia/volně k užití

กลไกการทำงานของเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนตัวนี้จะถูกติดตั้งบนพื้นผิวน้ำและใต้ทะเล เพื่อตรวจจับการสั่นสะเทือนที่เกิดจากแผ่นดินไหว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของคลื่นสึนามิ

โดยระบบเตือนภัยจะตรวจจับความรุนแรงและตำแหน่งทันทีหลังเกิดแผ่นดินไหว และออกการเตือนได้ภายในไม่กี่นาที เช่น ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือนจะเตือนภายใน 3 นาทีหลังเกิดเหตุ

โดยจะใช้ในประเทศ ญี่ปุ่น เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ หรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อแผ่นดินไหว เช่น อิตาลี อินโดนีเซีย ชิลี และนิวซีแลนด์ ก็มีการใช้งานเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือน เพื่อการเฝ้าระวังและเตือนภัย

ระบบทุ่นประเมินและรายงานสึนามิในมหาสมุทรลึก (DART)

ระบบทุ่นประเมินและรายงานสึนามิในทะเลลึก (Deep-ocean Assessment and Reporting of Tsunami System) เป็นการติดตั้งระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิที่เป็นการวัดการเกิดคลื่นสึนามิโดยตรง ซึ่งจะทำให้สามารถรับข้อมูลการเกิดคลื่นสึนามิตามเวลาจริง สามารถประเมินขนาดของคลื่นและเวลาที่คลื่นจะเข้ากระทบฝั่งได้อย่างแม่นยำ ถูกต้อง เป็นไปตามมาตรฐาน

ระบบ DART นิยมใช้กันหลายประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา ไทย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมหาสมุทรอินเดีย

ระบบการทำงานของทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในการแจ้งเตือนภัย

ระบบตรวจวัดคลื่นสึนามินี้ได้รับการออกแบบโดยหน่วยงานบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (National Oceanic and Atmospheric Administration : NOAA) ประกอบด้วย เครื่องมือ 2 ส่วน ดังนี้

  • อุปกรณ์วัดความดันใต้ท้องทะเล (Bottom Pressure Recorder : BPR)

BPR เป็นหนึ่งในสองอุปกรณ์สำคัญของระบบ DART ถูกติดตั้งไว้ที่พื้นมหาสมุทรเพื่อตรวจวัดและบันทึกการเปลี่ยนแปลงความดันของน้ำหนักของน้ำที่กดทับอยู่เหนือเครื่องมือ

เครื่องบันทึกความดันน้ำอาศัยหลักการวัดยอดคลื่น-ท้องคลื่น ในมหาสมุทรที่วิ่งผ่านเหนือตัวเครื่อง โดยคำนวณปริมาตรของมวลน้ำด้านบนว่า มากหรือน้อยกว่าปกติ ทำให้เครื่องบันทึกอ่านค่าความดันจากน้ำหนักที่กดทับของน้ำได้ว่าสูงหรือต่ำกว่าปกติ

ภาพ เครื่องวัดความดันน้ำกำลังจะถูกหย่อนลงไปยังพื้นมหาสมุทร จาก www.bom.gov.au

ในช่วงสถานการณ์ปกติ เครื่องบันทึกความดันน้ำจะคอยตรวจวัดและบันทึกข้อมูลทุก ๆ 15 นาทีเพื่อประหยัดพลังงาน และยืดอายุการใช้งาน เมื่อมาตรวัดแผ่นดินไหวใต้ทะเลตรวจจับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวใต้น้ำได้ เครื่องบันทึกความดันน้ำที่อยู่คู่กันจะปรับความถี่การวัดเป็นทุก ๆ 15 วินาทีโดยอัตโนมัติ จากนั้นจะส่งสัญญาณเสียงขึ้นสู่ผิวน้ำ เพื่อปลุกทุ่นลอยให้ตรวจสอบคลื่นสึนามิอีกครั้งเป็นการยืนยันความถูกต้อง

  • ส่วนที่เป็นทุ่นลอยบนผิวน้ำ (Surface Buoy)

ทุ่นนี้จะมีเครื่องรับคลื่นเสียงความถี่ต่ำจากแท่นใต้สมุทร เครื่องแปลงสัญญาณเป็นสัญญาณดาวเทียม เครื่องส่งสัญญาณดาวเทียม และแบตเตอรี่พลังแสงอาทิตย์

ภาพ แสดงอุปกรณ์และระบบการทำงานของทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิ จาก thaiseafarer.com

ระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องตรวจวัดความดันน้ำและทุ่นลอยที่ผิวน้ำ ซึ่งอุปกรณ์ทั้งสองชนิดสื่อสารกันตลอดเวลา โดยเครื่องตรวจวัดความดันน้ำจะติดตามการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำและนำข้อมูลส่งผ่านไปยังทุ่นลอยในรูปของสัญญาณเสียงความถี่ต่ำ

สัญญาณดังกล่าวจะถูกแปลงเป็นสัญญาณดาวเทียม และถูกส่งต่อไปยังหน่วยงานบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (National Oceanic and Atmospheric Administration : NOAA) ข้อมูลจะถูกวิเคราะห์และนำเสนอในรูปกราฟความเปลี่ยนแปลงระดับน้ำ เผยแพร่ในเว็บไซต์ National Data Buoy Centre (http://www.ndbc.noaa.gov/)

