โฆษกรัฐบาลยันไทยมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนเข้มงวด
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 3 สิงหาคม 2568 เวลา 21.25 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมททำเนียบฯ 3 ส.ค. – โฆษกรัฐบาลอัด “พล.ท.มาลี” เบี่ยงเบนกล่าวหา ยันไทยมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนเข้มงวด โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดน ด้านกองทัพแจ้ง 20 จังหวัด หากพบการบินโดรนจัดการเต็มที่
เมื่อเวลา 12.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวว่า รัฐบาลไทยขอเตือนกองกำลังของกัมพูชาที่ใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน บินเข้ามาในอาณาเขตอธิปไตยของประเทศไทย จะดำเนินการทำลายทันทีเมื่อรุกล้ำอธิปไตย รัฐบาลไทยโดยกองทัพบก และฝ่ายความมั่นคง ได้ยกระดับมาตรการแอนตี้โดรนอย่างเป็นรูปธรรม
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง 20 จังหวัด ผ่านระบบ VTC เพื่อกำชับมาตรการป้องกันและควบคุมการใช้โดรนในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณศาลากลางจังหวัด คลังอาวุธ สถานีขนส่ง สถานีตำรวจ สนามกีฬา และสนามบิน
โดยได้สั่งการให้ทุกจังหวัดบูรณาการการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภาคเอกชน และประชาชน ในการดำเนินการแอนตี้โดรน และจัดตั้งชุดลาดตระเวนเพื่อตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย รวมถึงดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดตามกฎหมาย หากพบพฤติการณ์ที่เข้าข่ายก่อการร้ายหรือเป็นสายลับ ซึ่งมีโทษร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต
นอกจากนี้ยังมีคำสั่งชัดเจนให้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำผิดทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยหากเป็นชาวต่างชาติ หลังจากดำเนินคดีแล้วจะถูกเนรเทศและขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ ห้ามกลับเข้ามาในประเทศไทยอีก รวมทั้งสำนักการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ยังได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 68 ห้ามบินโดนทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.-15 ส.ค. 68 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ยกเว้นหน่วยงานด้านความมั่นคง
นายจิรายุ ยังกล่าวถึงกรณี พล.ท.มาลี โสเจียตา โฆษกกลาโหมกัมพูชา ออกมาเบี่ยงเบนกล่าวหาระบุว่าไทยมีการส่งโดรนล่วงล้ำน่านฟ้ากัมพูชาว่า ยืนยันว่าประเทศไทยดำเนินมาตรการควบคุมการใช้โดรนอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน และไม่มีนโยบายใช้โดรนเพื่อรุกล้ำอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ ไม่จำเป็นต้องใช้โดรนบินเหมือนเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน
นายจิรายุ กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ประเทศไทยดำเนินการทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง และมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเคารพอธิปไตยของทุกประเทศ พร้อมกันนี้ประเทศไทยได้ตรวจพบกระสุนปืนใหญ่ วัตถุระเบิด และ BM-21 จำนวนมากในพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งหน่วยเก็บกู้ระเบิดดำเนินการทำลายล้างเพื่อความปลอดภัย ซึ่งแต่ละครั้งได้แจ้งล่วงหน้าต่อฝ่ายกัมพูชา ในกรณีการทำลายวัตถุระเบิดในพื้นที่ยอดภูเขือ เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิดทุกครั้ง
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาแสดงความจริงใจในการสื่อสารระหว่างกัน หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลที่บิดเบือนต่อสื่อหรือประชาคมโลก และร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ในการคลี่คลายสถานการณ์ชายแดน เพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศ.-316-สำนักข่าวไทย