เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา จุดไฟการเมืองร้อน กองทัพแซงหน้ารัฐบาล
รายงานพิเศษ: รัฐบาลไทยบนเส้นด้ายแห่งความขัดแย้ง
ระหว่างไฟชายแดนกับคลื่นใต้น้ำทางการเมือง
ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในสมการอำนาจของประเทศไทยในขณะนี้ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่คลอนแคลนระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายความมั่นคง
กองทัพนำหน้า รัฐบาลตามหลัง
ในขณะที่กองทัพไทยตอบสนองต่อสถานการณ์ด้วยความรวดเร็วและเด็ดขาด จนได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชน รัฐบาลกลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า "ล่าช้า-ลังเล-ไร้เอกภาพ" ยิ่งไปกว่านั้น ยังปรากฏร่องรอยของความไม่เป็นเอกภาพระหว่างรัฐบาลกับกองทัพอย่างเด่นชัด
ปมผลประโยชน์ในอ่าวไทย: ระเบิดเวลาทางภูมิรัฐศาสตร์
หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าเบื้องหลังความขัดแย้งอาจเกี่ยวข้องกับการจัดสรรผลประโยชน์ด้านพลังงานในเขตทับซ้อนทางทะเล ซึ่งไทยและกัมพูชายังไม่สามารถเจรจาแบ่งปันอย่างเป็นทางการ จนนำไปสู่แรงกระเพื่อมในหลากหลายมิติ ทั้งการทูต การทหาร และการเมืองภายใน
ผลกระทบภายในประเทศ: วิกฤตศรัทธาในฝ่ายการเมือง
บทบาทกองทัพพุ่งสูง
ความชอบธรรมของกองทัพไทยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากการแสดงบทบาทผู้นำในภาวะวิกฤต สวนทางกับความนิยมของรัฐบาลที่กำลังลดต่ำลง จนเกิดปรากฏการณ์ "ประชาชนให้เครดิตทหารมากกว่านักการเมือง"
คดีทักษิณ-แพทองธาร กระเทือนพรรคเพื่อไทย
การเมืองไทยยังต้องรับมือกับแรงกระแทกจากภายใน โดยเฉพาะคดีที่พัวพันกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญอาจหยิบยกสถานการณ์ชายแดนมาพิจารณาประกอบคำวินิจฉัย
ดัชนีความนิยมเริ่มถอย
แม้การลงพื้นที่ของทักษิณและแพทองธารจะเป็นยุทธศาสตร์สื่อสารกับประชาชนแบบเข้าถึง แต่กลับเริ่มมีเสียงต้านเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในยุคที่ตระกูลชินวัตรยังครองใจมวลชน
ประเทศไทยกำลังอยู่ท่ามกลางแรงบีบสองด้าน — ความขัดแย้งชายแดนที่ยังไร้ข้อยุติ และวิกฤตศรัทธาต่อฝ่ายการเมืองที่ส่อเค้าแตกร้าว รัฐบาลต้องเร่งสร้างเอกภาพทั้งในทางบริหารและความมั่นคง มิฉะนั้น อาจต้องเผชิญคลื่นลมทางการเมืองที่ยากจะประคับประคอง
ที่มาประกอบเนื้อหาข่าว เนชั่นอินไซต์