หาก NOAA ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นคลื่นสึนามิก็จะแจ้งเตือนมายังศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และศูนย์เตือนภัยพิบัติต่าง ๆ รอบมหาสมุทรอินเดีย

การติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิของประเทศไทย

ปัจจุบันประเทศไทยติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิไว้ 2 จุด

จุดที่ 1 ทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในทะเลอันดามัน (สถานี 23461) ห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 300 กิโลเมตร

ภาพ การจำลองแบบคลื่นน้ำตื้นจากโปรแกรม SiTProS (Siam Tsunami Propagation Simulator) ที่มา : เฟซบุ๊กเพจ Somporn Chuai-Aree

ข้อมูลจาก ผศ.ดร. สมพร ช่วยอารีย์ ผู้อำนวยการสำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระบุผ่านเฟซบุ๊กหลังจากได้จำลองแบบจำลองสึนามิในกลุ่มแผ่นดินไหวสวอร์มว่า คลื่นจะเคลื่อนผ่านทุ่นใช้เวลาประมาณ 22 นาที และคลื่นจะเดินทางถึงบริเวณพังงา ใช้เวลาประมาณ 70 กว่านาที ซึ่งหากทุ่นได้รับข้อมูลว่าเกิดสึนามิเพื่อยืนยันว่าเกิดคลื่นสึนามิจริง บริเวณชายฝั่งจะมีเวลาวิ่งประมาณ39 นาที

โดยสมมติให้เวลากับทางศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติประมาณ 15 นาทีในการตัดสินใจ แต่หากเราได้ข้อมูลจากแผ่นดินไหวเราจะมีเวลามากกว่านั้น ซึ่งจะใช้ทุ่น 23461 เป็นตัวยืนยันในการตรวจสอบว่าเกิดคลื่นสึนามิหรือไม่

จุดที่ 2 ทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย (สถานี 23401) ห่างจากภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 960 กิโลเมตร (กรณีเกิดคลื่นสึนามิ จะสามารถวิเคราะห์และแจ้งเตือนได้ภายใน 1 ชั่วโมง 45 นาที

ดังนั้นเมื่อศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รับข้อมูลการเกิดสึนามิก็จะส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังหอเตือนภัยที่ติดตั้งในพื้นที่เสี่ยงภัย 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อให้ประชาชนอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย

ซึ่งระบบเตือนภัยฉุกเฉินของไทยในปัจจุบัน จะมีอยู่หลายระบบ ได้แก่ ระบบข้อความผ่าน SMS การแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT ที่พัฒนาโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา นำมาสู่การเร่งจัดทำ Cell Broadcast Service หรือ CBS ระบบเตือนภัยฉุกเฉิน ที่จะส่งข้อความเตือนภัยไปยังโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้บริการทุกเครื่อง ทุกเครือข่าย ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก BT Beartai

FOSSiBOT เปิดตัว F107 Pro: สมาร์ตโฟนกล้อง Starlight Night Vision รุ่นแรกของโลก, ทนทานเกรดกองทัพ

10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อินเดียแซงหน้าจีน เป็นผู้ส่งออกสมาร์ตโฟนไปสหรัฐฯ รายใหญ่ที่สุด

12 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สื่อนอกรายงาน : Honor เริ่มทดสอบ Power 2 พร้อมแบตเตอรี่ 10,000 mAh

13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Infinix HOT 60 Series สมาร์ตโฟนจอโค้งที่บางที่สุด พร้อมความจุสะใจ 256 GB ในราคา 6,499 บาท

15 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอทีอื่น ๆ

กปน. จัดงานการจัดการความรู้ KM Day สายงานวิศวกรรม ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “AQUANEXT MWA 2025 : น้ำเพื่ออนาคต”

เดลินิวส์

หลุดครบ! iPhone 17 ทั้ง 4 รุ่นหลัก สีสันตามภาพก่อนเปิดตัว

sanook.com

YouTube เปิดตัว AI ใหม่ ประเมินอายุผู้ใช้งาน พร้อมเปิดโหมดป้องกันเยาวชนอัตโนมัติ

sanook.com

จรวด Eris ของออสเตรเลียล้มเหลวในภารกิจปล่อยตัวครั้งประวัติศาสตร์

TNN ช่อง16

Google อัปเกรดใหญ่ "AI Mode" ให้ทำงานครอบคลุม

sanook.com

vivo Y50 5G สมาร์ตโฟน 5G ระดับเริ่มต้น ชิปเซ็ต Dimensity 6300 ได้มาตรฐาน IP64

Siamphone

เมื่อเทคโนโลยีเข้าบ้าน: Smart Home เปลี่ยนชีวิตเราอย่างไรบ้าง?

TOJO NEWS

FlyNow สตาร์ตอัปออสเตรียนำเฮลิคอปเตอร์จิ๋ว eCopter ขึ้นบินเป็นครั้งแรก

TNN ช่อง16

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...